หากพูดถึงอีกหนึ่งทีมดังของวงการบาสเก็ตบอล NBA เราชื่อว่าทีมที่หลาย ๆ คนจะต้องต้องไล่ชื่อมาเป็นลำดับต้น ๆ เลยนั้นจะมีทีมดังแห่งไมอามี่ อย่างทีม ไมอามี่ ฮีต อยู่อย่างแน่นอน และเพราะการที่เป็นทีมซึ่งสามารพุ่งทะลุเข้าไปถึงรอบไฟนอลของ NBA ได้อยู่อย่างบ่อยครั้งนี้เอง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีมนี้ถึงมีเหล่าผู้เล่นระดับยอดฝีมืออยู่ในทุกยุคทุกสมัย แต่ถ้าจะให้พูดถึงชายที่เป็นตำนานของทีมนี่จริง ๆ เราเชื่อเลยว่าชื่อของชายอย่า ดเวย์น เหวด จะถูกกล่าวขานออกมาอย่างแน่นอน
ซึ่งเพราะความเป็นตำนานของเขานี่แหละที่วันนี้เราจะพาทุกคนไปความรู้จักกันการ์ดตัวเก่งแห่งยุคคนหนึ่งของ NBA คนนี้กันซึ่งเรื่องราวของเขาจะเป็นมาอย่างไรบ้างนั้น เราไปเริ่มต้นทำความรู้จักเขาคนนี้กันเลย
ดเวย์น เหวด เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1982 ทางตอนใต้ของเมืองชิคาโก
โดยมันได้มีเรื่องฮา ๆ เกิดขั้นตั้งแต่ตอนเขาเกิดมาเลยนั่นก็คือ ในตอนแรกนั้นทางคุณแม่ของเขาตั้งใจที่จะเขียนชื่อของเขาว่า Dwayne แต่คุณยายที่มาด้วยกัน กลับสะกดชื่อลงในใบแจ้งเกิดผิด โดยเขียนตัว y และ a สลับกัน เป็น Dwyane และกว่าจะรู้ตัวว่าสะกดกระบวนการในการแจ้งเกิดก็เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย แม่ และ คุณยายของเขาก็เลยปล่อยเลยตามเลย จนทำให้เราได้ชื่อการสะกดที่ผิดแปลกจากคนทั่วไปของเขามาจนถึงปัจจุบันนี้เอง
แต่เพราะย่านที่เขาอยู่นั้นค่อนข้างที่จะเต็มไปด้วยสิ่งอบายมุขต่าง ๆ มากมาย พ่อของเขาจึงได้พยายามหาวิธีที่ทำให้ เหวด ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ และหนึ่งในกิจกรรมที่คุณพ่อใช้นั้นก็คือ การพาเขาไปดูบาสเก็ตบอล NBA ซี่งในตอนนั้นทีมที่เขาได้ดูเป็นประจำนั่นก็คือ ทีมชิคาโก้ บลูส์ ที่มี นักบาสระดับตำนานอย่าง ไมเคิล จอร์แดนอยู่ด้วยนั่นเอง
และเพราะการได้ดูไมเคิล จอร์แดนเล่นบ่อย ๆ นี้เองที่ทำให้ เหวด เริ่มมีความฝันที่จะมุ่งมั่นเป็นนักบาสให้เหมือไมเคิล จอร์แดนให้ได้ และหลังจากเขาได้เริ่มเรียนมัธยมปลาย เหวาด ก็ได้โชว์อีกหนึ่งศักยาภาพด้านกีฬาของเขามาให้ทุกคนได้เห็นนั่นก็คือ ทักษะด้านอเมริกันฟุตบอลนั่นเอง
แต่ถึงแบบนั้น เหวด ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ แต่ด้วยการที่ผลการเรียนไม่ค่อยจะดีนักของเขาทำให้ตัวเขามีมหาวิทาลัยเสนอทุนให้เพียงแค่ 3 มหาวิทยาลัยเท่านั้น ซึ่ง เหวด ก็ไม่ได้สนใจมหาวิทยาลัยไหนเป็นพิเศษเขาขอเพียงแค่ทำเกรดการเรียนตัวเองให้ดีขึ้นให้ได้ก่อน จนในที่สุดเขาก็สามารถลงเล่นให้กับทีมมหาวิทยาลัยได้
และในที่สุดความฝันของเขาคนนี้ก็เป็นจริงจนได้ โดยในปี 2003 เขาก็ได้รับเลือกเข้าสู่วงการบาส NBA โดยการถูกดราฟ์ทเป็นอันดับที่ท 5 จาก ไมอามี่ ฮีต แต่ว่าถึงจะได้ก้าวเข้าสู่วงการบาสเก็ตบอลระดับโลกแล้ว ผลงานในปีแรกของเขาก็ยังไม่ค่อยเป็นที่จับตามองสักเท่าไหร่ เพราะในตอนนั้น ฮีต ยังเป็นทีมที่ดูเงียบ ๆ อีกกระแสตอนนั้นกำลังไหลไปที่การดราฟท์อันดับ 1 ของ
เลบรอน เจมส์ กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และ คาร์เมโล่ แอนโธนี่ ดราฟท์อันดับที่ 3 กับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์
แต่แล้วก็เหมือนพลุลูกใหญ่ถูกจุดระเบิดขึ้น เพราะในที่สุด ดเวย์น เหวด คนนี้ก็สามารถพาแชมป์มาสู่ทีมของเขาสำเร็จในปี 2006 อีกทั้งการเป็นแชมป์ของ ไมอามี่ ฮิต ครั้งนี้ยังพ่วงมาด้วยตำแหน่งผู้เล่น MVP ของ ดเวย์น เหวด อีกด้วย แต่ทว่าความสำเร็จในปี 2006 นั้นมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะว่าหลังจากนั้น เหวด ก็สามารถพา ฮีต คว้าแชมป์ไปได้อีกถึง 3 สมัย โดย 2 สมัยหลังคือ ปี 2012 และ 2013 ไมอามี ฮีต กลายเป็นทีมที่โคตรแข็งแกร่ง เพราะมีผู้เล่นอย่าว เลบรอน เจมส์ และ คริส บอช มาเสริมทัพ
แต่การได้แชมป์มาถือครองไว้ในมือยังไม่ใช่ปลายทางแห่งความฝันของเขา นั่นก็เพราะว่าอีกหนึ่งความฝันของเขานั่นก็คือ การได้เล่นให้ทีมบ้านเกิด และ ทีมที่มีไอดอลของเขาเคยเล่นอยู่นั่นก็คือ การได้เข้าร่วมทีมกับ ชิคาโก บูลส์ ซึ่งทำให้ในที่สุดปี 2016 เขาก็ได้ย้ายจากทีมที่สร้างความสำเร็จให้เขาอย่างท่วมท้นไปในที่สุด
และหลังจากที่เขาสานฝันของตัวเองตบลง เขาก็ได้เริ่มต้นการเลืนกับอีกหลาย ๆ ทีม ก่อนที่จะมาจบที่บ้านที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดอย่าง ไมอามี่ ฮิต แต่ทว่าในปี 2019 เขาก็ตัดสินใจที่จะเลิกเส้นทางอาชีพการเป็นนักบาสของเขาแม้ว่ามันจะมันจะสามารถไปต่อได้อีกไกลก็ตามที โดยเหตุผลในการยุติบทบาทนั้นก็คือ เขาต้องการที่จะใช้เวลาที่เหลือกับครอบครัวของเขานั่นเอง
และทันทีที่ข่าวการยุติการเป็นนักบาสของเขาแพร่กระจายออกมา มันก็ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์สุดทึ่งที่เรียกันว่า
“One Last Dance” ซึ่งในทุกๆสนามของเขานั้นจะมีการแฟร์เวลส่งท้าย และสดุดีเหวดทุกสนาม จนทำให้ราวกับว่าทุก ๆ เกมของที่เป็นการนับถอยหลังสู่การเลิกเล่นนั้น มันเปรียบเสมือนกับการทัวร์เพื่อไปขอบคุณเหล่าแฟน ๆ ที่รัก และ เคารพ ในแรงศรัทธาถึงตัวเขามาโดยตลอดเลยทีเดยว
และแม้ว่าในปัจจุบันี้ ดเวย์น เหวด จะไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้เล่นที่คอยคอนโทรลบอลต่าง ๆ อยู่ในสนามแล้วก็ตาม แต่ทว่าเราเชื่อว่าลีลาระดับเทพ และ ภาพลักษณ์ต่าง ๆ ของเขาที่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวงการบาส มันจะกลายที่จดจำของบรรดาเหล่าคนดูบาสเก็ตบอลไปอีกนานแสนนาน dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง