เราเชื่อว่าทุกคนย่อมมีความฝัน และ การจะที่เราทำความฝันของเราให้เป็นจริงได้นั้น ระหว่างทางมันย่อมมีอุปสรรคที่ทำให้เราท้อ หรือ มีหลาย ๆ อย่างมาขวางกั้นเอาไว้ ซึ่งบางคนก็อาจจะยอมแพ้ต่ออุปสรรคเหล่านั้น และ ยอมถอดใจไปในที่สุด แต่ทว่าก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและฝ่าฟันมันจนไปถึงฝันจนได้ ซึ่งการที่เราจะฝ่าฟันไปถึงฝันที่เราต้องการได้นั้น บางทีเราก็จำเป็นที่ต้องมีเครื่องมือในการช่วยแรงบันดาลใจ และ หนึ่งในวิธีการสร้างแรงบันดาลใจได้ดีที่สุดนั่นก็คือ การยึดถือใครสักคนเป็นแบบอย่างนั่นเอง ซึ่งบรรดาเหล่านักบาสรุ่นใหม่หลาย ๆ คนที่เราได้เห็นพวกเขามาวาดลวดลายฝีมือในเวทีบาสเกตบอล NBA นั้น พวกเขาแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่มีผู้เล่นในดวงใจแตกต่างกันไป และในวันนี้เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งดาวรุ่งที่เขาคนนี้สามารถทำให้ความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้สำเร็จนั่นก็คือ การก้าวเดินมาถึงวงการบาสระดับอาชีเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับนักบาสคนโปรดของเขา โดยเจ้าหนูดาวรุ่งที่สามารถทำตามความฝันของตัวเองสำเร็จได้นั้นมีชื่อว่า เจย์สัน เททัม
เจย์สัน เททัม ถือได้ว่าเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างที่ไม่ได้เพอร์เฟ็คเหมือนคนอื่น ๆ
เพราะว่า พ่อแม่ ของเขานั้นยังถือได้ว่ามีอายุน้อยทั้งคู่ โดยตอนที่คุณแม่ของท้องเขานั้น คุณพ่อ และ คุณแม่ของเขา มีอายุเพียง 19 ปี เท่านั้น แถมที่สำคัญกว่านั้นก็คือพวกเขานั้นเรียนอยู่กันคนละที่
และด้วยการตั้งครรถ์ตั้งแต่อายุยังน้อยนี่เองที่ทำคุณแม่ของเขาต้องยอมทิ้งสิทธิ์ในการรับทุนเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของทางมหาวิทยาลัย แต่เธอก็ยังไม่ได้ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยและเดินหน้าตั้งใจเรียนโดยหอบเจ้าเจย์สัน เททัมตัวน้อยนี้เข้าเรียนไปพร้อม ๆ กัน
ส่วนความหลงใหลในบาสเกตบอลของ เจย์สัน เททัม นั้นได้มากจากคุณพ่อของเขา ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เจอกับคุณพ่อมานัก แต่ทว่าพ่อของเขาก็เป็นนักบาสระดับมหาวิทยาลัย และ เดินหน้าเข้าสู่ลีกอาชีพที่ต่างประเทศในที่สุด ซึ่งนั่นเองก็ทำให้ เจย์สัน เริ่มประทับใจกีฬาบาส และ ได้เริ่มฝึกเล่นตั้งแต่อายุ 3 ขวบ
ความหลงใหลในกีฬานี้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงขั้นเขาเอาลูกบาสไปนอนกอดด้วยทุกคืน
หนำซ้ำเขาก็ยังเริ่มไม่คิดถึงอะไรอื่น ๆ อีกนอกจากการเล่นบาสเท่านั้น ซึ่งเมื่อคุณแม่สถานการณ์ที่เริ่มดูท่าทางว่าลูกจะหมกมุ่นเกินไป เธอจึงได้ตั้งกฏว่า เจย์สัน เททัม จะต้องมีผลการเรียนที่ดีก่อน ถึงจะได้ออกไปเล่น ซึ่งเพราะความอยากไปเล่นนี่แหละ ที่ทำให้ เจย์สัน ทำผลการเรียนยอดเยี่ยมมาเรื่อย ๆ จนถึงขนาดที่ว่าระดับไฮสคูล เขาสามารถทำคะแนนเฉลี่ยได้มากถึง 3.5 คะแนนเลยทีเดียว แต่ถึงจะมีกฎที่เข้มงวดขนาดไหนก็ตาม แต่แม่ของเจย์สันก็ไม่เคยปิดกั้นความฝันของลูก
หลังจากกล่าวเรื่องของผู้เป็นแม่มามากแล้ว ตอนนี้เราขอกล่าวถึงเรื่องของผู้เป็นพ่อบ้าง โดยอย่างที่เราได้บอกไปว่าฝั่งของทางคุณพ่อนั้นไม่ค่อยที่จะมีเวลาให้กับเขามากนัก แต่แล้วข่าวร้ายก็มาเยือนครอบครัวของเขาอีกครั้ง เพราะว่าสุดท้ายแล้วพ่อของ เจย์สัน เททัม ก็ได้ตัดสินใจแยกทางกับแม่ของเขา เพื่อไปแต่งงานใหม่ และ มีลูกด้วยกันอีก 2 คน แต่ถึงแบบนั้นก็ตาม ตัวของ เจย์สัน ก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณพ่อ รวมไปถึง น้องชายต่างแม่ทั้ง 2 คนอีกด้วย
และด้วยความที่คุณพ่อของเขานั้นเป็นถึงนักบาสระดับอาชีพของลีกประเทศเนเธอร์แลนด์ มันจึงทำให้คุณพ่อของเขาได้ฝึกสอนวิชาบาสเกตบอลให้เจย์สัน เททัม จนกระทั่งอายุได้ 14 แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็ได้มาถึง เมื่อคุณพ่อของเขาได้ตัดสินใจไปเป็นโค้ชให้กับ คริสเตียน บราเธอร์ส คอลเลจ ไฮสคูล แต่ทว่าในขณะเดียวกันลูกชายของเขาดันตัดสินใจเรียนที่ ชามิเนด คอลเลจ พรีพาราทอรี่ สคูล แต่ที่มันน่าตลกกว่านั้นก็คือ 2 โรงเรียนนี้จะต้องมีโปรแกรมที่จะเจอกันในการแข่งขันระดับไฮสคูลเป็นประจำ มันจึงทำให้เกิดการประชันหน้าของพ่อลูกเกิดขึ้น
และด้วยความที่มีมืออาชีพคอยสั่งสอนตลอดนี้เองที่ทำให้เจ้าเด็กคนนี้มีความแข็งแกร่งมาก ๆ
จนทำให้มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งส่งเทียบเชิญมาให้เขา ซึ่งตัวของเจย์สัน เททัม ก็ตัดสินใจเลือกไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ดุ๊ก เนื่องจากโค้ชของมหาวิทยาลัยถึงขั้นยอมโทรมาชวนเขาด้วยตัวเองนั่นเอง
และหลังจากที่เจย์สัน เททัม เรียนมหาวิทยาลัยได้หนึ่งปี ฟอร์มที่เด่นชัดเป็นประจักษ์นี้เองที่ทำให้เขาคนนี้ตัดสินใจเข้าสู่ระบบดราฟท์ของ NBA ในปี 2017 แต่ถึงแบบนั้นแม่ของเขาเองก็ยังคงเข้มงวดกับความประพฤติของลูกชายแบบสุด ๆ เพราะว่าเธอนั้นยังไม่อยากให้ลูกของเธอทิ้งการเรียนนั่นเอง

และแล้ววันเวลาแห่งการดราฟท์ก็มาถึง ซึ่งก่อนวันดราฟท์นั้นก็มีเรื่องฮือฮาเกิดขึ้น เมื่อ เซลติก ตัดสินใจที่จะแลกสิทธิ์ดราฟอันดับ 1 ให้กับ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส แต่ถึงกระนั้นเองเซลติกก็ได้ออกมายืนยังภายหลังว่า ต่อให้ไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น พวกเขาก็ยังยืนกรานที่จะเลือกไอ้เจ้าหนูเจย์สัน เททัม คนนี้เข้าทีมอยู่ดี
โดยในตอนนั้นตัวของ เจย์สัน เททัม ถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองก็จริง แต่ก็ไม่มีใครคิดหรอกว่าเขาจะได้รับการเลือกตัวตั้งแต่การดราฟท์รอบแรก แต่เซลติกไม่คิดแบบนั้น เพราะว่าพวกเขาตัดสินใจดราฟท์เจ้าหนูคนนี้เข้ามาเป็นอันดับ 3 ตั้งแต่รอบแรกเลยทีเดียว
แต่เมื่อเจย์สัน เททัม เข้าทีมมาเขาก็ได้เจองานหินทันที เพราะเมื่อเขาเข้ามา กอร์ดอน เฮย์เวิร์ด
ผู้เล่นที่เซลติกหวังว่าจะให้มาเล่นตำแหน่งสมอลล์ ฟอร์เวิร์ด กลับเจ็บหนักตั้งแต่ต้นฤดูกาล แถมเท่านั้นไม่พอ คายรี่ เออร์วิ่ง ที่เพิ่งได้ตัวมาก็เจ็บตามไปด้วยเช่นกัน มันจึงทำให้ความหวังทั้งหมดมาลงอยู่ที่เจ้าเด็กคนนี้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาเล่นใน NBA ทันที แต่ถึงจะเจอโจทย์และสถานการณ์สุดกดดัน แต่เขาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง และระเบิดฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงได้ทันที
และแน่นอนว่าเมื่อเจ้าหนูเจย์สัน เททัมคนนี้คลั่งไคล้กีฬามาตั้งแต่เด็ก เขาเองก็ย่อมมีไอดอลเช่นกัน และ เขาก็พบว่าในช่วงนั้นมีนักบาสคนหนึ่งที่น่าสนใจเอามาก ๆ โดยนักบาสคนนั้นก็คือ เลบรอน เจมส์ ซึ่งเรียกได้ว่าทุกกิจกรรม หรือ ทุกแคมป์การฝึกของ เลบรอน เจมส์ เขามักที่จะเดินทางไปเข้าร่วมอยู่เสมอ
แต่แล้วในที่สุดโชคชะตาก็ได้พาเอาติ่งพันธุ์แท้มาเจอกับฮีโร่ในดวงใจของเขาบนเวที NBA จนได้ และในวันนั้นเจย์สัน เททัม ก็ได้ทำสิ่งที่เหลือเชื่อขึ้น เมื่อเขาได้กระโดดทำ โปสเตอร์ ดังค์ หรือเรียกให้เขาใจนั่นก็คือ การดังค์อัดทั้ง ๆ ที่มีประกบอยู่ตรงหน้า และตัวผู้เล่นที่ประกบเขาอยู่ในตอนนั้นก็คือ เลบรอน เจมส์
และนี่ก็คือเรื่องราวของ เจย์สัน เททัม ที่เริ่มต้นจากการเป็นติ่ง สู่การได้เข้ามาเจอกับซุปเปอร์สตาร์ที่เขาชื่นชอบนั่นเอง