เรื่องของประวัติศาสตร์ของกีฬานั้นมีอยู่มากมายหลากหลาย แต่สำหรับสิ่งที่เรียกว่ากีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่แท้จริงนั้น เราเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จักกันดี เพราะการแข่งขันกีฬาที่ถูกกล่าวถึงนั่นมันก็คือ กีฬาโอลิมปิก นั่นเอง โดยการแข่งขันโอลิมปิกนั้นจะเป็นการเชื้อเชิญทุก ๆ ประเทศทั่วโลกเพื่อมาชิงความเป็นใหญ่ในแต่ละประเภทของกีฬา และ กีฬาบาสเก็ตบอลเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
ซึ่งแชมป์ของกีฬาบาสเก็ตบอลของการแข่งขันโอลิมปิกนี้ทุกท่านสามารถค้นหาว่าใครกันบ้างที่สามารถเถลิงแชมป์ได้สำเร็จ แต่ถ้าหากดูแค่ชื่อแล้ว หลาย ๆ คงอาจจะไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วมันมีทีมแชมป์อยู่ทีหนึ่งที่เส้นทางการได้แชมป์มานั้นค่อนข้างจะแปลกประหลาดไม่เหมือนกับชาวบ้านชาวช่องทั่วไป โดยทีมที่มันได้สร้างเรื่องสุดแปลกขึ้นในกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติแห่งนี้มันก็คือ
สหภาพโซเวียต ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ในปี 1972
ก่อนอื่นเราต้องขอพาทุก ๆ คนย้อนกลับไปสู่เรืองราวในสมัยที่ยังมีประเทศที่ชื่อว่า สหภาพโซเวียต อยู่กันก่อน ซึ่งในตอนนั้นประเทศสหภาพโซเวียตนั้นถือได้ว่าประเทศที่มีระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ และต่อต้านระบบทุนนิยมในแบบสุดโต่ง และในการแข่งขันชิงชนะเลิศปีนั้นพวกเขาก็ต้องมาเจอกับทีมอย่าง อเมริกา ซึ่งถือได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับพวกเขาในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และ สังคมแบบทุนนิยม
และเพราะความต่างกันของ 2 ขั้วอำนาจที่เดินทางมาเจอกันนี้เองมันจึงทำให้เรื่องราวการเจอกันของทีมนี้มีความหมายแค่ผลการแพ้ชนะในเกมกีฬา เพราะมันคือการประกาศให้โลกรู้ว่า แนวคิดแบบสุดจัดของพวกเขาทั้งคู่นั้นมีความเหนือกว่าคู่แข่งนั่นเอง
แถมเวทีการเจอกันของพวกเขาในครั้งนี้มันยังเป็นเวทีที่คนทั้งโลกต่างก็จับจ้องอีกด้วย
และในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอกันจริง ๆ ในการแข่งขันบาสเก็ตบอลโอลิมปิกปี 1972 ที่มิวนิค ประเทศเยอรมันแถมการเจอกันของทั้งคู่ยังเป็นการเจอกันในนัดชิงชนะเลิศซึ่งมันเลยยิ่งทำให้แพ้กันไม่ได้เข้าไปใหญ่ โดยในตอนนั้นประเทศอเมริกามาพร้อมกับสถิติชนะรวดในโอลิมปิกมา 63 เกม หรือให้พูดง่าย ๆ ก็คือตั้งแต่มีการแข่งขันบาสในโอลิมปิกมาพวกเขายังไม่เคยพบกับความปราชัยเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่ากีฬาบาสคือกีฬาที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าผู้ที่แป็นเจ้าแห่งกีฬานั่นก็คือ อมเริกา
แต่ก็ยังดีที่ในโอลิมปิกนั้นมีกฎว่าห้ามนักกีฬาระดับอาชีพลงแข่งขัน เพื่อเป็นการลดช่องว่างทางด้านฝีมือ อีกทั้งยังมีข่าววงในว่า เหล่าประเทศที่ฝักใฝ่ในคอมมิวนิสต์ได้ลงมตินี้ให้กฎนี้ผ่านในที่ประชุมเนื่องจากต้องการขัดแข้ง ขัดขา อเมริกานั่นเอง
แต่ถึงจะมีกฎนี้ ฝีมือผู้เล่นระดับมือสมัครเล่นของอเมริกาเองก็ดีใช่ย่อย เพราะเขาพวกนนี้ก็คืออีกหนึ่งรุกกี้ของบาสมหาวิทยาลัยที่พร้อมจะก้าวเท้าสู่ลีก NBA ในอีกไม่ช้า แต่ทว่าทางด้านของสหภาพโซเวียตเองก็มีขุมกำลังผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะในครั้งนี้พวกเขามีผู้เล่นระดับดรีมทีม ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับแถวหน้าของโลก
และเมื่อวันการแข่งขันเดินทางมาถึง ผู้คนต่างก็เฝ้ารอดูแมตซ์หยุดโลกคู่นี้กันอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งในครึ่งแรกนั้นดูเหมือนว่าเป็นฝ่ายของโซเวียตที่เครื่องร้อนเร็วกว่าพวกเด็ก ๆ ทำให้พวกเขาสามารถทำคะแนนนำอยู่ที่ 26 – 21 แต่ถึงแบบนั้น บรรดาเหล่าดาวรุ่นก็ไม่เคยยอมที่จะฝ่ายตรงข้ามทิ้งห่างไปไกล โดยพวกเขายังไล่ตามมาด้วยคะแนนประมาณ 4 – 8 แต้ม โดยตลอด
แต่ทว่ายิ่งเกมเดือดอารมณ์ผู้เล่นก็ยิ่งเดือดตาม ทำให้เกมนี้มีผู้ทั้งผู้เล่นที่ถูกไล่ออกไปนอกสนาม รวมถึงยังมีผู้เล่นที่เจ็บหนักจนต้องถูกหามออกไปอีกด้วย
แต่ดูเหมือนว่าการที่มีผู้เล่นถูกไล่ออกจากสนามจะเป็นผลดีสำหรับเหล่าผู้เล่นโซเวียตมากกว่า เนื่องจากผู้เล่นของโซเวียตที่ถูกไล่ออกไปนั้นไม่ใช่ตัวหลัก แต่ในทางตรงกันข้ามผู้เล่นที่ออกไปของอเมริกากลับเป็นตัวหลักแทบทั้งสิ้น ซึ่งเหล่าโซเวียตก็เหมือนจะกุมความได้เปรียบนี้อยู่พักหนั่ง แต่สุดท้ายแล้วพวกเหล่ารุกกี้ของอเมริกาก็ยังไล่ตามมาได้ทุกครั้งจนทำให้แต้มของทั้งคู่นั้นสูสีกันมากเหลือเกิน
จนในที่สุดช่วงเวลาก็เดินมาถึง 3 วิสุดท้าย มันกลับกลายเป็นผู้เล่นฝั่งโซเวียตที่ดันไป
ทำฟาล์วจนทำให้เสียลูกโทษ ซึ่งหากผู้เล่นฝั่งอเมริกาทำแต้มได้ทั้ง 2 ลูกพวกเขาจะเป็นฝ่ายออกนำทันที ซึ่งผู้เล่นอเมริกาก็ทำได้ดังหวัง แน่นอนว่าแชมป์มันะต้องมาอยู่ที่มือของพวกเขา แต่ว่า….
ทางฝั่งโค้ชของโซเวียตได้ไปโวยกับทางกรรมการว่า พวกเขาได้ขอเวลานอกหลังจากยิงลูกโทษลูกแรกไป แต่กรรรมการไม่ยอมให้ จึงทำให้มีการวิเคราะห์จังหวะนี้อีกครั้งขึ้นในเดี๋ยวนั้น ซึ่งผลปรากฏว่าทุกฝ่ายต่างก็เห็นชอบให้ทั้ง 2 ทีมต้องมาแข่งกันต่อด้วยเวลาเพียงแค่ 3 วิ ทั้ง ๆ ที่ในจังหวะนั้นทีมชาติอเมริกาพร้อมจะรับเหรียญทองไปอยู่แล้ว
ซึ่งใน 3 วินี้ โซเวียตจองเน้น ๆ แค่ 1 แต้มเพื่อต่อเวลาพิเศษ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ ทำให้ฝั่งอเมริกาได้เฮกันอีกรอบ แต่มันยังไม่จบ เพราะว่านาฬิกาในสนามกลับดันมีปัญหาในการตั้งเวลาทำให้การเล่นเมื่อครู่เป็นโมฆะและต้องเล่นเพลย์ 3 วิใหม่
แน่นอนว่าเหตการณ์นี้ทำให้สมาธิของผู้เล่นอเมริกาแตกกระเจิง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเลิกแข่งได้เพราะ พวกเขาโดนขู่ว่าหากไม่ยอมแข่งต่อทีมบาสของอเมริกาจะถูกตัดสิทธิ์ไปตลอดกาล และเมื่อสมาธิของพวกเขาไม่เหลือแล้ว มีเหรอที่โซเวียตจะไม่อาศัยโอกาสนี้ ทำให้สุดท้ายแล้วฝั่งโซเวียตสามารถใช้เวลานี้ผลิกกลับมาชนะด้วยสกอร์ 51 – 50
และแล้วช่วงเวลาแห่งปาฏิหาริย์ก็ไม่มีอีกต่อไป สัญญาหมดเวลาดังขึ้นทำให้ผู้ที่ได้แชมป์ในครั้งกลับกลายเป็นฝั่งของโซเวียตไปในที่สุด แน่นนอว่าฝั่งผู้เล่นโซเวียตภูมิใจกับชัยชนะของพวกเขาต่อเมริกาเป็นอย่างมาก แต่ทว่าพวกเขากลับไม่รู้เลยว่า แมตซ์นี้มันได้กลายเป็นอีกแมตซ์ซึ่งถูกจารึกไว้ว่ามีความไม่ชอบมาพากลที่สุดในประวัติศาสตร์ แล้วคุณละ รู้สึกอย่างไรกับแมตซ์นี้ dunkswin9
เครดิต : สล็อตแตกง่าย