แน่นนอนว่ากีฬานั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะอยู่คู่กับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งนอกจากการเล่นกีฬาแล้วเราเชื่อว่าผู้ชายหลาย ๆ คนยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสร้างความบันเทิงให้กับผู้ตัวเองนั่นก็คือการอ่านการ์ตูนนั่นเอง และหนึ่งในสิ่งที่การ์ตูนญี่ปุ่นมักจะมีให้เราได้เห็นกันอยู่เสมอนั่นก็คือการใช้ท่าไม้ตายของเหล่าตัวละครต่าง ๆ นั่นเอง
ซึ่งบรรดาเหล่านักบาสในเวที NBA หลาย ๆ คนเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับบรรดาเหล่าตัวละครในโลกของหนังสือการ์ตูน เพราะการที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งบางทีพวกเขาเองก็จำเป็นที่จะต้องมีท่าไม้ตายในการเอาชนะเหล่าคู่แข่งพวกนั้นให้ได้เช่นกัน
ซึ่งผู้เล่นแต่คนใครคนไหนจะมีท่าไม้ตายอะไรให้เราได้ติดตามกันในครั้งนี้เราไปเริ่มดูกันเลย
ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่าท่าไม้ตายของบรรดาเหล่านักบาส NBA นั้นมันอาจจะต่างจากในการ์ตูนอยู่พอสมควร แต่ที่เราเรียกสิ่งเหล่านั้นว่าท่าไม้ตายนั่นก็เพราะว่ามันเป็นท่าที่ใช้แล้วได้คะแนนและสามารถฉีกแนวรับฝั่งตรงข้ามได้อย่างชุดเจน ซึ่งคนแรกเราต้องของย้อนไปดูกันที่ คารีม อับดุล จาบาร์ เซนเตอร์ของ มิลวอกี้ บัคส์ และ แอลเอ เลเกอร์ส ที่มีความสูงถึง 218 เซนติเมตร โดยเขาคนนี้ได้อาศัยความสูงในการยิงระยะกลางด้วยการใช้ท่าที่เรียกว่า สกายฮุค
ซึ่งจริง ๆ แล้วท่าไม้ตายอย่างสกายฮุคของคารีม จริง ๆ แล้วมันถูกเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในปี 1937 โดยผู้ที่ใช้คนแรกนั่นก็คือ
พลานาส ทาวแซสนาส ผู้เล่นทีมชาติลิธัวเนีย โดยในเกมนั้นเขาได้ใช้มือเดียวยิงบอลด้วยการวาดแสงเป็นเส้นโค้ง ในขณะที่มืออีกข้างยังคงบังบอลและปิดทางคู่ต่อสู้
ซึ่งตัวของ คารีม เองก็ได้หยิบเอาท่านั้นมาประยุตกต์และพัฒนาให้กลายเป็นแบบฉบับเฉพาะตัว แถมเขายังเสริมการกระโดดเข้าไปด้วย ซึ่งเพราะช่วงแขนที่ยาวของเขานี้เองที่ทำให้ท่าสกายฮุคของเขานั้นกลายเป็นท่าไม้ตายที่ไร้เทียมทาน จนยากที่ใครจะหยุดได้
ส่วนอีกคนที่มีท่าไม้ตายอันเป็นเอกลักษณ์ก็คงจะหนีไม่พ้นตัวของนักบาสระดับตำนานอย่าง ไมเคิล จอร์แดน โดยตัวของจอร์แดนนั้นถอได้ว่าเป็นนักบาสอีกคหนึ่งที่สามารถยิงระยะกลางได้ดี และเขายังมีความคล่องตัวในการพุ่งเข้าไปวงในและวางบอลหลบคู่ต่อสู้ได้อย่างสวยงาม
และเมื่อจอร์แดนทำท่านี้บ่อย ๆ จนเคยชินมันก็เลยทำให้ท่านี้กลายมาเป็นท่าไม้ตายของจอร์แดนและท่านี้ก็ได้ถูกตั้งชื่อเรียกว่า
ดับเบิ้ลคลัทช์ หรือก็คือการหลบการป้องกันในขณะที่ตัวค้างอยู่กลางอากาศ
แล้วค่อยวางบอลลงอีกข้างหนึ่งของห่วง ซึ่งแม้ว่าจอร์แดนจะทำเหมือนง่าย แต่สำหรับใครที่ได้ลองทำเองแล้วจะรู้ว่ามันเป็นอะไรที่โคตรยากมาก
แต่ทว่าหลังจากที่จอร์แดนรีไทร์ออกจากวงการไปก่อนที่เขาจะกลับเข้ามอีกครั้งในปี 1995 ด้วยอายุที่มากขึ้นของเขาเองทำให้เขาอาจที่จใช้ท่าไม้ตายเดิมที่ค่อนข้างใช้พลังงานเยอะได้ดีเหมือนดั่งเดิม มันจึงทำให้เขาทำการเปลี่ยนท่าไม้ตายโดยท่าไม้ตายหลังจากที่เขากลับมาโลดเล่นในเวที NBA อีกครั้งนั่นก็คือท่าที่เรียกว่า เฟดอเวย์
ซึ่งแม้ว่าในยุคที่จอร์แดนยังมีท่าไม้ตายเป็นท่าอย่าง ดับเบิ้ลคลัทช์
เองอยู่นั้น ตัวเขาเองก็ยังมีใช้ท่าอย่าง เฟดอเวย์ในหลายๆ ครั้ง แต่เขาก็ไม่ใช้มันบ่อยขนาดนั้น ซึ่งการที่เขาเปลี่ยนมาใช้ท่าเฟดอเวย์เป็นท่าหลักในการหากินในยุคหลัง ๆ นั่นก็เพราะเขาไม่สามารถที่จะลอยตัวอยู่กลางอากาศได้นานเหมือนเมื่อก่อนแล้วนั่นเอง
โดยตัวของไมเคิล จอร์แดนมักจะงัดท่าไม้ตายเฟดอเวย์ในกรณที่เจอคู่ต่อสู้ที่ไม่รู้ว่าจะหลบไปทางซ้าย หรือ ชวาดี โดยเขาจะทำการหมุนรอบ ๆ แล้วค่อยกระโดดถอยหลัง รอจังหวะให้คู่ต่อสู้ที่กระโดดขึ้นบล็อกตัวตกลงกว่าเขาเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยปล่อยบอลออกไป ซึ่งสิ่งท่าไม้ตายของจอร์แดนนั้นทรงประสิทธิภาพกว่าของคนอื่นนั่นก็คือ ตัวของจอร์แดนตอนใช้ท่านี้มันแทบจะเป็นการทำตัวให้แบนราบไปกับอากาศเลยนั่นเอง
และเพราะท่าไม้ตายของจอร์แดนที่แข็งแกร่งและทรงประสิทธิภาพอย่างการทำเฟด์อเวย์นี่เองจึงทำให้บรรดาเหล่านักบาสรุ่นหลังได้หยิบเอาท่านี้มาประยุกต์ใช่เป็นท่าของตัวเองอย่างมากมาย และ หนึ่งในคนที่มีท่าไม้ตายเป็นท่าของการทำเฟด์อเวย์ที่พัฒนามานั่นก็คือชายที่ชื่อว่า เดิร์ก โนวิตสกี้ ฟอร์เวิร์ดจาก ดัลลัส มาเวอร์ริคส์ นั่นเอง
โดยท่าไม้ตายขอ งเดิร์ก โนวิตสกี้ นั่นจะมีชือเรียกว่า One-legged Fadeaway ซึ่งเขาคนนี้จะทำการกระโดดถีบตัวไปด้านหลังแต่ในขณะเดียวกันเขาก็จะใช้เข่าป้องกันคู่ต่อสู้เข้ามาใกล้ ๆ นอกจากนั้นแล้วตัวของ เดิร์กเองยังกล่าวรูปแบบการเฟดของเขาจะมีลักษณะที่เฟยดถอยไปด้านหลังโดนที่ตัวจะแอนไปเยอะ แถมยังมีการก้าวถอยหลังที่ยาวกว่าเฟดอเวย์ของจอร์แดนเนื่องจากสรีระที่สูงใหญ่ของเขานั่นเอง
แต่ทว่าใน NBA ก็ไม่ได้มีเพียแค่คนตัวใหญ่ ๆ อย่า เดิร์ก คนเดียวที่สามารถคิดค้นท่าไม้ตายขึ้นมาได้เอง ซึ่งอันที่จริงแล้วตอนแรกตัวของ เดิร์ก นั้นก็ได้พยายามเลียนแบบท่าไม้ตายของชายคนหนึ่ง ชายที่ชื่อว่า ฮาคีม โอลาจูวอน
โดยท่าไม้ตายของ ฮาคีมนั้นมีชื่อว่า ดรีมเชค ซึ่งท่านี้ถือได้ว่าเป็นท่าไม้ตายที่ค่อนข้างดังเอามาก ๆ ในยุค 90
โดยตัวของ ฮาคีม จะทำการหลอก 2 สเต็ปด้วยการเข้าไปข้างในด้วยความเร็วเพื่อเป็นการหลอกจังหวะแรก ก่อนที่จะพลิกกลับเข้ามาหลอกอีก 1 จังวหวะ ก่อนที่ตัวฮาคีมจะพุ่งตรงดิ่งเข้าไปทำคะแนน และเพราะความรวดเร็วที่มันสุดแสนจะเหลือเชื่อของ ฮาคีม นี่แหละที่ทำให้บรรดาสื่อต่าง ๆ ก็ขนานนามชื่อท่านี้ว่า ดรีม
และนี่ก็คือบรรดาเหล่าท่าไม้ตายของนักกีฬาคนต่าง ๆ ใน NBA ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะเห็นกันแล้วว่าจริง ๆ แล้วท่าพวกนี้มันไม่ได้เป็นแค่ของใครคนใดคนหนึ่งเพียงแต่มันขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นคนนั้นจะคิดและดัดแปลงเอามาประยุกต์ใช้อย่างคล่องแคล่วได้มากน้อยแตกต่างกันขนาดไหนเท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากอ่านบทความนี้จบ เราเชื่อว่าคุณ คงจะเริ่มมีท่าไม้ตายที่คุณอยากจะคิดค้นขึ้นมาเองอยู่ในหัวแล้วใช่ไหมละ dunkswin9
เครดิต : เว็บสล็อต