หากพูดถึงเกม All Star แล้วละก็เราเชื่อว่าเหล่าแฟน ๆ หลายคนจะต้องจับตามองอย่างแน่นอน เนื่องจากการแข่งขันทุกปีนอกจากที่จะเป็นการรวมตัวกันของบรรดาเหล่าซุปเปอร์สตาร์ฝั่งตะวันตก และ ฝั่งตะวันออกเพื่อมาแข่งขันกันแล้ว ยังมีอีกหนึ่งการแข่งขันที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญอย่าง สแลมดังค์ คอนเทสต์ ซึ่งการแข่งขันนี้จะเป็นการดวลดังค์ของบรรดาเหล่าซุปเปอร์สตาร์ในวงการ NBA แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่งในการแข่งขันนี้ กลับมีชายที่ไม่ได้มีสังกัด และ ไม่ได้เป็นนักบาส NBA มาร่วมโชว์วาดลวดลายในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย โดยเขาคนนั้นคือชายที่มีชื่อว่า จอร์เเดน คิลกานอน
เรื่องราวของ จอร์เเดน คิลกานอน นั้นเริ่มต้นที่เมืองซัดบิวรี่ รัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งเมืองนี้มีประชากรเพียงแค่ 160,000 คน เท่านั้น และเพราะความที่มีประชากรน้อยนี่เองที่มันได้สร้างความเหลิงให้กับเขาเนื่องจาก เขาได้สามารถที่จะกีฬาได้อย่างคล่องแคล่วทุกอย่างในสมัยไฮสคูลไม่ว่าจะเป็น บาสเกตบอล , เบสบอล หรือ วอลเล่ย์บอล แต่แล้วตัวเขาก็ได้พบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต
โดยตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน ในอายุ 16 ได้มีโอกาสไปเที่ยวน้ำตกไนแองการ่า และระหว่างนั้นเขาได้พบว่ามีการเล่นบาส
กลางแจ้ง เขาเลยขอไปร่วมแจมในการเล่นครั้งนี้ด้วย ซึ่งแป้นที่เขาเล่นมีขนาดเตี้ยกว่าปกติ แต่ทว่าเขากลับไม่สามารถที่จะทำท่าดังค์ได้เหมือนกับคนอื่นเขา ซึ่งจุดเปลี่ยนในครั้งนี้นี่เองแหละที่ทำให้ตัวหลังจบไฮสคูล จอร์เเดน คิลกานอน ก็ได้ตั้งใจที่จะทุ่มเททุกอย่างไปให้กับการดังค์
และหลังจากที่เขาตัดสินใจได้ดังนั้นในปี 2010 ตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน ก็ได้เริ่มการกระโดดอย่างจริงจัง แถมเขายังทุ่มเทให้กับการกระโดดแทบทั้งวัน โดยเขาเชื่อว่ายิ่งกระโดดได้สูงเขาก็จะยิ่งสามารถดังค์ได้แม่นยำมากขึ้น และด้วยความที่บุคคลิกมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้เขาคนนี้เริ่มมั่นใจในตัวเองว่าเขาสามารถที่จะดังค์ได้ดีกว่าเหล่ามืออาชีพ
แต่ถึงว่า จอร์เเดน คิลกานอน จะมีความสามารถขนาดไหนก็ตามแต่ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ยังไม่ได้โด่งดังจนกลายเป็นที่รู้จักของใครหลาย ๆ คน จนกระทั่งการมาของสิ่งที่เรียกว่า YouTube ซึ่งตัวของ จอร์แดน ได้เริ่มอัพโหลดคลิปวิดีโอการดังค์ของเขาลงในสื่อโซเชี่ยลนี้เรื่อย ๆ จนกระทั่งคลิปของเขาเริ่มไปเข้าตาของทีมดังระดับมืออาชีพอย่าง Dunk Elite
ซึ่งทีมดังค์อย่าง Dunk Elite ได้ชักชวนให้ จอร์เเดน คิลกานอน
เข้ามาร่วมทีมและนั่นเองก็ทำให้ตัวของเขาได้พบว่าจริง ๆ แล้วการดังค์มันมีอะไรมากกว่าการะโดดแล้วเอาลูกยัดลงห่วงแบบที่เขาเคยทำ
ตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน ได้รับการฝึกอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเราจะต้องทำการเวทเทรนนิ่งเพื่อให้ร่างกายของตัวเองดีดตัวได้สูงขึ้น โดยเขาจะต้องใช้เวลาอยู่ในยิมไม่ต่ำกว่า 2 – 3 ชั้วโดมง แถมเขายังต้องมาซ้อมกระโดดดังค์วันละครึ่งชั่วโมง หรือบางทีก็ 3-4 ชั่วโมง แถมเขายังเคยฝึกมากถึง 9 ชั่วโมงเลยทีเดียว
สาเหตที่ทำให้ตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน ต้องฝึกหนักขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าเขาต้องการสร้างภาพ
ในหัวให้ชัดเจนเพื่อที่จะทำท่ายาก ๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่าย และหลังจากที่เขาได้ฝึกอย่างถูกวิธีในสุดแชมป์แรกก็มาถึง เพราะในปี2012 เขาคนนี้สามารถก้าวเข้ามาเถลิงบังลังก์แชมป์รายการ Sprite Slam Dunk Showdown ได้ในที่สุด
และเพราะการจินตนาการท่าดังค์ที่ฝึกจนชำนาญนี้เองที่ทำให้ตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน สามารถคิดค้นท่าดังค์แตกต่างจากคนอื่นได้มากมาย โดยตัวเขาเองมีท่าดึงถึง 100 เท่า แถมท่าแมงป่อง ซึ่งเป็นท่าที่กระโดดให้ตัวเลยแป้นแล้วไขว้แขนอ้อมหลังยัดห่วง ก็เป็นเขาคนนี้แหละที่เป็นผู้คิดค้น แถมท่านี้ยังเปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของเขาเลยอีกด้วย
ซึ่งการฝึกที่ดีขึ้น และความมุ่งมั่นของตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน นี่เองที่ส่งผลให้เขาสามารถที่จะเดินหน้าคว้าแชมป์ต่าง ๆ มาได้เรื่อย ๆ โดยเขาคนนี้สามารถที่คว้าแชมป์ Sprite Slam Dunk Showdown ได้ถึง 4 ครั้งติดโดยเริ่มคว้าแชมป์แรกมาตั้งแต่ปี 2012 ลากยาวไปจนถึงปี 2016 ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขาสามารถคว้าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่อนี้นั่นก็เพราะว่าเขานั้นได้คิดค้นลีลาใหม่ ๆ มาดังค์ได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดข้ามรถยนตมาดังค์ หรือ กระโดดหมุมตัว 3 รอบดังค์ก็ทำมาแล้ว
และเพราะลีลาดังค์ที่สะแด่วเกินบรรยายนี้เองที่ส่งให้ตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน ได้รับการติดต่อให้เขามาโชว์ในเกม NBA All Star ปี 2016
ซึ่งในปี 2016 นั้นในศึก Slamdunk Contest ได้เป็นศึกการดวลกันที่ถูกบันทึกไว้ในอีกหนึ่งหน้าประวัติศาตร์
เพราะว่าการดวลดังค์ในรอบชิงของ แซ็ค ลาวีน กับ อารอน กอร์ดอน ถือได้ว่าเป็นอะไรที่เรียกเสียงฮือฮาและตื่นเต้นเร้าใจ แต่ในระหว่างที่เป็นช่วงพักครึ่งที่เหล่าผู้เล่นกับซ้อมรับส่งลูกกันแบบชิว ๆ ตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน และทีมของเขาก็ได้เดินเข้าสู่สนามเพื่อเป็นการเอนเตอร์เทรนคนดูในช่วงพักครึ่ง
จอร์เเดน คิลกานอน เดินออกมาด้วยกางเกงยีนก่อนที่จะวิ่งเข้าไปกระโดดยัดห่วงด้วยท่า โน ลุค ดังค์ และด้วยความเร็ว และ ความรุนแรงในท่าดังค์ของเขานี้เองที่ทำให้เสียงเฮจากบรรดาคนดูกึกก้องทั้งสนาม แต่ที่มันพีคไปกว่านั้นนั่นก็คือ บรรดาเหล่านักบาส NBA ระดับ Top อย่าง ดเวย์น เหวด, คริส บอช รวมถึงอีกหลาย ๆ คนที่กำลังซ้อมกันอยู่นั้น ถึงกับช็อค และลีลาดังค์ครั้งนี้นี่แหละที่ส่งผลให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในทีสุด
ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะส่งสัยว่าทำไมเขาคนนี้ทำถึงมีลีลาดังค์ได้โหดเหลือหลายขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าตัวของ จอร์เเดน คิลกานอน มีกล้ามเนื้อที่มีความยืดหยุ่นสูง แถมกล้าเนื้อเขาก็สามารถหดและคลายคัวได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้เส้นประสาทต่าง ๆ ของเขาสามารถตอบสนองได้ดี และ รวดเร็วกว่า นอกจากนั้นแล้วด้วยการฝึกที่อย่างหนักของเขาด้วยนี่เองที่มันได้ส่งผลให้การกระโดดดังค์ของเขามันดูเหนือนมนุษย์ธรรมดาไปมาก
แต่ก็ใช่ว่าร่างกายอันสุดวิเศษของเขาจะเป็นข้อดี เพราะว่าเพราะระบบประสาทที่ทำงานได้แบบสุดขั้วนี่เองที่ทำให้ร่างกายของ จอร์เเดน คิลกานอน ได้รับผลกระทบ โดยทุก ๆ เช้าเขาจะต้องพบกับความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อแบบสุดขั้ว ซึ่งการที่จะบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ลงได้นั่นก็คือ การพักผ่อน โดยเขาจะต้องใช้เวลาพักผ่อนมาถึง 48 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าเพราะการต้องพักผ่อนขนาดนี้ทำให้ตัวเขาคิดว่า เขาคงไม่มีทางที่เป็นนักบาส NBA ได้แน่นอน แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังค่อนข้าพึงพอใจกับร่างกาย และ อาชีพแบบนี้ของเขาอยู่ดี dunkswin9
เครดิต : สล็อตแตกง่าย