หากพูดถึงตำนานของวงการบาสแล้วละก็ เราเชื่อว่าชายที่หลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงกันเป็นคนแรก ๆ เลยนั่นก็คือชายที่มีชื่อว่า ไมเคิล จอร์แดน แต่ทว่าในวงการบาสนี้หาเราติดตามกันมาอย่างยาวนานแล้วละก็ เราจะรู้เลยว่าผู้สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือน NBA ไม่ได้มีเพียงแค่ ไมเคิล จอร์แดน เป็นคนแรก และ คนเดียว แต่มันยังมีนักบาสอีกมากมายหลายคนที่สร้างสถิติ รวมถึงตำนานไว้อย่างมากมาย แต่ถ้าเกิดเราจะตั้งคำถามว่า หลังจากหมดยุคของจอร์แดนไปแล้ว ชายผู้เป็นตำนานของวงการบาสคนต่อมาจาก จอร์แดน คือใคร เราก็เชื่อว่า ชื่อของชายอย่าง โคบี้ ไบรอันท์ จะต้องถูกล่าวขายขึ้นมาเป็นอันดับต่อไปอย่างแน่นอน แต่ทว่ามันก็น่าเสียดายอยู่ตรงนี้ หลังจากนี้เราคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นเขาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเขาคนนี้ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สุดช็อค อย่าง ฮ. ตกนั่นเอง
แต่ถึงตัวของ โคบี้ ไบรอันท์ จะจากไปแบบไม่มีวันกลับแล้วก็ตาม แต่ทว่าสิ่งที่เขาหลงเหลือไว้กลับมีมากมาย จนทำให้หลาย ๆ คนไม่อาจจะลบเลือนเขาออกไปจากความทรงจำได้
โคบี้ ไบรอันท์ นั้นถือได้ว่าเป็นชายอีกคนหนึ่งที่ถือว่ามีสายเลือดของนักบาส
ไหลเวียนอยู่ในตัวตั่งแต่เกิด เพราะว่าคุณพ่อของเขาอย่าง เจลลี่บีน ไบรอันท์ นั้นได้เคยเล่นบาสระดับอาชีพอย่าง NBA มาก่อน ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะเปลี่ยนตัวมาเป็นโค้ชแทน นอกจากนั้นแล้วคุณของเขายังเป็นอีกหนึ่งคนที่เคยโลดแล่นในเวที NBA มาก่อเนเช่นกัน
และเมื่อเขาคนนี้เกิดมาในครอบครัวที่ล้อมรอบไปด้วยเรื่องราวของบาสแล้ว มันเลยไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้เลือกเล่นกีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาหลัก และเพียงไม่นานตำนานประวัติศาสตร์ที่ถูกจากรึกไว้โดยชายที่ชื่อ โคบี้ ไบรอันท์ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เพราะชื่ของเขาก็เริ่มกลายเป็นที่รูจักในระดับไฮสคูล ถึงขนาดที่ว่าทีมอย่าง ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ต้องส่งตัว โค้ชของทีมชุดใหญ่มาดูฟอร์มของไอ้เด็กน้อยคนนี้ทันที
ส่วนมรดกตำนานที่ 2 ของเขาที่มันได้สร้างความเหลือเชื่อไว้ให้กับวงการนั่นก็คือ ในปี 1996
หลังจาก โคบี้ ไบรอันท์ เรียนจบจากการเรียนระดับมัธยมปลายหมาด ๆ เขาก็ได้ตัดสินใจเข้าสู่ระบบดราฟของ NBA อย่างเป็นทางการ แทนที่จะรอการเลือกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในโควต้าของนักกีฬาเหมือนกับคนอื่น ๆ ซึ่งการทำครั้งนี้ถือได้ว่ามีความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องทาง NBA นั้นมีกฏอยู่ว่า หากผู้เล่นคนใดเคยลงทะเบียนในการดราฟต์และไม่ถูกเลือก พวกเขาจะไม่มีสิทธิ์มาลงทะเบียนดราฟต์เป็นครั้งที่ 2 และต้องย้ายทีมแบบฟรีเอเยนต์แทน
ส่วนอีกหนึ่งตำนานที่ โคบี้ ไบรอันท์ คนนี้ทิ้งเอาไว้นั่นก็คือ ตำนานเรื่องราวของการเทรด
โดยในตอนนั้น โคบี ถูกเทรดเป็นอันที่ 13 ในรอบแรก โดยทีมอย่าง ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ซึ่งการเทรดครั้งนี้มันได้สร้างตำนานให้ โคบี กลายมาเป็นผู้เล่นตำแหน่งการ์ดคนแรกที่ได้เข้ามาเล่นใน NBA ตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย
แต่ก็เหมือนว่าบุญวาสนาของ ชาร์ล็อตต์ จะไม่ดีพอ เพราะว่าก่อนที่วันดราฟจะเดินทางมาถึง เอเย่นต์ของโคบี้ ไบรอันท์กลับมองว่าทีมอย่าง ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ยังไม่เหมาะกับ โคบี้ แถมทางฝั่ง ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ เองในตอนนั้นก็ยังมีแผนที่จะเทรดตัวผู้เล่นกับ แอลเอ เลเกอร์ส อยู่แล้วโดยตำแหน่งที่พวกเขาต้องการจาก เลเกอร์ส ก็คืผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่ยังขาดอยู่
ทำให้หลังจากนั้นตัวของ โคบี้ ไบรอันท์ ก็มีโอกาสได้มาลงซ้อมกับทีมอย่าง เลเกอร์ส เพื่อทดสอบ และแน่นอนว่าฟอร์มของเขามันแจ่มสะดุดตา จนทำให้เลเกอร์สตัดสินใจเทรดโดยการ วลาด ดีวัช เซ็นเตอร์ตัวหลักของทีมไปแลกเจ้าเด็กคนนี้เลยทีเดียว
อีกหนึ่งมรดกความยิ่งใหญ่ของ โคบี้ ไบรอันท์ ที่ชัดเจน และ เห็นปะจักษ์กันมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการสร้างประวัติศาตร์ต่าง ๆ มากมายให้กับทีมอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส และเพราะฟอร์มที่หลาย ๆ คนต่างก็ยกย่อง มันจึงอดไม่ได้ที่จะทำให้เขาคนนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับซุปเปอร์สตาร์ที่เพิ่งลาวงการไปอย่าง ไมเคิล จอร์แดน
แน่นอนว่าเมื่อมันมีการเปรียบเทียบมันย่อมมีการถกเถียงกันเกิดขึ้น
และแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากมีการถกเถียงกันนั่นก็คือ คนที่ชอบ และ คนที่เกลียด ซึ่งบรรดาเหล่าคนที่เกลียดเหล่านี้นี่เองที่ก็พร้อมจะโจมตีตัวตนของ โคบี้ ไบรอันท์ อย่างเจ็บแสบในทุก ๆ ครั้งแต่เขาพลาด แต่ทว่า โคบี้ ในตอนนั้นก็ยังถือได้ว่าสภาพจิตใจแข็งแกร่งเกินวัย และมักสวนบรรดาเหล่า Hater กลับไปด้วยคำที่เจ็บแสบทุกครั้ง แถมนอกคำพูดแสบ ๆ คัน ๆ แล้วเขายังจัดการอุดปากบรรดาเหล่าคนที่เกลียดเขา ด้วยการพัฒนาทักษะความสามารถในสนามของเขาให้ยิ่งโหดขึ้นเรื่อย ๆ
อีกหนึ่งมรดกของโคบี ที่ถูกทิ้งเอาไว้นั่นก็คือ การซ้อม เพราะถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่าชายอย่าง โคบี้ ไบรอันท์ คือผู้เล่นที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์มากมายในสนามที่พร้อมจะเนรมิตลีลาต่าง ๆ ได้อย่างที่ตามใจนึก แต่ทว่าเขาคนนี้กลับไม่ได้หวังเพิ่งเพียงแค่พรสวรรค์ของเขาอย่างเดียว
โดยตัวของ โคบี้ ไบรอันท์ เขาฝึกหนักยิ่งกว่าผู้เล่นไหน ๆ โดยผู้เล่นที่ออกมายืนยัน
ถึงเรื่องการฝึกซ้อมอันบ้าคลั่งนี้ก็คือ เพื่อนเรื่อมทีมร่างยักษ์อย่าง แชค นั่นเอง โดยเขาได้บอกว่า โคบี มันจะใช้เวลาในการฝึกซ้อมหลายชั่วโมง แม้ว่าในตอนนั้นเขาจะมีดีกรีเป็นถึงผู้เล่น MVP จากการเป็นแชมป์ไปแล้วก็ตาม ซึ่งแชคมักจะเห็นเสื้อของโคบี้เปียกโฉกไปด้วยเหงื่อตั้งแต่ตี 5 และหลังจากนั้นตัวของ โคบี้ ไบรอันท์ ก็จะไปซ้อมกับทีมในโรงยิมต่อ
มรดกความมหัศจรรย์ของโคบี้ ไบรอันท์ อันต่อมานั่นก็คือ การกลายเป็นชายผู้อยู่กับทีมเดียว ซึ่งการจะเป็นนักกีฬาสิ่งที่เป็นวัฏจักรและทุกคนต้องเจอนั่นก็คือ จุดสูงสุด และ จุดต่ำสุด ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ โคบี้ ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน โดยสิ่งที่ทำให้เขาถึงจุดต่ำสุดนั่นก็คือ เขามักจะถูกวิจารณ์อยู่ไม่ใช่น้อยว่าฟอร์มการเล่นของทีมที่ตกลงไป อาจจะเป็นเพราะ โคบี้ พยายามมที่จะเป็นบาสโชว์เดี่ยวมากเกินไป จนทำให้หลาย ๆ คนตอนนั้นเริ่มมอง โคบี้ ยังควรที่จะอยู่กับทีมนี้ต่อไปไหม
แต่สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะแน่นอนว่า โคบี้ ไบรอันท์ คืออีกหนึ่งสัญลักษณ์ของ เลเกอร์ส ไปแล้ว แถมเขาคนนี้ยังร่วมทางมากับ เลเกอร์ส มาจนเรียกว่าได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว แถมเมื่อว่าที่แฟน ๆ รู้สึกว่า เลเกอร์สกำลังตกต่ำลง ก็เป็น โคบี้ คนนี้นี่แหละที่พยายามทุกวิธีเพื่อที่จะพาเลเกอร์สกลับมาผงาดอีกครั้งให้ได้
และนี่แหละก็คือเรื่องราวของอีกหนึ่งผู้ชายผู้เป็นตำนานที่แม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้เห็น โคบี้ ไบรอันท์ แบบมีลมหายใจอยู่แล้ว แต่ทว่าเราก็เชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เขาทิ้งเอาไว้ให้เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงคนดูบาสในทุกวันนี้ มันจะกลายเป็นตำนานที่ไม่มีวันสูญไปอีกนานเท่านาน dunkswin9