หากจะถามว่าใครคือคนที่ตำนานแห่ง NBA ที่มีทั้งคนในและนอกวงการรู้จักมากที่สุดชื่อของชายอย่าง ไมเคิล จอร์แดน น่าจะเป็นชื่อที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันกว้างขวางมากที่สุด ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักตัวของจอร์แดนกันอย่างดีว่าเขาคนนี้คือหนึ่งในตำนานที่ช่วยพาชิคาโก้ บูลส์ คว้าความสำเร็จอย่างมากมาย แต่ถึงแม้ว่าจอร์แดนจะกลายเป็นผู้สร้างตำนานให้กับทีมอย่างชิคาโก้ บูลส์ และ NBA มากมายเพียงใดก็ตาม แต่ทว่าเขากลับไม่ใช่ตำนานที่เล่นให้กับทีมเพียงแค่ทีมเดียว เพราะนอกจากชิคาโก้ บูลส์แล้ว เขายังเคยไปสังกัดทีมอื่น และทีมนั่นก็คือทีมอย่าง Washington Wizards แต่เรื่องราวเหล่านี้กลับไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไหร่นัก จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ สีเสื้อที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่นให้กับ Washington Wizards ของไมเคิล จอร์แดน ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า
จู่ ๆ ก็ลาออกจากงานบนเก้าอี้
เรื่องราวทั้งหมดในเริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายนปี 2001 ซึ่งก่อนหน้านั้นตัวของไมเคิล จอร์แดนที่ได้ตัดสินใจวางมือจากการเป็นผู้เล่นได้ตัดสินใจลองไปทำงานในรูปแบบนั่งโต๊ะบ้าง โดยเขาได้มาอยู่ในตำแหน่งประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการให้กับทีมบาสอย่าง Washington Wizards แต่ทว่าจู่ ๆ ในเดือนกันยาเดือนนั้นเขาก็ตัดสินใจร่อนจดหมายลาออกจากตำแหน่งเดิม และสิ่งที่เขาทำต่อมานั่นก็คือการสวมเสื้อทีมของวิซาร์ดแล้วเดินลงสู่สนามในฐานะของผู้เล่น
โดยจอร์แดนได้พูดถึงการที่เขาตัดสินใจลงมาสู่สังเวียนที่เขาคุ้นชินว่าในช่วงที่เขาทำหน้าที่ตำแหน่งผู้บริหารนั้นเขารู้สึกมีความสุขมาก ๆ ที่ได้แชร์ประสบการณ์ของเขาในตอนเล่นอยู่ให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ เพียงแต่ว่าการแชร์ประสบการณ์เหล่านั้นมันอาจจะยังไม่เพียงพอเพราะมันไม่เห็นภาพ และนั่นเองจึงทำให้เขาได้ตัดสินใจที่จะสอนเหล่าดาวรุ่งพวกนั้นด้วยการลงไปยืนในสนามจริงพร้อม ๆ กับพวกเขานั่นเอง นอกจากนั้นจอร์แดนยังคิดว่าการที่ตัวเขาลงไปเป็นคนวางรากฐานให้ทีมด้วยตัวเอง และการมีเขาคอยช่วยยกระดับผู้เล่นดาวรุ่งเหล่านั้น บางทีมันอาจจะทำให้ Washington Wizards สามารถบินสูงไปจนถึงรอบ Playoffs เลยก็เป็นได้
สร้างเสียงฮือฮา แต่ไม่ได้สร้างความประทับใจ
แน่นอนแหละว่าการกลับมาลงสู่สนามอีกครั้งของสตาร์ระดับตำนานคนนี้ย่อมสร้างแรงกระเพื่อมมหาศาลต่อวงการเพราะว่าทาง NBA เองก็เหมือนกับได้สตาร์ตัวชูโรงคนเดิมกลับมา แถมบรรดาเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่อยู่คนละยุคกับจอร์แดนก็มีโอกาสได้ปะทะฝีมือกับตำนานที่ยังมีลมหายใจคนนี้ในสนามแข่งจริง เพียงแต่ว่าแม้มันจะสร้างแรงกระเพื่อมได้มหาศาลเพียงใดก็ตาม พอมันถึงเวลาจริงทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิดเอาไว้
ซึ่งที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าการกลับมาของจอร์แดนมันไม่อาจจะช่วยวิซาร์ดได้เท่าไหร่ โดยฤดูกาลแรกที่จอร์แดนกลับมานั่นก็คือฤดูกาล 2001 – 2003 Washington Wizards สามารถเอาชนะรวมกันได้เพียงแค่ 37 เกมเท่านั้น ซึ่งนั่นมันเป็นผลงานที่ห่วยแตกแบบสุด ๆ และนั่นมันก็เท่ากับว่าตัวจอร์แดนในฐานะผู้เล่นเองก็ต้องมีสถิติสุดห่วยนี้บันทึกติดตัวเอาไว้ไปด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนต่างพูดตรงกันว่าการกลับมาในครั้งนี้มันไม่ต่างอะไรกับการเอาชื่อของตัวเองมาทิ้งเลย
ผลกระทบจากการเอาชื่อมาทิ้งของจอร์แดน
แน่นอนว่าเมื่อความล้มเหลวมันมาถึงตัวของตำนานแห่ง NBA มันจึงทำให้หลาย ๆ คนเริ่มตั้งคำถามแล้วว่าจริง ๆ แล้วการจะเรียกตัวของจอร์แดนว่า GOAT นั้นมันเป็นสิ่งที่ควรยกย่องเขาจริง ๆ หรือไม่ แต่สุดท้ายถ้าเรามามองเป็นประเด็น ๆ ไป เราชื่อว่ายังไงตัวของจอร์แดนก็ยังเหมาะสมกับคำว่า GOAT อยู่ดี โดยส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวของตำนานรายนี้ไม่อาจจะช่วยยกระดับของ Washington Wizards ขึ้นมาได้ อย่างแรกเลยนั่นก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บที่มีให้เห็นค่อนข้างบ่อย และคุณก็ต้องอย่าลืมว่าในตอนนั้นตัวของจอร์แดนเองก็มีอายุ 40 กว่าเข้าไปแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าปัจจัยทั้งหมดที่เรายกมาเปรียบเทียบจะเป็นสิ่งที่ทำให้จอร์แดนไม่อาจช่วยทีมได้มากนักก็ตาม แต่สถิติต่าง ๆ ส่วนตัวของเขาก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างโหดไม่ใช่เล่น เพราะว่าเพียงแค่ฤดูกาลแรกที่ลงเล่นให้กับ Washington Wizards ตัวของจอร์แดนก็สามารถกดแต้มเฉลี่ยไปได้มากถึง 22.9 แต้ม ซึ่งตอนนั้นมันถูกบันทึกไว้ว่างเป็นอันดับที่ 10 ของ NBA แถมเขายังสามารถทำได้ถึง 5.5 รีบาวด์ 5.2 แอสซิสต์ และ 1.4 สตีล ซึ่งทั้งหมดนี้จอร์แดนสามารถทำได้ในยุคที่วิซาร์ดเองก็ไม่ได้มีตัวผู้เล่นระดับเทพอะไรมากมายนอกจาก Richard Hamilton ดังนั้นการที่จอร์แดนสามารถพาทีมชนะได้ถึงขนาดนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เทพแล้ว
จอร์แดนในวัย 40 ที่ยังคงมีความโหดให้เห็นเรื่อย ๆ 
และนอกจากสถิติส่วนตัวที่ค่อนข้างทำได้อย่างเหลือเชื่อแล้ว ตัวของจอร์แดนเองก็ยังฝากเกมเดือด ๆ เอาไว้ให้กับบรรดาเหล่าแฟน ๆ ของ Washington Wizards ไว้เช่นกัน โดยเกมนั้นมันเกิดขึ้นในการเจอกับทีมอย่าง Charlotte Hornets โดยในค่ำคืนวันนั้นตัวของจอร์แดนในวัย 40 ได้กดคนเดียวมากถึง 51 แต้ม จนทำส่งผลให้จอร์แดนกลายเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่สามารถทำแต้มได้ถึง 50 แต้มในเกมเดียว ก่อนที่สุดท้ายสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายลงในปี 2019 โดย Jamal Crawford ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวสำรองที่ดีที่สุดตลอดกาลของ NBA
ส่วนฤดูกาล 2002 – 2003 ตัวของจอร์แดนยังสามารถประคองร่างกายของตัวเองให้ลงเล่นได้ครบถึง 82 เกม
แถมใน 82 เกมนั้นเขายังออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวจริงมากถึง 67 เกม ซึ่งแม้ว่าค่าเฉลี่ยในการทำแต้มจะลดลงมาเป็น 20 แต้ม แต่สถิตินั้นมันเป็นรองเพียงแค่ Jerry Stackhouse ที่สามารถทำได้สูงถึง 21.5 แต้มต่อเกม แต่ในตอนนั้นตัวของเจอร์รี่นั้นอยู่ในเส้นทางพีคของอาชีพและเขายังเป็นผู้เล่นวัยหนุ่มที่มีอายุเพียงแค่ 28 ปี ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เมื่อตัวของจอร์แดนที่มีอายุห่างกันเกือบ 10 ปีสามารถทำได้ขนาดนี้
ไม่ประสบความสำเร็จแต่มันก็ได้ใจแฟน ๆ ของวิซาร์ด
ทางด้านสถิติส่วนตัวของจอร์แดนที่ถูกบันทึกเอาไว้กับ Washington Wizards เขาได้ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นผู้เล่นระดับอาวุโสของทีมที่สามารถทำแต้มได้มาถึง 40 แต้ม โดยสามารถทำได้ถึง 8 เกม แถมเปอร์เซ็นต์การยิงลงห่วงก็ถือว่าแม่นยำอยู่ในระดับ 50%
และนี่ก็คือเรื่องราวของสีเสื้อที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่นให้กับ Washington Wizards ของไมเคิล จอร์แดน ซึ่งแม้ว่าตัวของจอร์แดนจะไม่สามารถพาวิซาร์ดบินสูงได้เหมือนที่ตัวของเขาคิดเอาไว้ก็ตาม แต่ทว่ามันก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ตัวเขาก็ไม่ใช่คนแก่ที่จะยอมให้บรรดาเหล่าเด็กรุ่นใหม่โค่นเขาลงง่าย ๆ