หากพูดถึงมนต์เสน่ห์ของเกมกีฬาอีกอย่างหนึ่งนอกจากความคลังและประวัติอันยาวนานของทีแต่ละทีมแล้ว สิ่งที่ทำให้แฟนคลับหลาย ๆ คนต่างชื่นชอบในตัวของของทีมนั่นก็คือผู้เล่นในตำแหน่งต่าง ๆ ที่อยู่ในทีมนั่นเอง โดยผู้เล่น Superstar แต่ละทีมนั้นย่อมเป็นขวัญใจและส่งผลต่ออิทธิต่าง ๆ ภายในทีมเป็นอย่างมาก จนทำให้ผู้เล่นบางคนเปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของสมโสรไปเลยทีเดียว
ซึ่งหากคุณมีทีมรักทีมชอบสักทีมหนึ่งแล้ว หากย้อนไปดูประวัติเก่าของของทีมที่คุณติดตามอยู่นั้น คุณจะพบได้เลยว่าแต่ละสโมสรจะมีการกล่าวถึงเกียรติประวัตผู้เป็นตำนานของสโมสรเอาไว้อย่างมากมายเลยทีเดียว แต่ทว่าในมันคือเรื่องราวของในอดีต
ทำไมเราถึงพูดแบบนี้นะเหรอ เพราะว่าในปัจจุบันมันกลับไม่ใช่อย่างนั้น การที่เราจะได้เห็นผู้เล่นคนหนึ่งอยู่กับทีมตั้งแต่เริ่มต้นจนรีไทร์จากอาชีพนักกีฬานั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พบกันบ่อยนักในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับทุกกีฬาและกีฬาบาสเก็ตบอล NBA เองก็เป็นเช่นกัน แถมที่มันน่าประหลาดใจนั่นก็คือ กีฬาบาสเก็ตบอล NBA นี่แหละ ที่เป็นกีฬาที่มีผู้เล่นระดับ Superstar ย้ายทีมกันบ่อยโคตร ๆ จนทำให้คนที่ไม่ได้ตามแบบจริงจังถึงกันต้องงงเป็นไก่ตาแตก
และเพราะการย้ายทีมบ่อย ๆ นี้เองที่ทำให้มีคนเริ่มออกมาวิเคราะห์กันว่า เพราะอะไรกัน ทำไมนักบาสสมัยนี้ถึงตัดสินใจย้ายต้นสังกัดง่ายกว่านักบาสดัง ๆ ในอดีต แต่ก่อนที่เราจะพาไปถึงบทวิเคราะห์นั้น เราขอยกตัวอย่างเคสของนักบาสจอมย้ายทีมให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อนดีกว่า
โดยคนแรกนี่ถือได้ว่า ถ้าพูดถึงเรื่องย้ายทีมแล้วละก็ หมอนี้จะต้องเป็นชื่อแรกที่ถูกหยิบมาพูดแน่นอน เขาคนนี้ก็คือ
เจมส์ ฮาร์เดน (James Harden) พ่อนักบาสเคราดกดำ ที่พี่กี่เล่นย้ายทีมมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน แถมการย้ายทีม 2 ครั้งยังเป็นช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเขาได้เริ่มต้นกับ ฮิวส์ตัน ร็อกเก็ตส์ ก่อนที่ย้านไปอยู่กับ บรูคลิน เน็ตส์ จากนั้นก็มีการเทรดตัวไปอยู่กับ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส
อีกคนหนึ่งที่ย้ายบ่อยใช่ย่อยก็คือ รัสเซล เวสต์บรูค (Russell Westbrook) เพื่อนซี้ไอ้เจ้าพ่อหนุ่มเครางามนั่นเอง โดยเขาคนนี้ก็มีสถิติย้ายบ่อยไม่แพ้กัน โดย 4 ฤดูกาลหลังสุดเขาลงเล่นให้กับทีมไปถึง 4 แบบไม่ซ้ำกันเลยไม่ว่าจะเป็น โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์, ฮิวส์ตัน ร็อกเก็ตส์, วอชิงตัน วิซาร์ดส์ และ ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส
อีกเจ้าประจำของการย้ายนั่นก็คือ คริส พอล (Chris Paul) สุดยอดนักบาสดีกรีติดทีม All Star ไปถึง 12 สมัย แต่ถึงจะติดทีม All Star บ่อยขนาดไหน เขาคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ย้ายทีมบ่อยถึง 4 ครั้ง ด้วยการย้ายไปเล่นให้กับทีมถึง 5 ทีมด้วยกัน แถม 4 ฤดูกาลหลังสุด เขายังเล่นให้กับทีมไปถึง 3 ด้วยด้วยกันนั่นก็คือ นั่นคือ ฮิวส์ตัน ร็อกเก็ตส์, โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ และ ฟีนิกซ์ ซันส์
แต่หากจะให้เรามาพูดถึงกรณีการย้ายทีมจริง ๆ ที่เป็นสิ่งที่ช็อคสนั่นโลกบาสเก็ตบอล NBA มันก็คงไม่มีการย้ายทีมครั้งไหน สร้างความสั่นสะเทือนไปมากกว่ากรณีการย้ายของ เลบรอน เจมส์ อีกแล้ว
เลบรอน เจมส์ ได้ตบเท้าสู่วงการบาส NBA ครั้งแรกด้วยการถูกดราฟโดย คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส
ที่เป็นเมืองบ้านเกิดของเขา และแน่นอนว่าการได้เล่นให้กับทีมบ้านเกิดมันก็เสมือนเป็นอะไรที่ฝันไปสำหรับพวกเขาเหล่านั้นเลยทีเดียว ซึ่งทันทีที่ เจมส์ ก้าวเท้าเข้ามาเขาเริ่มพาทีมเดินหน้าเข้าสู่ความสำเร็จ เหมือนกันที่อดีต จอร์แดน เคยทำให้กับ ชิคาโก้ บูลส์ ยังไงยังงั้น
แต่ทว่า เจมส์ นั้นไม่สามารถที่จะอดทนได้พอเหมือนกับ ไมเคิล จอร์แดน เพราะตอนนั้นเขายังไม่สามารถคว้ารางวัลใด ๆ มาไว้ในมือได้เลย ทำให้หลังจากหมดสัญญาในปี 2010 เขาก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมกับ ไมอามี่ ฮีท เพื่อร่วมโปรเจ็คใหญอย่างการสร้าง BIG 2 เพื่อไล่ล่าแชมป์
แน่นอนว่าการย้ายทีมครั้งนั้นสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวเมืองคีฟแลนด์เป็นอย่างมาก จนถึงกับมีการออกมาเผาเสื้อของนักบาสผู้ยิ่งใหญ่รายนี้กันเลยทีเดียว แต่ที่มันทำให้เราได้คิดมากกว่านั้นนั่นก็คือ ทัศนคติของนักบาสรุ่นใหม่ เพราะหลังจากการย้ายทีมของ เจมส์ เจาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาอยากมีโอกาสที่จะเป็นเต็ง 1 ในการลุ้นแชมป์เหมือนกับนักบาสคนอื่น ๆ บ้าง เพราะว่าหากเขายังอยู่กับ คีฟแลนด์ต่อไป โอกาสที่มันจะไปถึงแชมป์มันช่างริบหรี่เสียเหลือเกิน
ซึ่งทัศนะคตินี้ไม่ได้มีเพียงแค่ เจมส์ คนเดียว แต่มันเป็นทัศนคติที่ค่อนข้างจะมีเพิ่มมากขึ้นในบรรดาเหล่านักบาสยุคใหม่
ซึ่ง เควิน ดูแรนท์เองก็เป็นหนึ่งในคนที่คิดแบบนั้นเช่นกัน เพราะว่าเขาคนนี้เองก็ได้ตัดสินใจย้ายจาก โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์
ไปสู่อีกทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์มากกว่าอย่าง โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส
ซึ่งในตอนนั้นทุกคนก็มองว่าถ้า KD ยังอยู่กับ โอกลาโฮมา จริง ๆ เขาก็มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์เช่นกัน ถ้าหากมีการเสริมทีมที่ดี แต่สำหรับเหล่านักบาสยุคใหม่พวกเขาไม่อยากจะเสียเวลาอันมีค่าเหล่านี้เพื่อไปวัดดวงอีกต่อไปแล้ว พวกเขาสามารถรู้เองได้ว่าทีมไหนที่มีโอกาสจะคว้าแชมป์ และ พวกเขาเองก็จะพยายามพยักดันตัวเองให้ไปยืนอยู่ตรงนั้นให้ได้ แม้ว่าบางทีมันจะดูทำให้บรรดาแฟนคลับเกลียดพวกเขาเข้ากระดูกดำก็ตามที
แล้วทำไมบาสเก็ตบอล NBA ถึงมีการย้ายทีมกว่ากีฬาประเภทอื่นละ ? เราเชื่อว่าคำถามนี้อาจจะเกิดขึ้นในใจของใครหลา ๆ คน ซึ่งคำตอบจของมันนั้นก็ง่ายแสนง่าย นั่นก็คือ จำนวนผู้เล่นในสนามนั่นเอง เพราะว่า บาสเก็ตบอล 1 ทีมใช้ผูเล่นลงสนามเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น ซึ่งมันก็คงไม่แปลกที่ว่ามันจะมีผู้เล่นที่โดดเด่นมาก ๆ ยึดครองตำแหน่งนั้น ๆ อย่างเหนียวแน่น และมักจะทำให้มีสิทธิ์ในการต่อรองมากกว่าคนอื่น แต่ทว่าหากเขาไม่สามารต่อรองได้ละ นั่นก็คือ เหตุผลที่พวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป
และนี่ก็คือบทวิเคราะห์คร่าว ๆ ถึงเรื่องราวว่าทำไมนักบาสในปัจจุบันมักจะย้ายทีมบ่อยกว่าที่พวกเขาจะเลือกทุ่มเทให้กับทีมที่สร้างพวกเขาขึ้นมา แล้วคุณละรับได้หรือไม่กับทัศนคติยุคใหม่ของเหล่านักบาสที่ต้องการจะมุ่งหน้าทำความฝัน เพื่อประสบความสำเร็จ dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง