หากจะกล่าวถึงนักบาสที่ตอนนี้หลาย ๆ คนก็ยังคงยกให้เป็นเบอร์ 1 ของ NBA ในปัจจุบัน ชื่อของชายอย่าง เลบรอน เจมส์ จะต้องถูกล่าวถึงอย่างแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าเพราะฝีมืออันยอดเยี่ยมของชายคนนี้นี่แหละที่ทำให้เขาได้ฉายาว่า คิง เจมส์ ซึ่งฉายานี้มันก็เป็นการการันตีอยู่แล้วว่า ถ้าเผชิญหน้ากับเขาจุดจบมันจะเป็นเช่นไร แต่ทว่าบางทีนั้นราชาของเราก็ไม่ได้เป็นสุดยอดเสมอไป เพราะมันล้วนแล้วแต่มีบรรดาเหล่านักบาสมากมายที่พร้อมจะมาท้าพิสูจน์ของฝีมือราชาคนนี้ แหละหนึ่งในคนที่หาญกล้ามาปะทะฝีมือกับ ราชาคนนั้นเขามีชื่อว่า จาวาริส คริทเทนตัน
เรื่องราวของ จาวาริส คริทเทนตัน นั้นเริ่มต้นขึ้นจากความไม่พร้อม เนื่องจากคุณแม่ของเขาอย่าง ซอนย่า ดิ๊กสัน ได้ให้กำเนิดเขาตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 17 ปี แต่ทว่าหลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกน้อยคนนี้ได้ไม่นานความโหดร้ายก็เข้ามาในชีวิตของเธอ เนื่องจากสามีของเธอต้องจากไปเพราะโรคตับ
และในตอนที่ จาวาริส คริทเทนตัน มีอายุได้ประมาณ 7 – 8 ขวบ เขาก็ได้แวะไปเล่นที่โรงยิมแห่งหนึ่งที่มีไว้สำหรับเล่นบาส ซึ่งการไปเล่นที่ตรงนั้นนี่เองที่ทำให้เขาได้เจอกับ ผู้ฝึกสอนบาสที่มีชื่อว่า ทอมมี่ สลอตเตอร์ หรือเด็ก ๆ แถวนั้นจะเรียกเขาว่า พีเจ
โดยทันทีที่ พีเจ ได้เห็นตัวของ จาวาริส เขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างว่า
ไอ้เด็กคนนี้นั่นมีของ ว่าแล้ว พีเจ จึงเทรนเจ้าเด็กน้อยคนนี้หนักกว่าคนอื่นเขาจนทำให้ทั้งคู่สนิทกันรางกับเป็นพ่อลูก
และจากการฝึกสอนด้านต่าง ๆ ของ พีเจ นั้นทำให้ชีวิตของ จาวาริส คริทเทนตัน เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น โดยตัวของเขาได้กลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโรงเรียน โดยในตอนนั้นเขาได้สังกัดอยู่กับโรงเรียนคริสต์แห่งแอตแลนต้า และตอนนั้นทีมนั้นก็ยังมีผู้เล่นอย่าง ดไวท์ ฮาเวิร์ด อยู่อีกด้วย ซึ่งการจับคู่ของเขาทั้งสองนั้นส่องผลให้ทีมได้กลายเป็นตัวแทนไปแข่งขันที่เมือง ฮิวสตัน และการเดินทางในครั้งนี้นี่เองที่มันทำให้เขาได้ไปเจอกับโรงเรียนอย่างโรงเรียนเซนต์ วินเซนต์-เซนต์ แมรี่ ซึ่งที่แห่งนั้นมีราชาที่กำลังจะเตรียมแจ้งเกิดใน NBA อย่าง เลบรอน เจมส์ นำทัพอยู่
แต่ทว่าเรื่องราวมันกลับเหมือนละครน้ำเน่าชั้นดีที่หลาย ๆ คนเคยชม
เพราะในขณะที่ตัวของ จาวาริส คริทเทนตันกำลังไปได้ดีจู่ ๆ ชายผู้ซึ่งฝึกสอนเขามาอย่าง พีเจ ก็ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้และทวารหนัก แต่ถึงแบบนั้นตัวของ จาวาริส ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ เขาจึงได้ชวน พีเจ ไปดูเกมการแข่งขันของเขา และแน่นอนว่า พีเจ ยอมตอบรับ
แต่ถึงแม้ว่าตัวของ จาวาริส คริทเทนตันจะชวนพีเจมาดูเกมนี้ก็ตาม แต่เขาคนนี้กลับเริ่มสตาร์ทด้วยการเป็นผู้เล่นสำรองมองดูคนอื่นเล่น แถมในสนามตอนนั้น เลบรอน เจมส์ ก็โชว์เห็นว่าเขานี่แหละที่จะกลายเป็นราชาแห่งวงการบาสคนต่อไป เพราะเขาสามารถที่จะพุ่งผ่านเหล่าผู้เล่นของแอตแลนต้าคนแล้วคนเล่า ได้อย่างสบาย จนทำให้แววของแอตแลนต้าที่จะชนะนั้นเริ่มเลือนรางไปทุกที
ซึ่งเมื่อเหมือนเกมจะขาดไปแล้ว โค้ชของแอตแลนต้า ก็ได้ส่งเสียงสวรรค์ให้กับ จาวาริส คริทเทนตัน
ให้เตรียมตัวลงสนามในขณะที่เวลาเหลืออีกเพียงน้อยนิด ซึ่งแน่นอนว่าการส่งเขาลงในช่วงเวลาแบบนี้มันก็เหมือนกับสัญญาว่า อยากจะโชว์อะไรก็โชว์ และแน่นอนว่าเขาก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดมือ
และแน่นอนว่าเมื่อเขาลงสนามเขาก็ต้องปะทะกับ เลบรอน เจมส์ ซึ่งเขาพยายามที่จะดึงจังหวะหลอก แต่ดูเหมือนว่า เจมส์ จะไม่หลงกลเขาเลย จนทำให้ในที่สุดเขาก็ท้าดวลกับเจมส์ด้วยการทะลุเข้าด้านใน แล้วกระโดดขึ้นทำแต้ม และเมื่อเจมส์เห็นแบบนั้นเขาก็กระแทกจาวาริส คริทเทนตันในจังหวะลอยตัวจนเสียหลัก แต่ในเสียววินาทีนั้นเองตัวของ จาวาริส ก็สลับมือในการทำแต้ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ เจมส์ พุ่งเข้ามาปัดบอล มันเลยทำให้ เจมส์ นั้นตอบอลว่าวไปแบบเต็ม ๆ แถมลูกนั้นยังลงอีกด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปชีวิตของ จาวาริส คริทเทนตันก็เริ่มเห็นแววมากขึ้น โดยเขาคนนี้ถูกดราฟท์โดยทีมอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส เป็นอันดับที่ 1 ในปี 2007 แต่ทว่าเส้นทางของเขาในเลเกอร์สนั้นก็ถือว่าไม่ได้เด่นอะไรมากมายมากนัก แต่ทว่าสิ่งที่มันแย่งไปยิ่งกว่านั่นก็คือระเบียบวินัยของเขาที่ค่อนข้างหย่อนยานลงไป ส่วนเหตุผลนั่นก็คือ เขานั้นกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของแก๊งสเตอร์ไปแล้ว และเพราะการอยู่กับเหล่าชาวแก๊งมาไปนี่แหละที่ทำให้พรสวรค์ต่าง ๆ ของเขาเริ่มทดถอยลงไป
และเมื่อฟอร์มตก จาวาริส คริทเทนตัน ก็ไม่อาจที่อยู่ในทีมอย่าง เลเกอร์ส ได้อีกต่อไป มันจึงทำเขาจำเป็นที่ต้องเก็บข้าวของไปสู่ทีมอย่าง เมมฟิส แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นานเขาก็ถูกเทรดต่อไปทีมอย่าง วอชิงตัน วิซาร์ดส์ ในปี 2009 แต่ทว่าการเดินทางมาสู่ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ นี้เองแหละที่มันทำให้เรื่องต่าง ๆ เริ่มเดินทางไปสู่ความเลวร้ายขึ้น
เนื่องจากตัวของ จาวาริส คริทเทนตัน ได้เล่นไพ่กับเพื่อน ๆ ในทีม และ ตัวของเขาก็ได้เสียเงินหมดตัวให้กับ จาวาล แม็กกี ซึ่งตัวของ กิลเบิร์ต อารีนาส ที่นับได้ว่าเป็นตัว Top ของทีมที่ดูอยู่ก็หัวเราะใส่ด้วยท่าทางยั่วโมโห และนั่นเองก็ทำให้ จาวาริส ฟิวขาดจนถึงขั้นขู่ยิงกันเลยทีเดียว แถมหลังจากเหตุการณ์นั้น 2 วันตัวของ อารีนาส ยังเพิ่มเชื้อไฟให้โหมขึ้นไปอีกด้วยการ เอากระสุนปืน 3 นัดมาวางไว้ที่ล็อคเกอร์ของ จาวาริส และพูดท้าทาย แต่ทว่าสิ่งที่ อารีนาส แทบไม่เชื่อเลยก็คือ ตัวของ จาวาริส นั้นพกปืนมาจริง ๆ และหยิบกระสุนนั้นบรรจุเข้าปืนและพร้อมจะลั่นไกจริง ๆ และเพราะเหตุการณ์นี้นี่เองที่มันได้ทำให้เขาถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และ ชีวิตเส้นทางนักบาสของเขาก็จบลง
และเมื่อเส้นทางนักบาสของเขาจบลง เขาก็เริ่มก้าวเข้าสู่อีกเส้นทางหนึ่งที่เขาไม่เคยหนีไปไหนนั่นก็คือเส้นทางของ แก๊งสเตอร์ ซึ่งการอยู่ในแก๊งนี้แหละที่ทำให้ไม่ใช่แค่ชีวิตนักบาสจนลง แต่มันกลับทำให้ชีวิตคนธรรมดาของจาวาริส คริทเทนตันจบลงไปด้วยเนื่องจากเขาได้ก่อเหตุฆาตกรรม คุณแม่ลูก 4 เนื่องจากเขาได้ก่อเหตุปล้นและเผลอไปยิงโดนขาของคุณแม่คนนี้ ทำให้สุดท้ายแล้วคุณแม่คนนี้ก็สียชีวิตในระหว่างผ่าตัด แถมเท่านั้นยังไม่พอเพราะเขายังถูกจับอีกครั้งในคดีขายโคเคนหลายกิโลกรัมอีกด้วย
และนี่ก็คือเรื่องราวของชายผู้ที่สามารถทำเอาราชาหน้าคว่ำอย่าง จาวาริส คริทเทนตัน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจจะมายืนแทนที่ราชาได้ dunkswin9