การจะเป็นคนเก่งและเป็นสุดยอดของอะไรสักอย่างได้นั้น อันดับแรกสุดเลยที่หลาย ๆ คนจะต้องมีนั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่าฝีมือ แต่บางครั้งสิ่งที่เรียกว่าฝีมือนั้นกลับไม่ใช่ทุก ๆ ของกีฬา เพราะว่าในบางจังหวะของการแข่งขัน บางทีมันก็ต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าโชคลาง หรือ ความเชื่อ เข้ามาเป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกัน
ซึ่งไอ้ความเชื่อนี่เองมันก็สามารถที่จะแยกย่อยกันออกเป็นแต่ละบุคคลและแต่ละวัฒนธรรมได้อีกเช่นกัน จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ ไปพบกับเรื่องราวความเชื่อแบบความเชื่อแปลก ๆ ของบรรดาเหล่าซูเปอร์สตาร์แห่ง NBA
แต่ละคน ซึ่งใครจะไปคิดกันละว่าเห็นฝีมือของแต่ละคนนั้นฉกาจฉกรรจ์ขนาดนี้ แต่พวกเขาเองก็มีความเชื่อบางอย่างที่
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้เช่นกัน ซึ่งนักบาส NBA แต่ละคนจะมีความเชื่ออะไรบ้างนั้น เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวของพวกเขากันเลยดีกว่า
ความเชื่อกางเกงขาสั้นด้านในกางเกงของชิคาโก้ บูลส์ของไมเคิล จอร์แดน
โดยคนแรกที่เราจะมาพูดถึงกันนั่นก็คือ สุดยอดตำนานแห่งวงการบาสอย่าง ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งแม้ว่าทุกคนจะทราบกันดีกว่าสิ่งที่ทำให้ตัวของเขาสามารถประสบความสำเร็จมาถึงระดับนี้ได้ ทุก ๆ อย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ของเจ้าตัวเอง แต่ถึงแม้ว่าจอร์แดนจะมีความสามารถมากมายขนาดไหน แต่ตัวของเขาเองก็ยังเป็นคนทั่วไปที่มีความเชื่ออยู่ดี
โดยจุดเริ่มต้นความเชื่อของไมเคิล จอร์แดน นั้นมันต้องย้อนความไปในสมัยที่ตัวของจอร์แดนยังเป็นเพียงดาวรุ่งในรั้วมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งในตอนนั้นตัวของเขานั้นกำลังจะได้ออกสตาร์ทกับการเล่นอาชีพในฐานะนักบาสสังกัดทีม
ชิคาโก้ บูลส์ ซึ่งแม้ว่าทุก ๆ คนจะมองว่าตัวของจอร์แดนนั้นพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่เวทีระดับอาชีพ แต่สำหรับตัวของจอร์แดน กลับไม่ได้คิดแบบนั้น
ซึ่งเพราะความไม่มั่นใจนี่เองจึงทำให้ตัวของจอร์แดนเริ่มความเชื่อแปลก ๆ ของตัวเองขึ้น โดยเขาเลือกที่จะใส่กางเกงขาสั้นในสมัยที่เล่นให้กับนอร์ทแคโรไลนาไว้ข้างในตลอด เพราะเขามีความเชื่อว่าการใส่กางเกงขาสั้นตัวนี้จะทำให้เขาเล่นได้ดีเหมือนกับที่เขาเล่นให้กับนอร์ทแคโรไลนา
ความเชื่อเรื่องเบอร์ 23 ของไมเคิล จอร์แดน
และนอกจากความเชื่อเกี่ยวกับกางเกงขาสั้นของเขาแล้ว อีกหนึ่งความเชื่อของจอร์แดนก็คือเบอร์เสื้อของเขา โดยหลาย ๆ คนน่าจะรู้ว่าตัวของจอร์แดนนั้นได้ตัดสินที่ประกาศเลิกเล่นไปรอบหนึ่งก่อนที่เขาจะกลับทำการลงแข่งขันอีกครั้งในปี 1995 แต่ทว่าหลังจากที่เขากลับมาเล่นนั้นก็มีเหตุให้ตัวของจอร์แดนจำเป็นที่จะต้องเลือกใส่เบอร์เสื้ออื่นเนื่องจากเบอร์ 23 ของเขานั้นถูกรีไทร์เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเขาไปเองไปแล้ว
และการกลับมาในครั้งนี้ตัวของจอร์แดนก็ได้ตัดสินใจที่จะเลือกใส่เบอร์ 45 ซึ่งเป็นเบอร์ที่พี่ชายของเขานั้นใส่มาตลอด
แต่ทว่าหลังจากที่ตัวของ จอร์แดน ใส่เสื้อเบอร์ 45 ไม่นาน ชิคาโก้ บูลส์ ก็มีเกมปะทะกับทีมดังอย่าง ออแลนโด แมจิค
ซึ่งในแมตช์นั้นนี่เองที่จู่ ๆ จอร์แดนก็ตัดสินใจที่เปลี่ยนมาใส่เบอร์ 23 ซึ่งเป็นเบอร์เดิมของเขา โดยเจ้าตัวได้บอกว่าเขารู้สึกว่าพอใส่เบอร์ 45 แล้วมันไม่ใช่ตัวตนของเขา เขาเลยมีความเชื่อว่าการใส่เบอร์ 23 นั้นจะทำให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองได้นั่นเอง
และด้วยความเชื่อแปลก ๆ ของจอร์แดนนี้เองที่ทำให้ในปี 2010 ได้มีนักวิทยาศาสตร์จากประเทศเยอรมัน ถึงกับต้องเอาเรื่องราวนี้มาวิเคราะห์กันเป็นจริงเป็นจัง โดยหัวข้อในการวิจัยในครั้งนั้นก็คือ ความเชื่อของจอร์แดนนั้นมันส่งผลตัวของเขาในเกมขนาดไหน ซึ่งบทสรุปของการวิจัยนั้นก็ถูกสรุปออกมา แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่งผลในประสิทธิภาพของตัวจอร์แดนในสนาม แต่ทว่ามันส่งผลในแง่ของการรับรู้ เพราะความเชื่อแปลก ๆ ของจอร์แดนนี้เองที่ทำให้ จิตใจของจอร์แดนแข็งแกร่งขึ้น
จนสามารถที่จะงัดฟอร์มเก่งออกมาได้นั่นเอง
ความเชื่อในการเคี้ยวหมายฝรั่งของชาคีล โอนีล
แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ไมเคิล จอร์แดนคนเดียวหรอกนะที่มีความเชื่ออะไรแปลก ๆ เพราะอีกหนึ่งนักบาสที่มีความเชื่อแปลก ๆ ไม่แพ้กันนั่นก็คือ นักบาสร่างยักษ์ ที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็หวั่นเกรงอย่าง ชาคีล โอนีล หรือ แชค โดยเขาคนนี้มักที่จะเคี้ยวหมากฝรั่ง 4 ชิ้นก่อนที่จะลงแข่งขันในทุก ๆ ครั้งรวมถึงเขายังสวมถุงเท้าสองคู่ซ้อนกันทั้งตอนซ้อม และ ตอนแข่งอีกด้วย
แถมความเชื่อของแชคนั้นยังไม่ได้มีเพียงแค่ความเชื่อที่ทำในสนามเท่านั้น เพราะว่าเขายังมีความเชื่อในการขับรถผ่านถนนเส้นเดิม ๆ โดยเขาพยายามที่จะทำมันให้ได้ ซึ่งมันก็ไม่อะไรหรอกที่สามารถพิสูจน์ความเชื่อแปลก ๆ นี้ของแชคได้
แต่สิ่งที่คุณรับรู้ได้อย่างแท้จริงนั่นก็คือ แชค นั้นเป็นนักบาสที่ทรงพลังและน่าเกรงขามคนหนึ่งเลยในสนาม
ความเชื่อในการดื่ม Mountain Dew ของคารอน บัตเลอร์
ซึ่งอย่างที่เราได้รับรู้ไปแล้วว่าความเชื่อของแชคนั้นจะเกี่ยวกับเรื่องของกิน แต่ทว่าของกินที่แชคเลือกนั้นก็ยังค่อนข้างดูธรรมดาไป เพราะชายอีกคนหนึ่งที่มีความเชื่อเกี่ยวกับการกินก็คือ คารอน บัตเลอร์ สุดยอดการ์ดฝีมือเยี่ยมที่มีดีกรีแชมป์กับ
ดัลลัส แมฟเวอริกส์ และยังพวงด้วยดีกรีระดับออลสตาร์ NBA 2 สมัย โดยตัวของเขานั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่มีฝีมือยอดเยี่ยมจนทำให้ใครหลาย ๆ คนยอมรับ แต่ทว่าเขาคนนี้ก็มีความเชื่อสุดแปลกอยู่เช่นกัน แถมเขายังชอบแนะนำให้เพื่อน ๆ ของเขาเอาความเชื่อของเขาไปลองทำตามอีกด้วย โดยความเชื่อของสุดยอดการ์ดคนนี้นั่นก็คือ ตัวของเขามักจะดื่มเครื่องดื่มอย่างเมาเทนดิวขวดใหญ่ ในช่วงก่อนแข่งและตอนพักครึ่ง
แต่ถ้าถามว่าแค่นี้แปลกหรือยังเราบอกว่ามันยังไม่แปลกเท่าไหร่หรอก เพราะหลังจากที่ตัวของบัตเลอร์ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้เสร็จ เขาก็จะเริ่มทำอีกความเชื่อหนึ่งนั่นก็คือการเคี้ยวหลอด โดยตัวของบัตเลอร์จะนำหลอดประมาณ 12 อันที่เขานำมาจากร้านแมคโดนัลด์และเบอร์เกอร์ คิงส์ มาเคี้ยวทีเดียวพร้อมกันหมด โดยกฎสำคัญของเขานั่นก็คือ หลอดที่นำมาเคี้ยวจะต้องเป็นหลอดที่มาจาก 2 แบรนด์นี้เท่านั้น แถมไอ้ความเชื่อนี้ของบัตเลอร์มันก็ค่อย ๆ เริ่มส่งผลหนักขึ้น เพราะว่าบางครั้งตัวของบัตเลอร์ก็เผลอเดินเคี้ยวเจ้าหลอดทั้ง 12 ลงมาในสนาม จนทำให้ในที่สุดฝ่ายจัดการแข่งขันก็สั่งห้ามบัตเลอร์ไม่ให้นำหลอดมาเคี้ยวในสนามแข่งขัน โดยจุดประสงค์นั้นก็เพราะว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันกลัวว่าหลอดจะติดคอบัตเลอร์ นั่นเอง
แต่ความเชื่อแปลก ๆ ของบรรดาเหล่าซูเปอร์สตาร์แห่ง NBA ยังไม่ได้หมดแต่เพียงเท่านั้น เอาไว้เดี๋ยวในบทความหน้าเรามาติดตามความเชื่อของแต่ละบุคคลกันต่อ