อีกหนึ่งตำนานของวงการบาสเกตบอล NBA ที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ดูกีฬาบาสไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่จะต้องรู้จักเขาคนนี้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ โดยชายคนนั้นที่มีชื่อว่า โคบี้ ไบรอัน ตำนานแห่ง L.A. Lakers ซึ่งทักษะอันยอดเยี่ยมของเขา รวมถึงลักษณะและสไตล์การเล่นที่ค่อนข้างจะมีความคล้ายกับผู้เล่นอย่าง ไมเคิล จอร์แดน นี้เองที่ทำให้ตัวของเขานั้นกลายเป็นขวัญใจของบรรดาเหล่าแฟน ๆ บาสเกตบอล แม้ว่าจะมีอยู่ส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างแอนตี้กับผลงานของเขาก็ตาม แต่ถึงจะมีบรรดาเหล่าแฟน ๆ แอนตี้เขามากมายก็ตาม แต่เราก็ต้องยอมรับด้วยความจริงว่า ตัวของแบล็ก แมมบ้า คนนี้เป็นอีกหนึ่งคนที่แม้ว่าตัวจะจากไป แต่สิ่งที่ทำทำเอาไว้นั้นมันได้สร้างปรากฏการณ์มากมายเอาไว้ในวงการกีฬาจริง ๆ และนั่นเองจึงทำให้ในวันนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ การจากไปของโคบี้ ไบรอัน ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างไรต่อวงการกีฬา และ NBA ซึ่งเรื่องราวมันจะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า
ไอ้เด็กปากแจ๋วเมื่อสมัยเข้ามาสู่ NBA ครั้งแรก

โดยในช่วงที่เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่วงการบาส NBA ในช่วงแรก ๆ ด้วยนิสัยในตอนนั้นของ โคบี้ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างปากแจ่ม
อยู่พอสมควร จึงทำให้มีเสียงนินทามากมายเริ่มพูดกันว่าตัวของ เจอร์รี่ เวสต์ ที่เลือกดราฟต์ โคบี้ ไบรอัน เข้ามานั้นตาถึงจริงหรือไม่ เพราะในตอนนั้นการที่จะดึงตัวของ โคบี้ เข้ามาสู่เลเกอร์สได้ พวกเขาต้องส่งผู้เล่นอย่าง วลาด ดิวัช
เซนเตอร์ตัวเก่งของทีมไปให้กับทีมอย่าง ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ซึ่งเป็นทีมแรกที่ดราฟต์ตัวของ โคบี้
และแน่นอนว่าแม้ว่าตัวของ โคบี้ ไบรอัน จะเทพมาตั้งแต่ชุดมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม แต่การที่เข้ามาถึงแล้วจะให้ลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่ครั้งแรกมันก็คงจะดูแปลก ๆ ไปหน่อย และนั่นเองก็ทำให้ตัวของเขาคนนี้ต้องนั่งอยู่ในชุดตัวสำรองอยู่พักหนึ่ง แถมในช่วงเวลาที่เขาได้รับโอกาสมาลงวาดลวดลาย ตัวของเขาก็ดันทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจนักเนื่องจากช่วงนั้นเขาทำแต้มเฉลี่ยต่อเกมได้เพียง 7.6 แต้มเท่านั้น แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ของเขาทำให้เขาไม่ยอมแพ้ต่อสถานะตัวสำรองของเขา
เก็บเอาคำดูถูกมาเป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้า

โคบี้ ไบรอัน ได้เอาคำดูถูกเหยียดหยามมาเป็นแรงผลักดัน โดยเขาได้ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะพัฒนากล้ามเนื้อของร่างกาย รวมถึงทักษะด้านต่าง ๆ ซึ่งแม้ว่าในช่วง 3 ปีแรกสิ่งที่เขาทำไปเหมือนจะยังไม่ค่อยส่งผลสำเร็จสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่อย่างน้อยตัวของเขาเองก็เริ่มมีพัฒนาการการเล่นที่ดีขึ้น จนทำให้ในที่สุดเขาก็ได้ผสานการเล่นเข้ากับ เพื่อนร่วมทีมที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่นักอย่าง ชาคีล โอนีล จนทำให้ เลเกอร์ส นั้นสามารถคว้าแชมป์ NBA ไปได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 2000 – 2002 ก่อนที่จะเว้นว่างไประยะหนึ่ง และมาคว้าแชมป์อีก 2 สมัยติดในปี
2009 -2010
แต่ถึงแม้ว่าแม้ตัวของ โคบี้ ไบรอัน จะเป็นฮีโร่ของเหล่าแฟน ๆ เลเกอร์ส แต่สิ่งที่เหล่าคนดังแทบทุกคนจะต้องเจอตามมาหลังจากการมีชื่อเสียงนั่นก็คือ คำนินทาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะเขานั้นต้องการเป็นจุดเด่น จนทำให้ทั้ง แชค และ เพื่อน ๆ ในทีมเริ่มไม่ถูกกับ โคบี้ ไบรอัน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วตัวของเขาเองก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า การที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค รวมถึงการมีวินัยมันสามารถที่จะพาให้เจ้าตัวพัฒนาตัวเองไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีวันหยุด
ข่าวเสีย ๆ หายของ โคบี้ ไบรอัน
อีกหนึ่งข่าวที่ทำให้ตัวของ โคบี้ ไบรอัน ต้องเจอกับผลกระทบหนักที่สุดนั่นก็คือ ผลกระทบจากที่เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีข่มขืน และนอกจากนั้นแล้วเขายังมีข่าวเสีย ๆ อย่างการทะเลาะกับ แชค ซึ่งแน่นอนว่าตัวของ โคบี้ ไบรอัน เองก็พยายามที่ฝ่าฟันปัญหาดังกล่าวทั้งหมดออกมาจนได้ และหลังจากที่เขาได้ผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นมาแล้ว ตัวของ โคบี้ ก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนหมายเลขเสื้อของเขาจากเบอร์ 8 มาเป็นเบอร์ 24 ในปี 2006
แต่คนมันจะหาเรื่องมาด่ายังไงก็หาเรื่องมาด่าได้วันยังค่ำ โดยมีแฟน ๆ หลายคนต่างบอกว่าที่ โคบี้ ไบรอัน ตัดสินใจใช้เบอร์ 24 นั้นเพราะว่าเขาต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงการก้าวข้ามฮีโร่ของเขาอย่าง ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งมีเบอร์ประจำตัวคือเบอร์ 23 และแน่นอนว่าคำนินทาพวกนี้ก็ถูกปฏิเสธอย่างทันควัน ซึ่งสิ่งนี้นั่นเองที่มันทำให้เห็นว่าตัวของเขานั้นพร้อมเสมอกับการเปลี่ยนแปลง และเขายังนำบทเรียนที่เรียนรู้มาจากความเจ็บปวดมาพัฒนาตัวเองต่ออีกด้วย
ทุก ๆ อย่างเปลี่ยนไปหลังจากพ้นคดีความ
ซึ่งการที่ตัวของ โคบี้ ไบรอัน ตัดสินใจเริ่มต้นใหม่หลังจากพ้นคดีความ ตัวของเขาแทบจะรีเซตทุกอย่างใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการใช้ชีวิต การซ้อม รวมถึงวิธีการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีม โดยตัวเขาเริ่มพูดคุยกับครอบครัวของมากขึ้น โดยเฉพาะกับ วาเนซ่าภรรยาสาวของเขาที่ยังไม่ทิ้งเขาไปไหนแม้ว่าจะต้องพบเจอกับเรื่องราวสุดเลวร้าย นอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังให้กับเวลากับการซ้อมที่เยอะขึ้น
ส่วนทางด้านการพูดคุยกับเพื่อน ๆ ร่วมทีมเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะเขาเริ่มใช้หลักจิตวิทยาในการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีม จนทำให้นักบาสในเลเกอร์สหลาย ๆ คนเริ่มฟังเสียงของ โคบี้ ไบรอัน และหนึ่งในคนที่ฟังเสียงของเขาก็คือ นักบาสจอมเดือดที่ไม่ว่าเวลาไหนก็ลุยแหลกอย่าง เมตตา เวิร์ดพีซ หรือชื่อเดิม รอน อาร์เทสต์
นอกจากนั้นแล้วตัวของ โคบี้ ไบรอัน ก็ได้เริ่มใช้เวลาการมอบเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศลมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทั้งของภาครัฐ หรือ เอกชน โดยองค์กรที่เขามอบให้ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ด้านการศึกษา , จัดตั้งมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และการช่วยเหลือผู้ป่วยในมหานครลอสแอนเจลิส ซึ่งหากจะรวม ๆ แล้วมูลค่าของเงินที่เขาตัดสินใจมอบให้มูลนิธิต่าง ๆ ก็มีมหาศาลมากถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลย
และเพราะการที่จะกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองจนทำให้ตัวของ โคบี้ ไบรอัน กลายเป็นที่รักของใครหลาย ๆ คนนี่แหละ จึงทำให้การจากไปของโคบี้ ไบรอัน ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างไรต่อวงการกีฬา และ NBA ซึ่งแม้ว่าร่างกายของ โคบี้
ไบรอัน จะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม แต่เรื่องราวอันเป็นตำนานของฮีโร่ที่ไม่ขาวบริสุทธิ์ของคนนี้ยังคงอยู่ตลอดกาล