ดาร์บี้ แมตช์ คือคำที่ใช้นิยามในการเจอกันของทีมที่มีฐานที่มั่นตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งสำหรับแฟน ๆ ฟุตบอลเองคำนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำที่ค่อนข้างคุ้นหูเป็นอย่างมาก หากแต่สำหรับแฟนบาส NBA แล้วพวกเขาอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่เนื่องจากแต่ละทีมก็มีฐานที่มั่นที่ค่อนข้างแยกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีเลย เพราะว่าในพื้นที่อย่างลอสแอนเจลิสนั้นกลับมีทีมที่มีฐานที่มั่นตั้งอยู่ที่นี่ถึง 2 ทีมด้วยกันนั่นก็คือทีมอย่าง Lakers และ Los Angeles Clippers ซึ่งแน่นอนว่าเมื่ออีกทีมหนึ่งครองความยิ่งใหญ่และความสำเร็จมาอย่างยาวนาน มันจึงไม่แปลกเลยที่อีกทีมหนึ่งจะกลายเป็นเพียงแค่ไม้รองบ่อนเท่านั้น ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ ความหวังของ Los Angeles Clippers กันเส้นทางประวัติศาสตร์กันต่อ ซึ่งพวกเขาจะคลำหาแสงแห่งความหวังจนเจอและคว้ามันไว้ได้หรือไม่ เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
มูลค่าของทีมลดลงอย่างหนักเพราะข่าวฉาว
ในขณะที่ทีมกำลังพยายามหาจุดที่ตั้งหลักให้ได้จู่ ๆ พวกเขาก็ต้องพบเจอกับปัญหาใหญ่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกมในสนามเนื่องจากเจ้าของทีม Los Angeles Clippers อย่าง Sterling ได้ถูกสื่ออกมาเผยแพร่คลิปเสียงการสนทานของเขาที่พูดถึงการเหยีดผิว ซึ่งหลังจากที่ถูกแฉ ปัญหานี้ก็ลุกลามใหญ่โตเพราะมันสร้างความไม่พอใจให้กับคนผิวดำเป็นจำนวนมากส่งผลให้มูลค่าของทีมลดลงอย่างฮวบฮาบ แถมบรรดาเหล่าสปอนเซอร์ที่สนับสนุนทีมต่างก็พร้อมใจกับถอนตัว นอกจากนั้นทางรัฐบาลเองก็เข้ามาสืบสวนถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จนทำให้สุดท้ายแล้ว Sterling ก็ถูกทางลีกสั่งแบนไม่ให้ข้องเกี่ยวใด ๆ กับทาง NBA แถมเขายังโดนปรับเป็นเงินด้วยโทษสูงสุด 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้สุดท้ายแล้วเขาก็ต้อปล่อยขายทีม โดยคนที่เข้ามารับช่วงต่อนั่นก็คือ Steve Ballmer
ไม่ว่าจะทำอย่างไร ทีมก็ยังไปไม่ถึงไหนสักที
เมื่อเรื่องราวสุดดราม่าได้จบลงในฤดูกาล 2014 – 2015 ในที่สุดทีมก็กลับมาเล่นได้โดยไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้งไว้ได้อีก และทำให้พวกเขาสามารถทำผลงานได้ค่อนข้างดีจนได้เข้ามาอยู่เป็นอันดับที่ 3 ของทีมฝั่งตะวันตก เพียงแต่ว่านั่นก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้นเพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ทำได้เพียงไปถึง Playoffs รอบ 2 ทำให้ในปีถัดมา Los Angeles Clippers ตัดสินใจที่จะเสริมตัวผู้เล่นให้มากขึ้นด้วยการดึงเอาบรรดาเหล่าผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง Lance Stephenson กับ Paul Pierce เข้ามาช่วยทีม แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้ทีมดีขึ้น หนำซ้ำพวกเขายังต้องเจอกับข่าวร้ายเมื่อผู้เล่นที่เป็นตัวหลักของทีมเสมอมาอย่าง Griffin ก็มีปัญหาอาการบาดเจ็บ และปัญหานี้ก็ส่งผลต่อทีมทำให้พวกเขายังไม่สามารถผ่าน Playoffs รอบแรกได้อีกครั้งทั้ง ๆ ที่ทีมมีรายชื่อของสตาร์เต็มไปหมด
ล้างทีมใหม่อีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้นทีมก็ยังไม่ยอมแพ้ทำให้ต่อมาในฤดูกาลปกติของปี 2016 – 2017 พวกเขาก็สามารถปิดจ๊อบเข้าสู่รอบ Playoffs ด้วยสถิติ 51 – 31 ซึ่งการที่พวกเขาสามารถชนะได้ถึง 50 เกมนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นไม่กี่ทีมที่สามารถคงไว้ซึ่งสถิติชนะเกิน 50 ครั้งได้ถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกัน แต่อย่างที่เราบอกว่านั่นก็เป็นเพียงแค่ผลงานในฤดูกาลปกติเท่านั้น เพราะผลงานใน Playoffs พวกเขาก็ยังคงสวนทางเนื่องจากพวกเขาได้ถูก Jazz ตบร่วงไปแบบช็อกแฟน ๆ และการแพ้ในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้ทางเบื้องบนเริ่มคิดแล้วว่าหากยังคงทีมชุดนี้ต่อไป Los Angeles Clippers ก็ยังคงจะต้องวนลูปนี้อยู่ไปเรื่อย ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงได้ตัดสินใจเริ่มสร้างทีมใหม่ แถมในครั้งนี้เขายังเลือกเอา Jerry West ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารที่มีฝีมือฉกาจในการเลือกผู้เล่นมานั่งแท่นที่ปรึกษาด้วย
โดยผู้เล่นคนแรกที่ถูกส่งออกไปนั่นก็คือ Paul Pierce โดยจุดประสงค์ในการปล่อยเขาออกไปนั่นก็เพื่อแลกกับผู้เล่นของ Rockets หลาย ๆ คน จากนั้นในฤดูกาล 2017 – 2018 ทีมก็ได้ตัดสินใจปล่อยแกนหลักที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนานอย่าง Griffin ที่ช่วงหลัง ๆ มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งออกไปให้กับ พริสตัน เพื่อที่จะเอาสิทธิ์ดราฟต์เข้ามา และการเสียแกนหลักของเขาไปนี้เองที่ทำให้สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะผ่านเข้าสู่รอบ Playoffs ได้
ความหวังครั้งใหม่ Kawhi Leonard
การล้างทีมยังไม่ได้หมดเพียงแค่นั้นเพราะ DeAndre Jordan ก็ได้ประกาศใช้ออฟชั่นไม่ต่อสัญญากับทีมและเลือกจะย้ายออกไป แต่กลับกลายเป็นว่าทุก ๆ อย่างดันค่อย ๆ ดีขึ้นเนื่องจากพวกเขาสามารถกลับเข้าสู่รอบ Playoffs ได้อีกครั้ง แถมต่อมาในฤดูกาล 2019 – 2020 ความหวังของพวกเขาก็มาถึงเนื่องจากพวกเขาสามารถดึงผู้เล่นระดับ
บิ๊กเนมอย่าง Kawhi Leonard เข้ามาสู่ทีมได้สำเร็จ อีกทั้งแฟน ๆ ยังได้รับข่าวดีอย่างต่อเนื่องเพราะพวกเขาสามารถดึงเอา Paul George จาก Thunder เข้ามาจับคู่กัน Kawhi ได้อย่างพอดีเป๊ะ แต่กลับกลายเป็นว่าการจับคู่ของทั้งคู่นั้นยังไม่สามารถที่จะทำได้ตามเป้าที่หวังเอาไว้จนทำให้ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจแยกทางกับ Doc Rivers ก่อนที่จะเลือกเอาอดีตคู่แข่งของพวกเขาอย่าง Tyronn Lue มานั่งแท่นตำแหน่งเฮด โค้ชแทน
และนี่ก็คือเรื่องราวของความหวังของ Los Angeles Clippers ที่เราได้นำมาฝากทุก ๆ คนกัน ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันต่อว่าเมื่อพวกเขามีตัวผู้เล่นขนาดนี้แล้ว เมื่อไหร่กันที่พวกเขาจะได้มีแหวนแชมป์สักวงประดับอยู่ในมือ