การจะสร้างทีมกีฬาสักทีหนึ่งให้มีความแข็งแกร่งจนสามารถฝ่าฝันไปถึงจุดที่เรียกว่าแชมป์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากแต่ละทีมเองก็มีนโยบายการทำทีม รวมถึงการบริหารที่แตกต่างกัน แต่หากจะพูดถึงวิธีที่หลาย ๆ ทีมต่างมองเป็นทิศทางเดียวกันนั่นก็คือ วิธีการของการเฟ้นหาตัวผู้เล่นที่มีศักยภาพสูงสุดมาประดับไว้ในที่นี่เอง ซึ่งทีมอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส เองก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่ใช้นโยบายนี้มา ซึ่งปีที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นปี 1988 ซึ่งทีมพวกเขามีคู่หูสุดโหดอย่าง
แมจิค จอห์นสัน และ คารีม อับดุล จาบาร์ และเพราะโมเดลนี้เองมันจึงทำให้ทีมของ เลเกอร์ส นั้นตัดสินใจที่จะสร้างคู่หู คู่ใหม่ขึ้นมา โดยคู่หูนั้นก็คือ โคบี้ และ แชค
เอาละได้เวลามาเริ่มย้อนดูจุดเริ่มต้นของ 2 คู่หูอย่าง โคบี้ และ แชค
กัน ซึ่งเพราะความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของทั้ง 2 นี้เองที่ทำให้การจะได้ทั้2 คนนี้มาร่วมทีมมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย โดยในตอนนั้น เลเกอร์ส ได้ตัดสินใจคว้าตัว ชาคีล โอนีล ซึ่งตอนนั้นเขาคือเซ็นเตอร์ที่กำลังขาขึ้นแบบสุด ๆ กับ ออร์แลนโด แมจิค และในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ได้ดราฟต์เจ้าหนูดาวรุ่งระดับไฮสคูลที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในยุคนั้นอย่าง โคบี้ ไบรอันท์ มาร่วมทีม โดยทางเลเกอร์ส ได้ตัดสินใจที่จะยอมปล่อยตัว วลาด ดิวัช เซ็นเตอร์ของทีมให้กับ ชาร์ล็อต ฮอร์เน็ตส์ เพื่อที่จะแลกการได้มาของเจ้าหนูคนนี้
และแน่นอนว่าทั้งตัวของ โคบี้ และ แชค เองก็พกพาความมั่นใจมาแบบเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว ซึ่งในตอนนั้นตัวของโคบี้เองก็มีความมั่นใจว่าเขาจะไปรอดบนเวทีของ NBA แบบสุด ๆ จนทำให้เขาคนนี้ไม่เคยคิดจะยอมก้มหัวให้กับใคร และ แน่นอนว่ารวมถึงแชคด้วย จึงทำให้แชคได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตัวของเขาเองก็ไม่มีเวลาที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้ใคร เนื่องจากในตอนนั้นตัวของแชคยังไม่เชื่อใจโคบี้เพราะเขาเห็นเพียงแค่ฝีปาก มากกว่าฝีมือ
แม้ว่าตัวสของโคบี้จะแสดงให้เห็นแล้วเขาฝีมือของเขามีดีพอ ๆ กับที่เขาพูดเนื่องจากเขาสามารถใช้ความรวดเร็วของเขาผลิตแต้มให้กับทีมได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ทว่าการเล่นของกลับไม่ถูกใจเพื่อนร่วมทีมเนื่องจากตัวของโคบี้นั้นโชว์มากเกินไป แต่ถึงแบบนั้นก็ตามตัวของ โคบี้ เองก็ไม่ได้สนใจบรรดาเหล่ากองแช่งทั้งหลายมากนัก และ เขาก็ยังคงออกตัวแรงอยู่เสมอ ซึ่งเพราะการพูดโม้ระดับพระกาฬของ โคบี้เองนี่แหละที่มันทำให้เกิดประเด็นระหว่าง โคบี้ และ แชค ขึ้น
โดยจริง ๆ แล้วปัญหาของ โคบี้ และ แชค มันมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายอย่างไม่ว่า
จะเป็นการที่ตัวของแชคต้องมาเจอกับบรรยากาศอันแสนอึมครึมเนื่องจาก นิสัยมั่นใจในคำพูดของโคบี้ จนทำให้บรรยากาศของทีมเสียอยู่บ่อย ๆ แถมรอบเพลน์ออฟ ปี 1996 – 1997 ตัวของ โคบี้ก็ยิงบอลพลาดแบบไม่โดนห่วงเลยถึง 4 ลูก จนเป็นเหตุให้ทีมต้องตกรอบเพลย์ ออฟ ไป แต่ถึงแบบนั้นตัวของ แชค เองก็ดันไปทำฟาวล์ครบโควตาจนโดนไล่ออกจากสนามไปก่อนหมดเวลาเพียง 2 นาที ซึ่งแม้ว่าจบเกมทั้ง 2 แชคจะเดินเข้ามาปลอบโคบี้ก็ตาม แต่ทว่าภายในใจของเขายังคงคุกรุ่น แต่ถึงอย่างไรก็ตามนิสัยของพูดจาแบบมั่นใจของ โคบี้ ก็เป็นอะไรที่แก้ยากอยู่ดี
เลเกอร์ส ในยุคคู่หูอย่าง โคบี้ และ แชค ค่อย ๆ ทำผลงานดีขึ้นตามลำดับ ถึงแม้ว่าสัญญาอณอันคลุมเครือจะเกิดขึ้นภายในทีม เพราะว่าในตอนนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าผู้นำของทีมเลเกอร์ส คือใคร ระหว่าง โคบี้ และ แชค แต่ถึงแบบนั้นสิ่งที่ทีม
เลเกอร์สรู้นั่นก็คือพวกเขาต้องสร้างความเป็นทีมให้มากขึ้นกว่านี้
ซึ่งแน่นอนแหละว่า แชค ที่โตกว่าย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่า เพราะว่าเขาเองก็เป็นหนึ่ในผู้เล่นที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ จึงทำให้แม้ว่าจะต้องมาประสานงานกับคนที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าอย่าง โคบี้ เขาเองก็ทำอย่างเต็มที่ แต่ถึงแบบนั้นการกระทบกระทั่งกันของทั้ง โคบี้ และ แชค ก็ยังมีข่าวให้เห็นกันอยู่เสมอ ๆ
ซึ่งสิ่งที่ตัวของแชคได้กล่าวถึงโคบี้ออกสื่ออยู่บ่อย ๆ มักจะมีแต่คำว่าตัวของโคบี้ นั้นยังเด็กเกินไป แต่ทว่าในสายตสาของโคบี้เอง เขาก็มอบว่าตัวของ แชค นั้นมีความเฮฮามากจนเกินไปจนทำให้ไม่มีแรงพอที่จะขับเคลื่อนให้ทีมกลายเป็นแชมป์ได้ จนทำในครั้งหนึ่งในสนามซ้อม โคบี้ และ แชค ก็ซัดกันจนได้
โคบี้ และ แชค เองต่างก็คิดว่าตนเองนั้นคือผู้เล่นเบอร์ 1 คนทีม
ซึ่งถ้าเป็นโค้ชคนอื่นปัญหานี้อาจจะทำให้ทีมแตกไปแล้วก็เป็นได้ แต่ก็ยังโชคดีที่ตอนนั้น เลเกอร์ส เองก็ยังมีโค้ชยอดฝีมืออย่าง ฟิล แจ็คสัน ผู้สร้างตำนานให้กับชิคาโก้ บูลส์ มาแล้วคุมทีม ซึ่งเพราะประสบการณ์ของเขานี้เองที่สามารถช่วยประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นนี้ได้ ซึ่งแม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้ทั้ง 2 หันกลับมารักกันราวพี่น้องร่วมสายเลือด แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ โคบี้ และ แชค สามารถเล่นด้วยกันอย่างเข้าขาได้
มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนที่ตัวของ ฟิล สามารถทำแบบนี้ได้เพราะว่า ในอดีตเขาคนนี้นี่แหละที่เป็นคนสร้างบิ๊กทรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งวงการบาส และเขายังเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้คนอย่าง เดนนิส ร็อดแมน สามารถเล่นเข้าขากับทั้ง จอร์แดน และ พิพเพ่น ได้เช่นกัน จึงทำให้ปัญหาของ โคบี้ และ แชค นี้เขาเองก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน
โดย ฟิล แจ็คสัน นั้นแทบจะไม่เคยเรียก โคบี้ และ แชค เข้ามาในเปิดใจเพื่อให้เคลียร์กันเลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่ดุเจ้าทั้งคู่เวลาที่ทั้ง 2 คนมีแขวะกันในสนาม โดยเหตุผลที่ตัวของ ฟิล ไม่ทำแบบนั้นนยั่นก็เพราะว่า เขารู้สึกว่าการที่ทั้ง โคบี้ และ แชค วางตัวกันอย่างนี้ มันเปรียบเสมือนเป็นการเติมไฟให้กันแบบไม่มีวันหมด เพราะตัวของ แชค เองก็อย่าโชว์ฟอร์มให้โคบี้เคารพ แต่ในขณะเดียวกัน โคบี้เองก็อยากจะตอบกลับแชคด้วยผลงานในสนาม dunkswin9
เครดิต : เว็บสล็อต