เมือง โตรอนโต้ ประเทศ แคนาดา ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีอากาศอันแสนหนาวเหน็บ ซึ่งเพราะอากาศที่หนาวเย็นนี่เองที่ทำให้กีฬาอย่าง ฮอคิกี้น้ำแข็งนั้นกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในตอนนั้นกีฬาบาสเก็ตบอล ณ ที่แห่งนี้มันกลับเป็นเพียงแค่กีฬาที่ไม่ค่อยมีใครเหลียวแลเท่าไหร่ จนกระทั่งการมาของชายที่ชื่อว่า วินซ์ คาร์เตอร์
ซึ่งการมาของ วินซ์ คาร์เตอร์ นั้นค่อย ๆ ที่จะทำให้มีอย่าง โตรอนโต้ แร็พเตอร์ เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ จากชาวเมืองจนทำให้ในที่สุดบรรดาเหล่าชาวเมืองที่ชื่นชอบเขาก็ได้เริ่มขนานนามว่า เจ้าชายแห่งฟลอริด้า
โดยตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ นั้นถูกดราฟท์เข้าใน NBA เป็นอันดับที่ 5 ในปี 1998
แต่ทีมที่เลือกเขาเข้ามากันไม่ใช่แร๊พเตอร์สเหมือนอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ เพราะว่าจริง ๆ แล้วตัวของเขานั้นถูกดราฟท์เข้ามาโดยทีมอย่าง โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส แต่สุดท้ายแล้วทีมสะพานทองก็ตัดสินใจส่งตัวเขาเพื่อแลกกับ แอนทอน เจมิสัน ซึ่งเป็นดราฟต์อันดับ 4 ในปีเดียวกันที่ โตรอนโต้ แร็ปเตอร์สเลือกมา
และอย่างที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบดีกว่าตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ นั้นคืออีกคนหนึ่งที่โลดแล่นอยู่ในสังเวียน NBA นี้มาอย่างยาวนานจนทำให้เขาคนนี้กลายเป็นผู้เล่นที่มีอายุเยอะที่สุดของ NBA ที่ยังเล่นอยู่ไปด้วยอายุถึง 41 ปีแล้วทีเดียว ซึ่งเพราะความยาวนานในการเล่นนี้เองที่ทำให้เขาคนนี้กลายเป็นผู้เล่นที่เล่นเกมผ่านมาถึง 4 ยุคสมัยด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ยุค 90 ยุค 200 , ยุค 2010 และ ยุค 2020
แต่การที่จะรักษาความสามารถและยืนระยะมาจนถึงทุกวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทว่าความสามารถของ วินซ์ คาร์เตอร์ ที่เราได้เห็นในปัจจุบันนี้ก็สามารถเป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างดีแล้วว่าเขาคนนี้สามารถทำมันได้ โดยแค่ปีแรกที่เขาคนนี้มาถึงทีมอย่างแร็พเตอร์ เขาคนนี้ก็สามารถระเบิดฟอร์มอันสุดยอดประสานกับ เทรซี่ แม็คเกรดี้ จนทำให้ตัวของ วินซ์ กลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีไปเลยทีเดียว
แถมสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่แท้จริงของ วินซ์ คาร์เตอร์ เลยนั่นก็คือ ลีลาการดังค์
เพราะว่าเขาคนนี้ไม่ใช่เพียงแค่กระโดสูงเท่านั้น แต่ทว่าเขาคนนี้ยังมีการจัดท่าทางบนอากาศได้สุดเพอร์เฟ็ค ซึ่งเพราะเหตุผลดังกล่าวนี้เองที่ทำให้เขาได้ลงการแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ และเขาก็ได้โชว์ให้ทุกคนได้ตกตะลึง
ซึ่งความร้ายกายในการดังค์ของ วินซ์ คาร์เตอร์ ที่ได้โชว์ให้เห็นในปี 2000 ก็ยังคงกลายเป็นตำนานที่ถูกล่าวขายนถึงทุกวันนี้ ซึ่งการดังค์ในครั้งนั้นนี่เองที่เปลี่ยนให้ตัวตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์คนใหม่แห่งวงการบาส เพราะเขาคนนี้ได้รับสัญญาพร้อมกับเงินก้อนจาก พูม่า ที่อยากจะมาตีตลาดบาสเกตบอล โดยทางพูม่าได้ทำรองเท้ารุ่นพิเศษที่ชื่อว่า วินแซนนิตี้ ให้แก่ตัวของ วินซ์ และรองเท้ารุ่นนั้นก็กลายเป็นรองเท้าบาสเก็ตบอลที่ขายดีที่สุดของ พูม่า
นอกจากอิทธิพลในสนามแล้วตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ ก็ยังส่งผลไปถึงนอกสนาม เพราะในยุค 2000 นั่น
โตรอนโต้ ได้กลายนเป็นเมืองที่สื่อจากทางฝั่งอเมริการเริ่มเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่าง ๆ มากขึ้น และ แน่นอนว่าเมื่อความสนใจมากขึ้น มันจึงทำให้ ตัวของวินซ์ที่เป็นหนึ่งในไอคอนบาสเกตบอลของเมืองได้ถูกดึงไปเป็นายแบบสิ้นค้าต่าง ๆ มากมาย
แน่นอนว่ากลิ่นเงินอันหอมหวานบางทีมันก็สามารถที่จะเปลี่ยนนิสัยของเขาได้เช่นกัน เพราะว่าในยุค 2000 ถึง 2010 ตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ เริ่มถูกโจมตีจากสื่อหลาย ๆ เนื่องจากทัศนคติของเขาเริ่มเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ แม้ว่าตัวของเขาจะสามารถพาแร็ปเตอร์ส เข้าสู่เพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีมได้ แต่สุดท้ายแล้วทีมก็ต้องมาตกม้าตายซะก่อน จนทำให้คู่หูของเขาอย่าง เทรซี่ แม็คเกรดี้ ที่เริ่มมีความไม่ลงรอยกันอยู่เนื่อง ๆ ตัดสินใจย้านไปอยู่กับ ออร์ลันโด้ เมจิค
และเมื่อคู่หูของเขาจากไป ตอนนี้ก็ถึงช่วงเวลาที่ตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ จะฉายเดี่ยว มันจึงทำให้ลีลาในสนามของเขาเต็มไปด้วยท่าดังค์อันงดงาม แต่ทว่าการดังค์สวยนั้นบางทีมันก็ไม่ใช่ที่ชื่นชอบของทุกคน เพราะก็ยังมีสื่ออีกหลาย ๆ เจ้าที่ได้เริ่มแสดงความเห็นว่าตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ นั้นมีดีแค่ดังค์เท่านั้น
เมื่อ วินซ์ คาร์เตอร์ ได้ยินเรื่องนี้เขาก็แสดงอาการงอนอย่างชัดเจน จนทำให้ประกาศเลิกแข่งดังค์ด้วยซ้ำ
แถมเวลาในเกมปกติเขาก็ได้เปลี่ยนจากการเข้าไปดังค์ มาเป็นการยิง 3 แต้มแทน แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังไม่ใช่ตัวตนของเขาจนทำให้สุดท้ายแล้ว วินซ์ คาร์เตอร์ ก็จำเป็นที่จะต้องกลับไปดังค์เหมือนเดิม
แต่สุดท้ายมันก็น่าเสียดายที่ตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ ไม่ได้ปิดตำนานกับทีมอย่างแร๊พเตอร์ส เพราะว่าในปี 2004 เขาคนนี้ก็ถูก
เทรดให้กับ นิวเจอร์ซี่ย์ เน็ตส์ และหลังจากนั้นเขาก็ดเริ่มกลายเป็นนักบาสพนเจร ที่ย้ายไปเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องย้ายทีมอยู่บ่อยครั้งนั่นก็คือ อาการบาดเจ็บของเขาคนนี้นั่นเอง
แม้ว่าเขาคนนี้จะกลายเป็นนักบาสพเนจรแต่ว่าทุก ๆ ที่เขาไป มันได้ทำให้ตัวของเขาเริ่มเรียนรู้ และ ลงทิฐิ หลาย ๆ อย่างในจิตใจของเขาลง มันเลยทำให้เขาคนนี้กลับมาโฟกัสกับเกมได้มากขึ้น จนทำให้ในที่สุด วินซ์ คาร์เตอร์ ก็กลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้งกับ ออร์ลันโด้ เมจิค ในปี 2010 ซึ่งตอนนั้นจะต้องชิงแชมป์สายกับ บอสตัน เซลติกส์ แต่ก็ยังน่าเสียดายที่สุดท้ายแล้ว กลับเป็นฝ่ายของ บอสตัน เซลติกส์ ที่ทำได้ดีกว่า
ส่วนเส้นทางการเดินทางของ วินซ์ คาร์เตอร์ ในช่วงปี 2010 – 2019 นั้นเขาได้เริ่มปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่น เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ยังคอยรบกวนเขาอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงแบบนั้นเองเขาก็ยังไม่ทิ้งลายการโชว์ดังค์แบบโหด ๆ ไป แต่เนื่องจากมันกินพลังงานค่อนเข้างสูงเลยทำให้ วินซ์ ไม่ค่อยที่จะทำมันบ่อยเหมือนกับตอนสมัยหนุ่ม ๆ
ซึ่งตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าแล้วถ้า วินซ์ คาร์เตอร์ คนนี้ไม่ดังค์ เขาจะใช้อะไรเป็นจุดขายของเขา ซึ่งจุดขายใหม่ของเขาคนนี้ก็คือ การยิง 3 แต้ม ซึ่งในสมัยวัยรุ่นเขาทำได้ไม่ค่อยดีนักนั่นเอง แถมการเปลี่ยนมายิง 3 แต้มนี้เองที่มันยังทำให้ตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ กลายเป็นผู้เล่นที่ยิง 3 แต้มได้มากที่สุดตลอดกาลอันดับที่ 6 ของ NBA
ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าตัวของ วินซ์ คาร์เตอร์ เองจะโลดแล่นอยู่ในเวทีของ NBA ต่ออีกนานขนาดไหน แต่เราเชื่อว่าต่อให้ชายคนนี้จะอายุเยอะมากเพียงใดก็ตาม แต่ไม่ว่าเรามองการเล่นของเขาเมื่อไหร่ เราจะต้องประทับใจในตัวของชายคนนี้อยู่เสมออย่างแน่นอน dunkswin9
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตเว็บแท้