ได้เวลามาทราบถึงประวัติทีมดังต่าง ๆ ของ NBA กันต่อแล้ว และสำหรับในครั้งนี้เราจะขอพาคุณผู้อ่านมาพบกับอีกหนึ่งทีมเด็ด ซึ่งถือได้ว่ามีผลงาน และ มีฝีมือการปั้นดาวรุ่งที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร แถมทีมนี้ยังมีประวัติถึงเรื่องราวการสร้างทีมที่ค่อนข้างน่าสนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยทีมนั้นก็คือ ทีมอย่าง Charlotte Hornets ซึ่งในบทความก่อน ๆ ของเราที่ผ่านมานั้น เราได้เล่าถึงเรื่องราวของถิ่นกำเนิดของทีม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงมั้งชื่อ และ โลโก้ของทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งใครที่ยังไม่ได้อ่านบทความดังกล่าว ทุกคนก็สามารถที่จะย้อมกลับไปอ่านเรื่องราวของทีม Charlotte Hornets กันก่อนได้ ส่วนสำหรับใครคนไหนที่เคยอ่านบทความของทีมนี้มาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วละที่เราจะพาทุก ๆ ไปสานต่อเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของทีมนี้กัน ซึ่งมันจะน่าสนใจขนาดไหน เอาเป็นว่าเราไปอ่านกันต่อเลยดีกว่า
แม้ว่าในตอนนั้นตัวของ Charlotte Hornets จะได้สุดยอดแห่งตำนานบาสอย่าง ไมเคิล จอร์แดน มานั่งแท่นเป็นหัวเรือใหญ่แล้วก็ตามที แต่ทว่าสถานการณ์โดยรวมของ Charlotte Hornets เองก็ยังไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่นัก จึงทำให้ในปี 2008 ทีได้มีการเปลี่ยนโค้ชคนใหม่มาคุณทีมนั่นก็คือ Larry Brown และเหมือนว่าการมาของเขาคนนี้ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด เพราะว่าหลังจากการมาของ Larry Brown Charlotte Hornets ก็ค่อย ๆ ฟอร์มดีขึ้นตามลำดับ แถมทีมยังได้ตัดสินใจเทรดเอาผู้เล่นอย่าง
Jason Richardson และ Jared Dudley ส่งให้กับ Suns เพื่อแลกตัวอย่าง Boris Diaw และ Raja Bell
ซึ่งการเทรดครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ช่วยทีมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เล่นใหม่อย่าง Boris Diaw และ Raja Bell สามารถที่จะช่วยพา Charlotte Hornets ให้บินสูงมากกว่าเดิมเลยทีเดียว
แต่ถึงจะบินได้สูงกว่าเดิมแค่ไหน ในฤดูกาล 2008 – 2009 ทีมก็ยังคงจบด้วยสถิติ 35 – 47 ซึ่งสถิตินี้ทำให้ Charlotte Hornets นั้นหมดสิทธิที่จะเข้าไปเล่นต่อในรอบ Playoff และเมื่อ Charlotte Hornets หมดสิทธิ์ลุ้นดังกล่าวเจ้าของทีมเดิมอย่าง
Robert L. Johnson ก็ประกาศขายหุ้นทันที ซึ่งการประกาศขายหุ้นทิ้งในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้ตัวของ ไมเคิล จอร์แดน กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด และ กลายมาเปนเจ้าของทีมกีฬาคนแรกในประวัติศาสตร์ของ NBA ที่เป็นทั้งผู้เล่น และ เจ้าของทีม
ในฤดูกาลต่อมา Charlotte Hornets ที่ตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า Charlotte Bobcats ได้ตัดสินใจเทรดเอาดาวรุ่งแห่งปีอย่าง Okafor ไปกับ Charlotte Hornets ทีมเก่า เพื่อแลกตัว Tyson Chandler มาเสริมเกมรับวงใน ซึ่งการเทรดครั้งนั้นนี่เองที่ส่งให้ผู้เล่นเดิมอย่าง Gerald Wallace สามารถที่จะโชว์ฟอร์มได้จัดจ้านมากยิ่งขึ้น จนทำให้ตัวเขาสามารถติดทีม All Star และพาทีมจบฤดูกาลปกติไปด้วยถสถิติ 44 – 38 ส่งผลให้ทีมสามารถผ่านเข้าสู่รอบ Playoff ได้สำเร็จ ซึ่งนั่นนับได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังจากที่ Charlotte Hornets ตัดสินใจเปลี่ยชื่อมาใช้ Charlotte Bobcats แต่สุดท้ายแล้วทีมก็ยังไม่สามารถที่จะผ่านทะลุรอบแรกไปได้อยู่ดี
ซึ่งในฤดูกาล 2010 – 2011 Charlotte Hornets เองก็คาดหวังที่จะรักษาฟอร์มการเล่นของพวกเขาให้ลุ้น
เข้าไปสู่รอบ Playoffs ได้อีกครั้ง แต่ทว่าในฤดูกาลนี้ผลงานของพวกเขากลับไม่เข้าเป้าเหมือนกับใจหวัง เพราะในช่วงเวลานั้นพวกเขาสามารถทำสถิติออกมาได้เพียงแค่ 9 – 19 ซึ่งสถิตินี้เองที่ส่งผลให้จอร์แดนตัดสินใจผ่าตัดทีมยกใหญ่
โดยอันแรกที่เขาเลือกทำกับ Charlotte Hornets นั่นก็คือ การเปลี่ยนโค้ชเป็น Paul Silas ต่อจากนั้นก็ส่งผู้เล่นอย่าง Wallace ไปให้กับ Blazers เพื่อแลกผู้เล่นหลายคนกับสิทธิ์ดราฟต์รอบแกร 2 ครั้ง แต่ถึงจะทำขนาดนั้นแล้วก็ตาม Charlotte Hornets ก็ไม่สามารถที่จะทำเป้าตามที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ได้ และจบฤดูกาลไปด้วยสถิติ 34 – 48 และไม่ได้เข้ารอบ Playoff ไปในที่สุด
จนกระทั่งในปี 2011 Charlotte Hornets ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้บริหารขึ้นอีกครั้ง โดยตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงนั่นก็คือ เก้าอี้ในตำแหน่งของ GM ทีม โดยมีการแต่งตั้งให้ Rich Cho ที่เคยทำงานให้กับ Blazers มาก่อนได้มานั่งแท่นในตำแหน่งนี้ และ เขาก็ได้ทการเทรดแลกเอาผู้เล่นอย่าง Kemba Walker เข้าสู่ทีม แต่ทว่าในฤดูกาล 2011 – 2012 กลับกลายเป็นฝันร้ายของทีม เนื่องจากในฤดูกาลปกตินั้น Charlotte Hornets กลับจบด้วยสถิติสุดอนาจอย่าง 7 – 59 แถมยังเก็ยสถิติแพ้รวด 23 นัดติดต่อกันมานอนกอดไว้แน่นเลยอีกด้วย ซึ่งสถิติสุดเลวร้ายนี้เองที่ส่งผลให้ Silas ถูกไล่ออก
แต่ถ้าถามว่า Charlotte Hornets เปลี่ยนโค้ชแล้วผลงานดีขึ้นไหมท คำตอบก็บอกว่าดีขึ้น
แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจดจำเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าในฤดูกาลต่อมาพวกเขาจบฤดูกาลปกติด้วยสถิติ 21 – 61 และยังททำสถิติแพ้ต่อเนื่อง 18 นัดรวด จนทำให้ต้องไปนอนอยู่เป็นรองบ๊วย
และหลังจากจบฤดูกาลนั้นลง Charlotte Hornets ก็ได้มีการเปลี่นแปลงโค้ชอีกครั้งโดยในครั้งนี้พวกเขาได้ Steve Clifford อดีตผู้ช่วยโค้ชของ Lakers เข้ามาคุมทีมแทน แต่ถึงจะมีเรื่องร้าย ๆ แต่ทีมก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างนั่นก็คือ เจ้าของทีมอย่าง ไมเคิล จอร์แดน นั้นได้ประกาศข่าวที่ทำให้แฟน ๆ ชื่นใจนั่นก็คือ ทีมอย่าง Charlotte Bobcats จะหันกลับไปใช้ชื่อเดิมอย่าง Charlotte Hornets เหมือนเดิมในฤดูกาล 2014 – 2015 ซึ่งมตินี้ได้ผ่านการอนุญาตจากทางลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน Charlotte Hornets เดิมนั้นก็ได้ตัดสินใจที่เปลี่ยนชื่อไปเป็น New Orleans Pelicans รอเอาไว่ในฤดูกาล 2013 – 2014 แล้ว
ซึ่งในปีนั้น Charlotte Bobcats ที่กำลังเตรียมจะกลับไปใช้ชื่อเก่าอย่าง Charlotte Hornets ก็ได้ตัดสินใจดราฟต์ดาวรุ่งอย่าง
Cody Zeller มาสู่ทีมรวมถึงยังได้เซ็นผู้เล่นในตลาดฟรี เอเย่นต์อย่าง อย่าง Al Jefferson ที่หมดสัญญากับ Jazz แล้วมาเสริมทีม และการเสริมทีมในครั้งนี้นี่เองที่พาให้พวกเขาจบฤดูกาล 2013 – 2014 ด้วยการเข้ารอบ Playoff เป็นผลสำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังคงถูก Heat เขี่ยตกรอบแรกไปอยู่ดี
และนอกจากากรที่ได้ชื่อกลับมาเป็น Charlotte Hornets แล้วทีมยังได้ทำการทำข้อตกลงกับ New Orleans Pelicans ว่าข้อมูลประวัติศาสตร์ของทีมตั้งแต่ยุคก่อตั้งในช่วงปี 1988 – 2002 ที่เกิดขึ้นก่อนย้ายเมืองไปยัง New Orleans จะตกเป็นของ Charlotte Hornets ทั้งหมด จึงทำให้ทีมอย่าง New Orleans Pelicans ได้กลายเป็นทีมที่เริ่มก่อตั้งในปี 2002
แต่แล้วฤดูกาลแรกภายใต้ชื่อเดิมของ Charlotte Hornets ทีมกลับไม่สามารถที่จะสถิติได้ดีนัก เพราะพวกเขาสามารถจบฤดูกาลปกติไปด้วยสถิติ 33 – 49 และสุดท้ายก็ไม่ได้เข้ารอบ Playoffs อีกเช่นเคย ถึงแม้ว่าในฤดูกาลนั้นพวกเขาจะเสริมผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง Lance Stephenson มาช่วยทีม
จากนั้นในปีพุดมา Charlotte Hornets ก็ได้เริ่มเสริมผู้เล่นอายุน้อยเข้าทีมมาหลายคนไม่ว่าจะเป็น Nicolas Batum, Jeremy Lin และ Jeremy Lamb และการเสริมทีมครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการเสริมทีมที่ค่อนข้างลงตัวเนื่องจากทุกคนที่ Charlotte Hornets เสริมทัพเข้ามาใหม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำให้ทีมจบด้วสถิติ 48 – 34 แล้วคว้าอันดับ 6 เพื่อเข้าไปเล่นในรอบ Playoffs ได้สำรเร็จ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกทีมอย่าง Heats เขี่ยตกรอบอีกครั้ง แต่ถึงแบบนั้นแล้วพวกเขาก็สามารถซัดกับ Heats ได้อย่างสูสีจนมาถึงเกมที่ 7 เลยทีเดียว
ต่อมาในฤดูกาล 2016 – 2017 ผู้เล่นอย่าง Kemba Walker ก็สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้ระดับสุดยอดและสามารถติดทีม All Star ครั้งแรกได้ไปได้ในที่สุด แต่ถึงแบบนั้นทีมก็ยังไม่สามารถที่จะทำสถิติได้ดีนัก ทำให้ในฤดุกาล 2018 – 2019 ทีมก็ได้ผู้เล่นอย่าง Tony Parker ที่อยู่กับ Spurs มานานเข้าทีม และ ตัวของ Kemba Walker เองก็ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่สามารถติดทีม All Star ได้ 3 ปีซ้อน แต่สุดท้ายแล้วผลงานโดยรวมของ Charlotte Hornets ก็ยังไม่ดีขึ้น จนในทีสุ่ดตัวของ Kemba Walker ก็ย้ายไปเล่นให้กับทีมอย่าง Celtics และจากการที่ทีมอย่าง Charlotte Hornets ขาดผู้เล่นคนสำคัญไป และ ไม่สามารถที่จะหาผู้เล่นมาทดแทนได้นี่เอง ที่ทำให้พวกเขามีสถิติที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันนี้ พวกเขาก็ยังไม่สามารถกลับเข้ามาสู่เส้นทาง Playoffs ได้อีกเลย dunkswin9