สำหรับแฟน ๆ บาสเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะทราบกันดีว่า บรุษผู้ครองครองความยิ่งใหญ่แห่งวงการบาสมาอย่างยาวนาน และเป็นที่พูดถึงมาจนถึงปัจจุบันก็คงจะหนีไม่พ้นชายอย่างไมเคิล จอร์แดน
และสำหรับใครติดตามข่าวของจอร์แดนอยู่เป็นประจำในช่วงนั้น เราก็ได้ทราบกันดีว่าไมเคิล จอร์เเดน คนนี้ได้เคยประกาศเลิกเล่นออกมา เนื่องจากในตอนนั้นเขาให้เหตผลว่า ตัวของเขานั้นหมดความท้าทายในการเล่นเนื่องจากคว้าแชมป์ไปกับชิคาโก้ บูลส์ ไปถึง 3 สมัยรวดนั่นเอง แถมอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาเลิกเล่นอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ การถูกฆาตกรรมของคุณพ่อของเขานั่นเอง
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวไมเคิล จอร์เเดนก็เบนเข็นเข้าสู่วงการอเมริกัน เกม อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ กีฬาอย่าเบสบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่คุณพ่อของเขาชื่นชอบนั่นเอง แต่หลังจากที่เขาเดินหน้าตาความฝันของคุณพ่อเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีครึ่ง ชายคนนี้ก็ได้หวนคืนสู่กีฬาที่เขารักอีกครั้ง และ ก็ยังคงเป็นทีมอย่าง ชิคาโก้ บูลส์ ทีมเดิม
แต่ทว่าการกลับมาในครั้งมันกลับทำให้หลาย ๆ คนต่างตั้งคำถามว่าไมเคิล จอร์เเดนจะกลับมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ และเขาคนนี้แอบใช้ทางลัดที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ เรามาวิเคราะห์ถึงการกลับในครั้งนี้ของเขากัน
หลังจากที่ ไมเคิล จอร์เเดน ได้กลับมาลงสนามอีกครั้งในช่วงปลายฤดูกาล 1994-1995
เขาก็ได้เริ่มเส้นทางของการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งทันที เพราะว่าเขาสามารถนำทีม ชิคาโก้ บูลส์ จบฤดูกาล 19945 -1996 ไปด้วยสถิติชนะ 72 แพ้ 10 ซึ่งกลายเป็นสถิติที่ดี่สุดในตอนนั้นก่อนที่ในปัจจุบันสถิตินี้จะถูกทำลายโดย โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ในฤดูกาล 2015 – 2016 ไปที่สุด หนำซ้ำการกลับมาในครั้งนั้นเขายังพาชิคาโก้ บูลส์ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 แถมยังพ่วงมาด้วยตำแหน่ง ผู้เล่น MVP ทั้งในฤดูกาลปกติ และ รอบชิง ซึ่งทำให้คำสบประมาณเรื่อการ come back ของเขาหายวับไปทันที
แถมเท่านั้นยังไม่พอ เพราะในฤดูกาล1996-1997 ไมเคิล จอร์เเดน
ยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าเขาคือมหาเทพแห่งยุค 90 ด้วยการพา ชิคาโก้ บูลส์ คว้าแชมป์สมัยที่ 5 ต่ออีก แถมเขาก็ยังได้ตำแหน่งผู้เล่น MVP ในรอบชิงอีกครั้ง และเมื่อครั้งที่ 5 หลาย ๆ คนก็ฝันหวานว่า บูลส์ จะทำการคว้าแชมป์ 3 สมัยติดได้อีกครั้ง จนทำให้ในการชูถ้วยแชมป์ในครั้งนี้ เสียงตะโกน ครั้งที่ 6 ดังกันลั่นสนามไปหมด
แต่ทว่าฤดูกาล 1997 – 1998 นั้นมันกลับไม่ได้ง่ายเหมือนกันที่พวกเขาหวังเอาไว้ เพราะทุกอย่างมันเริ่มขึ้นตั้งแต่คู่หูสุดซี้ของ ไมเคิล จอร์เเดน ในตอนนั้นอย่าง พิพเพ่น ได้รับอาการบาดเจ็บ ถึงขนาดที่ว่าทางบอร์ดบริหารของเขาจะเทรดไปยังทีมอื่น แถมตัวของ เดนนิส ร็อดแมน ก็เริ่มจะหมดไฟ จนทำให้ 3 ประสานสุดเทพเริ่มเป๋ แถมในขณะเดียวกันทางเจ้าของทีมก็รู้สึกอยากจะเริ่มสร้างทีมใหม่ เนื่องจากผู้เล่นตัวเก๋าแต่ละคนตอนนี้ก็อายุเยอะแล้ว
แต่โชคยังดีสุดแล้วทุกอย่างก็กลับมาเข้ารูปเข้ารอย เนื่องจากพิพเพ่นได้หายเจ็บ และ ร็อดแมนก็กลับมีไฟในการเล่นอีกครั้ง แถมตัวของไมเคิล จอร์เเดนเองยังไม่เคยถอดใจ เขายังคงปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีมถึงการคว้าแชมป์ครั้งที่ 6 อยู่ทุกครั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้บูลส์ยังคงอยู่ในเส้นทางเพลย์ ออฟ ด้วยสถติชนะ 62 แพ้ 20 และกลายเป็นอันดับที่ 1 ของ NBA ร่วมกับคู่ปรับของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วอย่าง ยูท่าห์ แจ๊ซ
หลังจากนั้น บูลส์ ก็พาตัวเองทะลุเรอบเพลย์ ออฟ ไปเรื่อย ๆ
จนในที่สุดพวกเขาก็ก้าวมายืนอยู่เวทีแห่งรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง และแน่นอนว่าความกดดันอันมหาศาลได้พุ่งเข้าสู่ทีม ชิคาโก้ บูลส์ และ ผู้ที่แบกรับแรงกดดันเหล่านั้นเอาไว้ก็คือตัวของไมเคิล จอร์เเดน เขาเครียดมาก ๆ ถึงขนาดที่ไม่คุยกับสื่อ แถมกับเพื่นอร่วมทีมเขาก็แทบจะคุยนับคำได้
คู่ปรับในรอบชิงครั้งนี้ของพวกไมเคิล จอร์เเดนนั่นก็คือ คู่ปรับเก่าเมื่อปีที่แล้วอย่าง ยูท่าห์ แจ๊ส ซึ่งดีกรีของทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดา เพราะว่าในเกมพวกเขาต่างก็พลัดกันแพ้กันชนะ จนมาถึงเกมที่ 5 ซึ่งตอนนั้น บูลส์ นำอยู่ 3 -2 ซึ่งตอนนี้ บูลส์ ขอชัยชนะอีกครั้งเดียวเท่านั้นพวกเขาจะกลายเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ทันที
แต่ทว่าไม่ใช่แค่ บูลส์ และ ไมเคิล จอร์เเดน หรอกที่หวังแชมป์สมัยที่ 6 เพราะว่าเกมนี้มันคือสนาม
เดลต้า เซ็นเตอร์ บ้านของยูท่าห์ แจ๊ส ซึ่งสนามแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถามที่มีเสียงของแฟน ๆ สูงถึง 116 เดซิเบล แถมในครั้งนี้มันจะยิ่งดังกระหึ่มมากกว่าเดิม เพราะว่าแฟน ๆ แจ๊ส ก็หวังที่พวกเขาจะได้แชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรสักที
และแน่นอนว่าเมื่อทั้ง 2 ทีมต่างก็มีความมุ่งมั่นที่จะเอาถ้วยแชมป์นี้มาครองให้ได้ มันเลยทำให้เกมนี้ออกมาอย่างสูสี ทั้งคู่ต่างก็บดไล่ทำแต้มแซงกันไป แซงกันมาแบบไม่มีใครยอมให้ทิ้งห่าง จนกระทั่งใน 1 นาทีสุดท้ายของเกม เจ๊ส นำบูลส์อยู่ 86 – 83มันจึงทำให้ไมเคิล จอร์เเดนตัดสินใจเข้าวงในวาง 2 แต้ม จนทำให้สกอร์เข้ามาอยูที่ 86 – 85 แต่มันก็ส่งให้ แจ๊ส ได้เป็นคนคุมจังหวะบุกช่วงเวลาที่เหลือ
แต่แล้วในขณะที่เวลาเหลือเพียง 18.9 วิ คาร์ล มาโลน ที่ถือลูกไว้ในมือก็ถูก ไมเคิล จอร์แดน
ที่อ้อมมาจากด้านหลังสตีลบอลไป แล้วจัวหวะนั้น จอร์แดนก็เริ่มเซ็ทเพลย์ นั้นทันที ทุก ๆ คนวิ่งฉีกออกข้าง เพื่อให้จอร์แดนได้ดวลตัวต่อตัวกับ ไบรอัน รัสเซลล์
แต่จังหวะนั้น จอร์แดน ก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวครอสโอเวอร์จน รัสเซลล์ เสียหลัก และเข้าไปทำ 2 แต้ม ในขณะที่เวลาเหลือแค่ 5.2 วิ เท่านั้น และแต้มก็กลายเป็นแต้มสำคัญที่ส่งให้บูลส์คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปได้สำเร็จ
แม้ว่าในเกมนั้น ชิคาโก้ บูลส์ จะเป็นฝ่ายที่คว้าแชมป์ไป แต่ทว่าในจังหวะล้ม รัสเซลล์ นั้น แฟน ๆ ของแจ๊ส กลับคิดว่าจังหวะนั้นไมเคิล จอร์เเดนควรฟาล์วก่อนเนื่องจาก จอร์แดนมีการเอามือไปผลักรัสเซลล์ล้มลงก่อนที่จะยิงเข้าไป และแน่นอนว่าคนรักมากก็ย่อมมีคนเกลียดมาก มันเลยทำให้มีหลาย ๆ วิวสรณ์จังหวะนี้กันอย่างสนุกปาก หนำซ้ำแฟนแจ๊สยังเล่นใหญ่ถึงขนาดส่งเรื่องนี้ไปถึง ศาลประจำรัฐ เพื่อให้มีการสอบสวนในเรื่องนี้เลยทีเดียว
แต่ถึงจะอย่างไรก็ตามผลตัดสินมันกูถูกประกาศไปแล้ว ไมเคิล จอร์เเดน ได้กลายเป็นคนที่พาชื่อของ ชิคาโก้ บูลส์ ถูกก็ถูกบันทึกว่าเป็นทีมที่สามารถคว้าแชมป์ 3 สมัยซ้อนได้อีกครั้งของทำเนียบประวัติศาสตร์ NBA และการได้แชมป์ในครั้งนี้ก็มาจังหวะของจอร์แดนในการบุกครั้งสุดท้าย
ซึ่งแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านมานานแล้วก็ตามแต่ยังไงจังหวะนี้ของไมเคิล จอร์เเดนก็ยังเป็นจังหวะที่พูดถึงอยู่ทุกครั้ง แล้วสำหรับคุณละ คิดว่าจังหวะนั้นมันควรฟาล์วหรือเปล่า dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง