ในวงการบาสเก็ตบอล NBA นั้น ค่อนข้างที่จะมีทีมต่าง ๆ ที่โลดแล่นอยู่ลีกอยู่ในทางฝั่งตะวันตก และ ตะวันออกอยู่กันอย่างมากมายหลายทีม และเราก็เชื่อว่าแต่ละทีมนั้นก็มีความแข็งแกร่ง และ เอกลักษณ์การเล่นเป็นรูปแบบเฉพาะแทบทั้งนั้น แต่ถ้าหากเราให้เราพูดถึงทีมที่มีความแข็งแกร่งและสามารถวนเวียนเข้ามาสู่รอบ playoff อยู่บ่อยครั้งแล้วละก็ เราเชื่อว่าชื่อทีมในดวงใจของพวกคุณเหล่านั้น ที่คุณจะต้องนึกถึงจะต้องมีชื่อทีมอย่าง ลอสแอนเจลิสเลเกอส์ อยู่อย่างแน่นอน
และเมื่อความแข็งแกร่งของ ลอสแอนเจลิสเลเกอส์ นั้นค่อนข้างจะเป็นที่ประจักษ์จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาคุณย้อนไปชมประวัติของทีมสุดแข็งแกร่งทีมนี้กันว่า จุดเริ่มต้นของการเดินหน้าสร้างตำนานทีมนี้จะมีที่มาที่ไปอย่างไรกัน ซึ่งถ้าตอนนี้ทุกคนพร้อมแล้ว เราไปเริ่มอ่านกันเลยกับจุดเริ่มต้นของ
ลอสแอนเจลิสเลเกอส์
ซึ่งจุดเริ่มต้นของทีมนั้น แต่เดิมทีมนี้ไม่ได้มีชื่อว่า ลอสแอนเจลิสเลเกอส์ ตามที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน แต่ทว่าชื่อแรกเริ่มของทีมนี้นั่นก็คือ ดีทรอยต์ เจมส์ (Detroit Gems) โดยในตอนนั้นชื่อนี้ยังเป็นชื่อที่ใช้เล่นในลีกของ NBL แต่ทว่าผลงานของทีมนั้นไม่มีมีความโดดเด่นแถมยังไปทางแย่ซะมากกว่า จนในที่สุดเจ้าของยุคแรกเริ่มก็ได้ขายทีมไป และ ผู้ซื้อคนใหม่ก็ได้ย้ายทีมจากเมือง
ดีทรอยต์มาที่เมืองมินนีแอโพลิส
ซึ่งสถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยทะเลสาบมากมายจึงได้ทำการตั้งชื่อใหม่ทีมว่า เลเกอร์ และหลังจากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนฐานที่มั่นของทีมอีกครั้ง โดยในปี 1960 ทีมก็ได้ย้ายมาที่เมือง ลอสแอนเจลิส และได้นำชื่อเมืองมาผสมกับชื่อเดิมจนกลายเป็น ลอสแอนเจลิส เลเกอส์ ที่เราคุ้นชินกันในปัจจุบัน
และหลังจากเริ่มมีการก่อตั้งลีก NBA ขึ้น เลเกอร์ ก็สามารถที่จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอมเยี่ยมโดยพวกเขาสามารถที่จะคว้าแชมป์ไปได้หลายสมัย ซึ่งในตอนนั้นทีมได้มีโอกาสดราฟเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากทีมเก่าของพวกเขาอย่าง ทรอยต์ เจมส์ ได้อันดับรั้งท้ายในเอ็นบีแอล และคนที่พวกเขาเลือกดราฟเข้ามาเป็นอันดับแรกนั่นก็คือ จอร์จ มิคาน (George Mikan) ผู้เล่นระดับตำนานที่ถูกกล่าวขานว่า เป็นผู้เล่นเซ็นเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในตอนนั้นนั่นเอง
และแน่นอนว่าความแข็งแกร่งมันคงไม่มีทางคงกระพันตลอดไป เพราะว่าทันทีที่หมดยุคของ จอร์จ มิคาน (George Mikan)
ลง ฟอร์มการเล่นของทีมก็ทิ้งดิ่งลงอย่างไม่น่าเชื่อ แถมผู้ชมที่เข้ามาชมการแข่งก็ยังลดน้อยลงเรื่อย ๆ ตามฟอร์มที่ย่ำแย่ของทีม ซึ่งทางด้านทีมเองก็พยายามอย่างหนักในการที่จะกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ให้ได้โดยการเสริมทัพผู้เล่นเก่งอย่างการ ดราฟเอา
เจอร์รี เวสต์ (Jerry West) มาร่วมทีม อีกทั้งยังยอมซื้อตัว วิลต์ แชมเบอร์เลน
(Wilt Chamberlain) มาจากทีมฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จำให้ทีมนี้สามารถไปไกลได้เท่าที่ควร
แม้ว่าจะยังควานหาตำแหน่งแชมป์ไม่เจอแต่เลเกอร์เองก็ยังไม่ได้ที่จะถอดใจ เพราะพวกเขายังคงเสริมผู้เล่นที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้อย่างต่อเนื่องเช่นการ คว้าตัว คารีม อับดุล-จับบาร์ (Kareem Abdul-Jabbar) และผู้เล่นทีมีลีลาราวกับต้องมนต์อย่าง เออร์วิน จอห์นสัน หรือที่หลาย ๆ คนต่างก็เรียกว่าเขาว่า เมจิก จอห์นสัน เท่านั้นยังไม่พอ เพราะว่าทีมยังมีสตาร์ดัง ๆ อย่าง เจมส์ เวอร์ที (James Worthy) และ ไบรอน สก็อตต์ (Byron Scott) จนทำให้ผู้คนต่างตั้งชื่อ เลเกอร์ในยุคนั้นว่า
โชว์ไทม์ (Showtime) เพราะว่าทีมในตอนนั้นขึ้นชื่อเรื่องการบุกทำคะแนนแบบสุด ๆ แต่ทว่ามันก็ยังไม่ดีพอที่จะมีถ้วยแชมป์ให้มาประดับตู้ หนำซ้ำเรื่องราวยังยิ่งวุ่นขึ้นไปอีกเมื่อ จอห์นสัน จะมาประกาศตัวเองว่าติดชื่อ HIV และเลิกเล่นไปในปี 1991
แต่แล้วยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของ เลเกอร์ก็ได้ค่อย ๆ เดินทางมาถึง เมื่อก่อนที่ฤดูกาล 1996-1997 จะเริ่มต้นขึ้น เลเกอร์ได้เสริมทัพด้วยการคว้าเซ็นเตอร์ร่างยักษ์อย่าง แชคิล โอนีล มาร่วม แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นนั่นก็คือ การเทรดเอา โคบี ไบรอัน จากทีมชาล็อต ฮอร์เนตส์ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงแค่รุกกี้หน้าใหม่ระดับมัธยมปลายมาครอง ซึ่งแม้ว่าการมาของทั้ง 2 คนนี้ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของทีม แต่ทว่าสัญญาณต่าง ๆ ของทีมก็เริ่มดีขึ้น โดยทีมได้เข้าไปถึงรอบเพลย์ ออฟ โดยตลอด แม้ว่าจะต้องมาตกม้าตายในรอบหลัง ๆ ก็ตามที
แต่หลังจากที่ เลเกอร์ ได้มีโอกาสเปลี่ยหัวหน้าโค้ชใหม่ โดยการนำ ฟิล แจ็คสัน (Phil Jackson) เข้ามาทำทีม ฟิล ก็ได้ทำการเปลี่ยนระบบการเล่นของทีมใหม่ โดยแทคติกที่เขาใช้นั้นมีชื่อว่า ไทรแองเกิลออฟเฟนส์ (triangle offense) และเพราะแทคติกใหม่นี้เองที่มันได้นำพาเอาความสำเร็จเข้ามาสู่ เลเกอร์ จนได้แถมยังเป็นการคว้าแชมป์ติดต่กันถึง 3 สมัยติดเลยอีกต่างหาก ซึ่งผลงานในครั้งนี้ทำให้ ฟลิ กลายเป็นโค้ชที่มีสถิติสามารถพาทีมเข้าสู่การเป็นแชมป์ได้ถึง 10 ครั้งเลยทีเดียว
และแน่นอนเมื่อมีช่วงขาขึ้นมันก็ย่อมมีช่วงขาลงเป็นสัจธรรมคู่กัน ซึ่งในช่วงนั้น เลเกอร์ ยังคงเดินหน้าเสริมความแกร่งด้วยกัน เซ็นเอา คาร์ล มาโลน (Karl Malone) และ แกรี เพย์ตัน (Gary Payton) นักกีฬาระดับ Top ซึ่งเป็นว่าที่ติดหอเกียรติยศมาร่วมทีม แต่ในระหว่างนั้นภายในทีมก็ยังคงมีรอยร้าวที่ยากจะประสานกันระหว่าง 2 ตัว Top แห่งทีมอย่าง แชค และ โคบี จนทำให้ในที่สุดทีมก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าโค้ช พร้อม ๆ กันนั้นก็ต้อง เทรด แชค ไปให้ไมอามี ฮีท หนำซ้ำ แกรี เพย์ตัน ก็ถูกเทรดไปทีม
บอสตัน เซลติกส์ ส่วน คาร์ล มาโลน ก็มาประกาศเลิกเล่น
มันเลยทำให้ในฤดูกาล 2004-2005 กลายเป็นเป็นปีที่ตกต่ำของเลเกอร์ส เพราะผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์อย่าง โคบี ไบรอันต์
คนเดียวไม่อาจที่จะช่วยทีมไหวนั่นแอง
และนี่ก็คือประวัติย่อ ๆ ของทีมดังที่มีความยิ่งใหญ่ และ สารมารถจารึกชื่อของตัวเองลงในสารานุกรมของ NBA ให้ทุกคนได้ไม่มีวันลืม ว่าทีมนี้คือที่มีบรรดาเหล่าซุปเปอร์สตาร์อยู่อย่างไม่เว้นช่วง ลอสแอนเจลิสเลเกอส์ dunkswin9
เครดิต เว็บสล็อต