ตัวเลขบนเบอร์เสื้อที่มีความหมายมากกว่าที่เราเห็น

ไม่ว่าจะเป็นกีฬาไหนเลยก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องมีติดตัวบรรดาเหล่านักกีฬาอยู่เสมอนั่นก็คือสิ่งที่เรีบกว่าเบอร์เสื้อ ซึ่งมันมีหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้ตัดสิน ผู้ชม หรือ ผู้เล่นด้วยกันเองทราบได้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นในสนามนั้นเป็นใคร 

ซึ่งในปัจจุบันเองในเวที NBA ก็ได้มีกฎต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเบอร์เสื้อออกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

เพราะว่าในแต่ก่อนนั้นตัวผู้เล่นนั้นจะสวมใส่เบอร์เขอร์ได้เพียงแค่ 1 -5 เท่านั้น แต่ทว่าในกฎใหม่นี้ผู้เล่นสามารถที่จะเลือกเบอร์เสื้อได้ตั้งแต่เลข 00 ไปจนถึงเลข 99 เลยทีเดียว

และเมื่อเบอร์เสื้อถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญของผู้เล่น ดังนั้นบรรดาเหล่าผู้เล่นหลาย ๆ คนจึงให้ความพิถีพิถันในการเลือกมันค่อนข้างมาก ซึ่งเหตุผลและที่มาของการเลือกเบอร์เสื้อของแต่ละคนจะมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง เราไปเริ่มต้นดูกันเลย

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าจะให้พูดถึงเบอร์เสื้อในตำนานของวงการบาสเกตบอล NBA เบอร์แรกที่หลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงเลยนั่นก็คือ หมายเลข 23 แห่งชิคาโก้ บูลส์ ซึ่งคนที่สวมใส่เบอร์นี้นั่นก็คือชายอย่าง ไมเคิล จอร์แดน นั่นเองแต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วตัวของจอร์แดนเองก็ไม่ได้ปลื้มกับเบอร์นี้สักเท่าไหร่หรอก

โดยจริง ๆ แล้วในสมัยเด็กนักตัวของไมเคิล จอร์แดนมีต้นแบบในการเล่นบาสนั่นก็คือพี่ชาย

ของเขาอย่าง แลร์รี่ จอร์แดน ซึ่งตัวของพี่ชายเขามักที่จะสวมใส่เบอร์เสื้อประจำอย่างหมายเลข 45 ทำให้เมื่อจอร์แดนได้เข้ามาเล่นบาสในระดับมหาวิทยาลัยเขาก็อยากที่จะเบอร์ 45 บางแต่เพราะความที่เขาไม่ได้อยากจะมีอะไรซ้ำพี่ชายเขาจึงได้เอาเลข 45 มาหารครึ่งแล้วปัดเศษ จนกลายมาเป็นที่มาของเลข 23 ในทุก ๆ วันนี้

และตำนานอีกคนหนึ่งซึ่งมีที่มาของเบอร์เสื้อที่เราคาดไม่ถึงนั้นก็คือ โคบี้ ไบรอันท์ แห่ง ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส นั่นเอง โดยเบอร์ 8 ที่เขาเลือกใส่ในตอนแรกนั้น เขาได้เอาเบอร์นี้มากค่าย Adidas ABC Camp 143 ที่เขาเคยเข้าเมื่อสมัยเด็ก ๆ นั่นเอง และเมื่อเอาเลย 1 + 4 + 3 ผลรวมก็จะได้เท่ากับ 8 และ เขาก็ใส่เบอร์นี้มาในช่วงแรก ๆ ในการเล่นของเขา

จนกระทั่งในปี 2006 ตัวของ โคบี้ ก็ได้มีโอกาสเปลี่ยนมาใช้เบอร์เสื้อในตำนานของเขาอย่างเบอร์ 24

ซึ่งเบอร์นี้เป็นเบอร์ที่เขาตั้งแต่สมัยยังเรื่องไฮสูคลช่วงแรก ๆ และหลังจากที่ตัวของโคบี้ ตัดสินใจรีไทร์ออกจากวงการบาสเกตบอล หมายเลขเสื้อทั้งเบอร์ 8 และ เบอร์ 24 ของเขาก็ถูกรีไทร์ตามไปในที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่นนั่งนั่นก็คือ รอน อาร์เทส หรือชื่อในปัจจุบันก็คือ เมตตา เวิลด์พีซ ผู้เล่นจอมเดือดในอดีตที่มีคนเกลียดมากที่สุด โดยหลังจากที่เขาคนนี้ได้ย้ายเข้ามาสู่ แอลเอ เลเกอร์ส เขาคนนี้ได้เลือกเบอร์เสื้ออย่าเบอร์ 37 โดบเหตุผลที่เขาเลือกเบอร์นี้นั่นก็คเพราะว่า เพลงThriller ของ ไมเคิล แจ๊คสัน นั้นอยู่บนชาร์ตบิลบอร์ดนานถึง 37 สัปดาห์ เขาจึงเลือกใส่เบอร์เสื้อเบอร์นี้เพื่อให้เกียรติแก่ ไมเคิล แจ๊คสัน  นั่นเอง

แต่วิธีการเลือกเบอร์เสื้อของ รอน อาร์เทส นั้นว่าเพี้ยนแล้ว แต่ทว่ายังมีคนที่เพี้ยนไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ลามาร์ โอดอม ผู้เล่นตำแหน่งฟอร์เวิร์ดเพื่อนร่วมมือของ อาร์เทส เมื่อกี้นั่นแหละ โดยเขาเคนนี้ได้ใส่เบอร์เสื้อหมายเลข 7 โดยเขาได้ให้เหตุผลว่าที่เขาเลือกเบอร์นี้เพราะว่า เพลง Black & White และ Billie Jean ของไมเคิล แจ๊คสัน อยู่บนชาร์ทบิลบอร์ดนานถึง 7 สัปดาห์เขาจึงได้สวมใส่เสื้อหมายเลข 7 เพื่อที่จะเป็นเพื่อนกับ อาร์เทส นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบนี้มันเป็นแค่คำตอบกวน ๆ ของเขาเท่านั้น เพราะจริง ๆแล้วตัวของ ลามาร์ โอดอม นั้นใส่เสื้อหมายเลข 7 มานานกว่านั้นอยู่แล้วนั่นเอง

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ผู้เล่นในดินแดนอย่างอเมริกาที่มีวิธีการเลือกเบอร์เสื้อแปลก ๆ เพราะผู้เล่น

จากต่างแดนอย่าง เดิร์ก โนวิตซ์กี้ ก็ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นอีกคนหนึ่งที่มีวิธีการเลือกเสื้อที่ไม่เหมือนใคร โดยสมัยที่เขาเล่นอยู่ในลีกเยอรมันนั้น เขาคนนี้ได้ใส่เสื้อเบอร์ 14 มาโดยตลอด แต่ทว่าหลังกจากที่เขาได้เข้ามาเล่นใน NBA กับ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ จริง ๆ ตัวเขาก็อยากจะใส่เสื้อเบอร์ 14 ต่อ แต่ทว่าในตอนนั้นเบอร์นี้กลับมี โรเบิร์ต แพค สวมใส่ก่อนอยู่แล้ว

ด้วยระบบของความซีเนียร์นี่เองที่ทำให้ตัวของ เดิร์ก โนวิตซ์กี้ ที่ยังเป็นเพียงแค่ดาวรุ่งอยู่นั้นกไม่สามารถที่จะเลือกอะไรได้มากนัก เขาจึงได้ตัดสินใจเอาเลข 14 ที่เขาชอบมาสลับกันเป็นเบอร์ 41 และเบอร์เสื้อ 41 นี้เองก็ได้กลายมาเป็นตำนานของ ดัลลัส แมฟเวอริกส์  มาจนถึงทุกวันนี้

อีกคนหนึ่งคนที่มีวีธีการเลือกเบอร์เสื้อไม่ต่างกันนั่นก็คือ ดไวท์ ฮาเวิร์ด โดยเขาคนนี้ได้เลือกที่จะสวมใส่เบอร์ 21 ในสมัยที่เขาเล่นอยู่กับ มินนิโซต้า ทิมเบอร์วูลฟ์ส เนื่องจากชอบผู้เล่นอย่าง เควิน การ์เน็ตเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาได้ถูกดราฟต์เข้ามาสู่ทีม โอเลนโด้ แมจิค เขาก็อยากที่จะสร้างตำนานใหม่ให้เป็นตัวของเขาเอง เขาจึงได้ตัดสินใจสลับหมายเลขเสื้อจาก 21 มาเป็น 12 และ ใช้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ซึ่งหลังจากที่เขาใส่เบอร์เสื้อ 12 มันก็ได้มีโอกาสที่ทีมของเขาได้มาเจอกับเซลติกส์ ซึ่งมีผู้เล่นขวัญใจของเขา การ์เน็ต เล่นอยู่ ซึ่งในการปะทะกันในครั้งนั้นเอง ตัวของ ดไวท์ ฮาเวิร์ด ก็โดนการ์เน็ตซัดแขนไป 2 – 3 เนื่องจาก การเน็ตต์ถูก ฮาเวิร์ดประกบติดไม่ยอมปล่อยเลย จนทำให้ตัวของ ฮาเวิร์ด แอบมาบ่น ๆ เบา ๆ ว่า เขาไม่เคยคิดว่า ไอดอลของเขาจะเป็นคนโหดร้ายขนาดนี้

และนี่ก็คือเรื่องราวของที่มาของเบอร์เสื้อนักบาส NBA แต่ละคน แต่ว่ามันยังมีผู้เล่นอีกหลากหลายคนที่มีวิธีการเลือกเบอร์ได้แบบแปลกประหลาดและอยากที่จะเข้าถึง ซึ่งจะมีใครอีกบ้าง เอาไว้เดี๋ยวครั้งหน้าเราจะเอาเรื่องราวเหล่านี้มานำเสนอให้คุณอีก ยังไงก็อย่าลืมติดตามเว็บของเรากันให้ดี ๆ ละ