หากว่าด้วยกับด้วยเรื่องของกีฬานั้น สิ่งที่ผู้ชมอย่างเรา ๆ มักจะคุ้นตากันอยู่เสมอนั่นก็คือ การแข่งกีฬาของลีกายในประเทศนั่นเอง ซึ่งบรรดาเหล่าทีมทั้งหลายต่างก็มีบรรดาเหล่าซุปเปอร์สตาร์ตัวเทพอยู่ประจำทีม ซึ่งความเก่งกาจของผู้เล่นเหล่านั้นนี่เองที่มันคงทำให้ ผู้ชมหลาย ๆ คนใฝ่ฝันว่า อยากจะเห็นซุปเปอร์สตาร์ดัง ๆ ในลีก ลงเล่นพร้อมกันสักครั้ง
ซึ่งสำหรับ NBA แล้วก็มีสิ่งที่เรียกว่าการแข่งขัน NBA All Star
ที่จะเป็นการรวบรวมผู้เล่นซุปเปอร์สตาร์ของฝั่งตะวันตก และ ตะวันออกมา ปะทะกัน แต่ว่านั้นก็เป็นเพียงแค่การแข่งขันกันเพื่อเอนเตอร์เทนบรรดาเหล่าผู้ชมเท่านั้น
แต่ทว่าเวทีที่แท้จริง และ มีศักดิ์ศรีหลาย ๆ เป็นเดิมพันมันย่อมลุ้นกว่าเป็นที่ไหน และแน่นอนว่าอีกหนึ่งเวทีที่จะทำให้เหล่าซุปเปอร์สตาร์จากทีมต่าง ๆ มารวมตัวกันได้นั่นก็คือ เวทีของการแข่งขันแบบทีมชาตินั่นเอง และหากเราจะนับว่าการแข่งขันระดับเวทีไหนยิ่งใหญ่ที่สุด หลาย ๆ คนก็คงจะตอบเป็นเสียงเดียวกับว่า การแข่งขันโอลิมปิก นั่นเอง
ซึ่งสำหรับประเภทกีฬาบาสในเวทีโอลิมปิกนั้น ตัวเต็งที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงนั่นก็คือ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา แต่ทว่าในโอลิมปิกปี 2020 นั้นมันกลับเกิดเรื่องสุดช็อคขึ้น ซึ่งเรื่องสุดช็อคที่ว่าคืออะไรนั้น เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราจะขอพาทุกคนย้อนอดีตเพื่อไปชมเหตุการณ์ในวันนั้นกัน
ก่อนที่เราจะเริ่มไปชมขุนพลดรีมทีมกันนั้น เรามาดูตัวคู่แข่งของพวกเขากันก่อน โดยคู่แข่งที่ทำให้อมเริกาถึงกับช็อคได้นั่นก็คือ ทีมอย่าง ไนจีเรีย ทีมที่เพิ่งได้เริ่มเล่นบาสเก็ตบอลอย่างจริง ๆจังในช่วงปลายยุค 1950s ซึ่งอิทธิพลในการเล่นบาสเกตบอลของพวกเขานั้นมาจากการที่แต่เดิมพวกเขาถูกปกครองโดยประเทศอังกฤษ แต่ทว่าในตอนนั้นกีฬาพวกเขาเล่นยังไม่ได้ถูกเรียกว่าบาสเกตบอลเหมือนปัจจุบัน แต่มันจะถูกเรียกว่า B-Ball แทน
จนกระทั่งต่อมาก็ได้มี ครูพละคนหนึ่งที่มีชื่อว่า วาลิด ซาบาดเน่
ที่ได้เริ่มผลักดันให้มีการแข่งขันในประเทศขึ้น และเขาคนนี้เองยังเป็นคนที่เริ่มพาทีมบาสระดับประเทศไปแข่งขันยังที่ต่าง ๆ โดยเริ่มต้นจากภายในทวีปแอฟริกา จนทำให้เขาคนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาบาสเกตบอลของไนจีเรีย
แต่ถึงอย่างนั้นทีมของอย่างไนจีเรียก็ไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่งอะไรมากนัก ซึ่งกว่าที่พวกเขาจะก้าวขึ้นมาอยู่ติด Top 10 ของทวีปเวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงปี 1978 แถมกว่าที่ทีมของพวกเขาจะมีเหรียญรางวัลมาประดับคอ มันก็เป็นเวลานานถึงปี 1995 แถมเหรียญที่ได้ในตอนนั้นยังเป็นเพียงเหรียญอันดับ 3 เท่านั้น
ในขณะที่ปี 1995 ไนจีเรียเพิ่งได้เหรียญจากการแข่งขันบาสเกตบอลเป็นครั้งแรก หากถามว่าตอนนั้นอเมริกาเกิดอะไรขึ้นกับวงการบาสบ้าง เราก็ขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่ห่างกันคนละขั้วเลยทีเดียว เพราะในปีนั้นมันคือช่วงเวลาที่หลาย ๆ ต่างในบาสเกตบอล NBA เริ่มถูกจารึกด้วยชื่อของชายผู้เป็นตำนานในปัจจุบันอย่าง ไมเคิล จอร์แดน
ซึ่งเพราะความห่างชั้นกันมากนี้เองที่ทำให้ทางไนจีเรียเองก็ไม่ได้อยากที่จะผลักดันกีฬานี้ให้ก้าวไกลไปสักเท่าไหร่ เพราะในขณะเดียวกันนั้นวงการลูกหนังอย่างฟุตบอลของไนจีเรียถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างบูม จนทำให้เด็ก ๆ ที่เติบโตในยุคนั้นมองทางเลือกของฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับแรกที่พวกเขาสนใจ
แต่ถ้าถามว่านักบาส ไนจีเรียแท้ ๆ ที่ประสบความสำเร็จในวงการบาสนั้นมีไหม เราก็ขอตอบว่ามี เพราะคนนั้นก็คือ
ฮาคีม โอลาจูวอน นั่นเอง แต่เพราะว่าประเทศไนจีเรียเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่งคั่งด้านทรัพย์สิน จึงทำให้มีเหล่าประชากรไนจีเรียหลายต่อหลายคนถูกส่งออกไปเรียนยังประเทศอื่น ๆ
และหนึ่งในประเทศที่มีประชากรไนจีเรียอาศัยอยู่เยอะพอสมควรนั่นก็คือ อเมริกา ดินแดนแห่งบาสเกตบอลนั่นเอง แต่เหล่าประชากรเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะเกิด และ เติบโตในอเมิรกา แต่พวกเขาก็ยังมีสำนึกของความรักของเชื้อชาสติที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเขา จึงทำให้ทางสมาพันธ์บาสของไนจีเรียเริ่มทำการรับเหล่านักบาสที่มีเชื้อสายไนจีเรียมาเป็นผู้เล่นให้ประเทศของตนเองมากขึ้น
หลังจากที่ไนจีเรียค่อย ๆ ประกอบเหล่าเชื้อสายลูกผสมของเขาไปเรื่อย ๆ
จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เวทีแรกที่รอการพิสูจน์ฝีมือของพวกเขาอยู่นั่นก็คือ เวทีการอุ่นเครื่องก่อนที่ โอลิมปิกจะเริ่มขึ้น และ ทีมที่พวกเขาต้องเผชิญหน้านั่นก็คือ ทีมอย่างอเมริการ ซึ่งหลังจากสิ้นสุดเสียงสัญญานกหวีดหมดเวลา ภาพที่ทุกคนต้องตกตะลึงก็เกิดขึ้น เมื่อ ไนจีเรีย สามารถเอาชนะ อเมริกาไปด้วยคะแนน 90 – 87
ซึ่งก่อนหน้าที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ทีมอย่างอเมริกาเป็นทีมที่ไม่เคยแพ้ใครมายาวนานถึง 40 เกม แถมการเจอกันครั้งล่าสุดของ ไนจีเรีย กับ อเมริกา เมื่อ 9 ปีแล้ว ในโอลิมปิกปี 2012 ที่ลอนดอน ก็ยังเป็นฝ่ายของอเมริกาเองที่ไล่ถลุงไนจีเรียซะอยู่หมัด
นอกจากที่จะคว่ำอเมริกาในเกมอุ่นเครื่องไปแล้ว ในเกมอุ่นเครื่องนัดถัดไปพวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับอีกหนึ่งทีมซึ่งถือได้ว่าเป็นยอดของการบาสแห่งอเมริกาใต้อย่าง อาร์เจนตินา และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เหล่าพลพรรคทีมไนจีเรียไล่ถล่มเหล่าขุนพลจากอาร์เจนตินาไปอย่าขาดลอยด้วยคะแนน 94-71
แต่ทว่ามันก็น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วในเวทีโตเกียว โอลิมปิก พวกเขาก็ยังไม่สามารถที่ฝ่าฝันไปจนถึงความฝันอันสูงสุดของพวกเขาได้ และยังเป็นทีมระดับดรีมที่อย่าง อเมริกาที่ยังครองบังลังก์ที่สุดของกีฬาบาสเอาไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ถึงยังไงก็ตามนี่ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวครั้งสำคัญของทีมที่ครั้งหนึ่งไม่เคยมีใครเหลียวแลเรื่องกีฬาบาส อย่าง ไนจีเรีย dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง