หากใครติดตามบาสเกตบอล NBA แล้วละก็ เราเชื่อว่าเกมที่สนุกที่สุดของใครหลาย ๆ คนนั้นคงไม่ใช่เกมที่อยู่ในฤดูกาลปกติอย่างแน่นอน เพราะว่าความมันที่แท้จริงของบาสเกตบอล NBA ที่หลาย ๆ คนต่างก็รอดูและเฝ้าจับตานั่นก็คือเกมการแข่งขันในรอบ Playoff เกมที่เฟ้นหาสุดยอดทีมที่จะเป็นแชมป์ในแต่ละฤดูกาล
และในปี 2022 แชมป์ในปีนั้นก็ตกเป็นของทีมอย่าง Golden State Warrior แต่ก็ใช่ว่าเส้นทางของทีมสะพานทองนี้จะมาเป็นแชมป์ได้ง่าย ๆ เพราะว่าในฤดูกาลก่อนที่พวกเขาจะก้าวขึ้นมาทวงบัลลังก์แชมป์ได้ ทีมของพวกเขาตกต่ำจนเป็นอย่างมากจนทำให้การคว้าแชมป์ในฤดูกาล 2022 นั้นมันเป็นเรื่องยังกับปาฏิหาริย์กันเลยทีเดียว
และเพราะการคว้าแชมป์แบบหักปากกาเซียนของใครหลาย ๆ คน นี่แหละที่ทำให้สื่อหลาย ๆ เจ้าเริ่มทำการวิเคราะห์ถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ของ Golden State Warrior ที่ขอลบคำสบประมาท ได้ ซึ่งในบทความเก่า ๆ นั้นเราได้อธิบายไปถึง 3 องค์ประกอบกันแล้ว ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้อ่าน คุณสามารถที่จะย้อนกลับไปอ่านบทความเก่า ๆ ของเรา ส่วนในตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะมาอธิบายองค์ประกอบอื่น ๆ ที่พาให้ทีมอย่าง Golden State Warrior คว้าแชมป์ได้กันต่อแล้ว
ดาวรุ่งอย่าง จอร์แดน พูล ผงาด
องค์ประกอบที่ 4 ที่ทำให้ Golden State Warrior สามารถก้าวมาสู่การเป็นแชมป์ได้นั้นก็คือ ผู้เล่นอย่าง จอร์แดน พูล ดาวรุ่งของทีม ซึ่งถ้าเราย้อนกลับไปในปี 2019 พวกเขาเลือกดราฟต์ พูล มาจากมหาวิทยาลัย มิชิแกน
แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ตัวของ จอร์แดน พูล กลับไม่สามารถที่ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา เพราะเขาทำแต้มเฉลี่ยต่อเกมได้เพียงแค่ 8.8 แต้มต่อเกมเท่านั้น
ซึ่งผลงานดังกล่าวนี้เองที่ส่งผลให้ Golden State Warrior ตัดสินใจส่ง พูล ลงไปเล่นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใน
G League กับทีมลูกที่มีชื่อว่า ซานตาครูซ วอร์ริเออร์ส ซึ่งแน่นอนแหละว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของทีมทำให้ตัวของ จอร์แดน พูล ผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดไม่ฝันมากกว่าฝีมือระดับตัวเองจะทำได้เพียงแค่การเล่น G League แต่เมื่อทีมต้นสังกัดตัดสินใจแล้ว พูล ก็ต้องทำตาม
ซึ่งการเล่นใน G League นี้เองที่ทำให้ตัวของพูลได้มีเวลาพิจารณาตัวเอง เขาลดอีโก้ของเขาลงและเริ่มทำการบ้านในแต่ละเกมของตัวเองมากขึ้น รวมถึงยังศึกษาวิธีการเล่นของบรรดารุ่นพี่ในทีม Golden State Warrior อย่าง เคอร์รี่ และเริ่มนำมันมาประยุกต์กับตัวเขาในการเล่น G League ซึ่งความพยายามเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ในที่สุดทีมต้นสังกัดก็ดึงเขากลับขึ้นมาเล่น โดยในช่วงฤดูกาล 2021 – 2022 ที่ตัวผู้เล่นหลักอย่าง ธอม์ปสันเจ็บ ก็ได้จอร์แดน พูลนี่แหละที่เป็นคนเก็บ 3 แต้มแบบเนียนกริบ จนได้รับการโหวตเป็นอันดับ 4 ของรางวัลผู้เล่นที่พัฒนาฟอร์มยอดเยี่ยม
ความสัมพันธ์ภายในทีมใครว่าไม่สำคัญ
องค์ประกอบที่ 5 ที่สามารถส่งทีมอย่าง Golden State Warrior ขึ้นไปเป็นแชมป์ได้นั่นก็คือ ความสัมพันธ์ของผู้เล่นหลักอย่าง สเตฟ เคอร์รี่ และ โค้ช สตีฟ เคอร์ ซึ่งมันก็เหมือนกับทุกชนิดกีฬานั่นแหละที่การจะมีทีมอันสุดยอดได้
สิ่งแรกที่มันจะต้องนำมาก่อนเลยนั่นก็คือ ผู้เล่นระดับสตาร์ของทีมจะต้องผสานกับโค้ชราวกับเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งทีมของเคอร์รี่ก็แสดงให้เห็นแล้วในฤดูกาลปี 2021 – 2022 โดยเหตุการณ์แรกที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์นี้ก็คือ ในช่วงปรีซีซั่นก่อนที่ฤดูกาลปกติจะเริ่มต้นขึ้น นิสัยส่วนตัวของ เคอร์รี่ ในการลงประเดิมสนามนั้น เขาจะค่อย ๆ ลงสนามเป็นแพทเทิร์น
นั่นก็คือ ควอเตอร์ที่ 1 จะขอลงเต็ม 12 นาที , ควอเตอร์ที่ 2 จะลงเล่น 6 นาทีสุดท้าย , ควอเตอร์ที่ 3 จะขอลงเต็ม 12 นาที , ควอเตอร์ที่ 4 จะลงเล่น 6 นาทีสุดท้าย
โดยเหตุผลที่ทำให้ตัวของเคอร์รี่นั้นชอบใช้วิธีนี้ในการลงสนาม นั่นก็เพราะว่าตัวของเขาจะได้พักร่างกายในช่วง ควอเตอร์ 2 และ 4 ซึ่งมันจะทำให้เขามีความพร้อมมากขึ้นในการที่จะมาปิดบัญชีในช่วงเวลาสุดท้ายของการแข่งขัน แต่ทว่าหลังจากที่ตัวของ สตีฟ เคอร์ เข้ามา เขาได้ทำลายแพทเทิร์นนี้ของ เคอร์รี่ ลง โดยเขาขอร้องให้ตัวของ เคอร์รี่ออกเล่นในควอเตอร์ที่ 2 และ 4 แทน
โดยเหตุผลของโค้ชใหญ่แห่ง Golden State Warrior ที่ต้องการให้ตัวของ เคอร์รี่ เล่นในควอเตอร์ 2 และ 4
ก็เพราะในช่วงเวลานั้นทีมจะส่งผู้เล่นที่เป็นดาวรุ่งลงไปเล่น จึงทำให้ทางโค้ชต้องการที่จะให้ เคอร์รี่ ลงไปเล่นเพื่อเป็นการประคองเกมให้บรรดาเหล่ารุ่นน้องได้เล่นง่ายขึ้น ซึ่งถ้าหากถามว่าเคอร์รี่ชอบไหม เขาก็ตอบตรง ๆ ว่า ตัวของเขาไม่ได้ชอบเลยแม้แต่น้อย เพราะการลงเล่นมากกว่าเดิมจะทำให้ตัวของเขาเหนื่อยมากกว่าเดิม และส่งผลต่อเปอร์เซ็นต์การชู๊ตของเขา แต่เพราะคนที่สั่งคือ สตีฟ เคอร์ ที่เขาได้เห็นการพิสูจน์ตัวเองมาอย่างยาวนานกว่า 7 ปี แล้ว ตัวของเคอร์รี่จึงตัดสินใจทำตามโดยไม่บ่น
ซึ่งการปรับรูปแบบการเล่นใหม่ของ เคอร์รี่ นี่เองที่ทำให้ตัวของเขานั้นสามารถที่จะลงเล่นให้กับ Golden State Warrior ได้นานกว่าเดิม แถมเปอร์เซ็นต์การทำคะแนนของเขาก็ยังคงที่ และยังเป็นการช่วยลงประคองเกมให้บรรดาเหล่าดาวรุ่งสามารถเล่นได้ดีและเข้าใจเกมเท่ากันหมดเหมือนตามที่ตัวของ สตีฟ เคอร์ หวังไว้อีกด้วย
ซึ่งองค์ประกอบดังกล่าวนี้เองแหละที่ทำให้ทีม Golden State Warrior ที่ขอลบคำสบประมาท กลายเป็นทีมบ๊วยในฤดูกาลก่อนหน้าที่กลับมาผงาดและกลายเป็นแชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 2021 – 2022 ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าพวกเขาเองยังจะเดินหน้าสร้างความยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้งหรือไม่