เราเชื่อว่าสังคมทุกวันนี้มันเต็มไปด้วยความวุ่นวาย จนทำให้ร่างกายของเรานั้นค่อนข้างที่จะเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เราผ่อนคลายการความเหนื่อยล้าพวกนี้ได้นั่นก็คือ การใช้เวลาในช่วงว่างของเราให้สนุกไปกับการทักผ่อน ซึ่งหนึ่งในวิธีการพักผ่อนนั้นก็มีอยู่มากมายหลายอย่าง และหนึ่งในสิ่งที่หนุ่ม ๆ มักจะชอบกันเป็นอันดับต้น ๆ ของการพักผ่อนนั่นก็คือการเล่นเกม และหนึ่งในเกมกีฬาที่บรรดาเหล่าคอกีฬาบาสชอบที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น เกมอย่าง NBA 2K
แต่คุณรู้ไม่กว่าที่เกมอย่าง NBA 2K จะเดินมาถึงจนกว่าจะยิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้ได้นั้น
เส้นทางของพวกกเขานั้นไม่ใช่ง่าย ๆ เลย เพราะว่าพวกเขาตั้งเผชิญหน้ากับปัญหาของการพัฒนา และ คู่แข่งคนสำคัญที่เคยเป็นอดีตนายจ้างของพวกเขาเองอย่างค่าย EA ซึ่งกว่าที่ตัวเกมอย่าง NBA 2K จะเดินทางมาได้จนถึงวันนี้นั้น จะมีเส้นทางอย่างไร เราเคยทำประวัติเส้นทางก่อนหน้านั้นของพวกเขาเอามาไว้แล้ว ซึ่งคุณสามารถที่จะย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวเหล่านั้นได้ที่บทความอันเก่าของเรา ส่วนตอนนี้ได้เวลาที่เราจะติดตามการก้าวเข้าสู่อันดับ 1 ของพวกเขากันต่อแล้ว
หลังกจากที่ตัวของ Visual Concepts ต้องมาเผชิญหน้ากับคู่แข่งระดับคนสำคัญอย่าง EA
ที่มีเกมสุดฮิตออกมาและทำการแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปอย่างมากมายแล้ว พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องงัดกลยุทธ์เรื่องราคาเข้าสู้นั่นเอง โดยในช่วงยุค 2000 ที่ทางเกมอย่าง NBA 2K วางตลาดนั้น เกม 1 ก็อปปี้จะขายอยู่ที่ราคาราว ๆ 50 ดอลล่าร์ มันจึงทำให้ตัวทีมงานอย่าง Visual Concepts ตัดสินใจลดราคาเกมอย่าง NBA 2K ลงมาเหลือเพียง 19.99 ดอลล่าร์เท่านั้น แต่ทว่าทาง EA ก็ไม่ยอมแพ้ เพราะพวกเขาเองก็ยอมหั่นลงมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันที่ 29.99 แถมเท่านั้นยังไม่พอ เพราะพวกเขายังเพิ่มลูกเล่นความสมจริงลงไปในเกม จนทำให้เกมอย่าง NFK 2K5 ที่วางขายในปี 2004 กลายเป็นเกมอเมริกันฟุตบอลที่ดี่ที่สุดตลอดกาล
แต่ความรวดร้าวที่ทีมผลิตเกมอย่าง NBA 2K อย่าง Visual Concepts ต้องเจอยังเจ็บยิ่งกว่านั้น เพื่อในปี 2004 ทาง EA ก็ได้เซ็นสัญญาเอ็กซ์คลูซีฟกับ NFL รวมถึง NFLPA ด้วยมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมทีเงื่อนไขนั่นก็คือ EA จะได้เอกสิทธิ์ในการสร้างเกม NFL แต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งนี้นี่แหละที่ทำให้ทางทีมงานต้องรีบปรับกลยุทธ์เป็นการอย่าง
เพราะพวกเขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแนวทางการสร้างเกมส์แบบกระทันหัน แต่ในช่วงเวลานั้นก็ยังถือได้ว่าพอมีโชคอยู่บ้าง เมื่อบริษัอย่าง Take-Two Interactive บริษัทชื่อดังที่ดูแลเกมอย่าง GTA ได้เข้ามาซื้อกิจการของ Visual Concepts จาก SEGA ในช่วงต้นปี 2005 แถมเท่านั้นยังไม่พอ เพราะ Take-Two ยังตัดสินใจลุยกับโปรเจ็คต้นกำเนิด NBA 2K ต่อ ด้วยการก่อตั้ง 2K ให้กลายเป็นค่ายเกมในเครือ โดยมีเป้าหมายสำคัญนั่นก็คือ การสร้างเกมกีฬาโดยเฉพาะ
และเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถที่จะสร้างเกมอย่าง NFL ได้แล้ว จึงทำให้พวกเขามุ่งเน้นมาที่เกมบาสอย่าง NBA 2K เป็นหลักนั่นเอง และ สิ่งที่ตัวของ Visual Concepts และ 2K ทำก็คือ การสร้างให้เกมนี้เป็นมากกว่าแค่เกมบาสเกตบอล เพราะพวกเขาอยากให้แฟน ๆ ได้มากกว่าแค่ความสนุก แต่เกมนี้จะต้องเป็นเกมที่แม้แต่คอเกมทั่วไปก็ยังต้องทึ่ง
และเพื่อให้ทุกอย่างในเกมออกมาสมจริงมากกยบิ่ง ผู้สร้าง NBA 2K จึงได้ตัดสินใจที่เชิญนักบาสเกตบอล NBA ถึง 30 คน มาทำโมชั่นแคปเจอร์เพื่อเก็ยท่าทางการเคลื่อนไหว การเลี้ยง การชู๊ต รวมไปถึงการบล็อก เพื่อให้ตัวเกมมีความสมจริงมากที่สุด และหนึ่งในนักบาสที่พวกเขาเชิญมายังมีนักบาสชื่อดังอย่าง โคบี้ ไบรอันท์ และเดิร์ก โนวิตซ์กี้ รวมอยู่ในนั้นอีกด้วย
ซึ่งถ้าหากจะถามว่าความสมจริงในการจำลองพฤติกรรมของนักบาสสู่เกมอย่าง NBA 2K
นั้นมีมากขนาดไหน เราขออธิบายตรงนี้เลยว่า พฤติกรรมเล็ก ๆ น้อยทุกอย่างที่บรรดาเหล่านักบาสชอบทำกันในสนามนั้นจะถูกเก็บรายละเอียดไว้ทั้งหมด จึงทำให้ตัวเกมนั้นมีอนิเมชั่นของท่าทาง และ พฤติกรรมในสนามของบรรดาเหล่านักบาสกว่า 40,000 ท่าเลยทีเดียว แถมงานนี้ยังได้มีการอัพเดทท่าทางใหม่ ๆ เข้ามาอยู่เสมออีกด้วย
ถึงแม้ว่าตัวของ โมชั่น แคปเจอร์ ในเกม NBA 2K จะเป็นการลอกเลียนพฤติกรรมต่าง ๆ ของบรรดาเหล่านักบาส NBA แทบทุกอิริยาบถก็ตาม แต่ทว่าโปรดิวเซอร์ของเกมนี้กลับได้เผยความลับเรื่องสำคัญนั่นก็คือ ขั้นตอนที่ยากที่สุดของการทำโมชั่น แคปเจอร์นี้ โดยส่วนที่เขาบอกว่าทำยากที่สุดนั่นก็คือ การดังค์ นั่นเอง เพราะว่าบรรดาเหล่าผู้เล่นที่สนิทกันมักจะชอบแหย่กันเล่นอยู่ตลอดเวลา เพื่อนซี้ของเขาจะไม่มีสิทธิ์ยอมให้เพื่อนตัวเองมาดังค์ใส่หน้าอย่างแน่นอน
นอกจากนั้นแล้วทาง Visual Concepts ยังต้องการพัฒนาให้ NBA 2K ไปไกลยิ่งกว่านั้น
เพราะพวกเขาเริ่มไล่ตามเก็บรายละเอียดส่วนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าจะมีรายการวิเคราะห์ก่อนเกมการแข่งขันอยู่ในเกมเช่นเดียวกับที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ตามทีวี นอกจากนั้นยังมีการปรับสี และ แสงของชุดแข่งแต่ละทีมในสนามให้เหมือนกับสีที่ตาเราเห็นจริง ส่วนทางด้านเพลประกอบยังได้มีการเชิญศิลปินอย่าง Jay-Z, Pharrell และ Travis Scott รวมถึงเบอร์หนึ่งแห่งวงการบาสอย่าง เลบรอน เจมส์ มาช่วยเลือกเพลงประกอบอีกด้วย
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใส่ใจรายละเอียดมากขนาดไหนก็ตาม พวกเขาเองก็ยอมรับว่าความสมจริงของเกมอย่าง NBA 2K นั้นอาจจะไม่ได้ถูกใจบรรดาเหล่าแฟน ๆ NBA ทั้งหมด เพราะแน่นนอว่าร้อยคนก็ร้อยความต้องการ แถมเพราะการที่บรรดาเหล่าผู้เล่นนั้นมีฟอร์มที่ขึ้นลงตลอดเวลานี้เอง ที่ทำให้ผู้สร้าง NBA 2K ต้องทำการอัพเดทค่าพลังของผู้เล่นถึงเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อที่จะให้มีสอดคล้องกับฟอร์มกาเล่นที่แท้จริง
แต่เพราะความใส่ใจที่มีให้เกมอย่าง NBA 2K แบบเต็มที่นี่เอง
ที่ทำให้สุดท้ายแล้วเกมส์นี้ก็กลายเป็นเกมที่มีความสมจริงอยู่ในระดับหัวแถว แถมมันยังเพิ่มความน่าทึงมากไปกว่านั้นด้วยการทำให้ตัวของ ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งเป็นนักบาสระดับตำนานของวงการ NBA ยอมให้มีคาแร็คเตอร์ของเขาใช้ในเกม ๆ นี้เลยอีกด้วย
และด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวมานี้เองที่ทำให้เกมอย่าง NBA 2K ได้กลายเป็นแฟรนไชส์เกมบาสเกตบอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด โดยสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 10 ล้านแผ่น และ ยังมีบางภาคอย่าง NBA 2K17 ที่สามารถทำยอดขายได้สูงมากกว่าเกมอย่าง Madden NFL 17 อีกด้วย
แล้วด้วยความสำเร็จเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้โลกของกีฬา อีสปอร์ต เองก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เพราะว่าในการแข่งขันอีสปอร์ตได้มีการจัดตั้งว NBA 2K League ซึ่งเป็นลีกอีสปอร์ตของเกม NBA 2K แถมการแข่งขันในลีกนี้ก็ถือได้ว่าดุเดือดไม่แพ้กับเกมการแข่งขันบาส NBA จริง ๆ เลยทีเดียว dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง