สำหรับมนุษย์บางคนอาจจะเกิดมาพร้อมกับพรสวรคค์ที่ไม่ว่าจะหยิบหรือจับอะไรมันก็สามารถทำได้ดี และ ทำได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าคนอื่น ๆ อยู่เสมอ แต่ทว่ามนุษย์เหล่านั้นก็ถือได้ว่าเป็นส่วนน้อยที่นาน ๆ ทีเราจะมีให้เห็นกันสักคน เพราะส่วนใหญ่แล้วการที่มนุษย์สักคนหนึ่งจะทำอะไรสักอย่างจนชำนาญ และ เชี่ยวชาญได้นั้น มันจำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะที่เรียกว่าการเรียนรู้ ซึ่งการเล่นบาสเกตบอลก็เช่นกันเพราะส่วนใหญ่แล้วผู้เล่นในลีกที่เราเห็นพวกเขาโชว์ลีลากันได้อย่างพริ้วไหว จนพวกเราต้องทึ่งนั้นส่วนใหญ่มันจะมากจากสิ่งที่เรียกว่าการฝึกซ้อม ซึ่งยิ่งพวกเขาฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ พวกเขาก็สามารถเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การที่จะฝึกซ้อมให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากที่บางทีมันก็อาจจะต้องอาศัยอาจารย์ที่ดีด้วย และหนึ่งในนักบาสระดับตำนานที่เราจะมาพูดถึงเขาในครั้งนี้ เขาเป็นผู้เล่นอีกคนหนึ่งที่ได้อาจารย์ดีมาก ๆ จนทำให้เขากลายเป็นที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ โดยนักบาสคนนั้นก็คือ ฮาคีม โอลาจูวอน
ฮาคีม โอลาจูวอน นั้นเป็นคนที่เกิดและเติบโตขึ้นในประเทศอย่างไนจีเรีย
ประเทศที่ในตอนนั้นมีกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ขึ้นหน้าชูตาของประเทศ แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่เด็กชายหมดทุกคนที่จะชื่นชอบกีฬาบาสเกตบอล เพราะว่าลักษณะร่างกายของ ฮาคีม มันไม่ได้เหมาะกับกีฬาฟุตบอล โดยตอนนั้นเขามักลักษณะที่ผอมแห้ง และ สูง ซึ่งลักษณะร่างกายนี้จึงทำให้เขาเหมาะกับกีฬา
บาสมากกว่า
แต่ถึงแม้ว่า ฮาคีม โอลาจูวอน จะสูงขนาดไหนก็ตามแต่ทว่าด้วยความที่ยังเป็นเด็กและทักษะต่าง ๆ
ก็ยังไม่ได้แข็งแรงอะไรขนาดนั้นทำให้ แม้แต่การจะดังค์เขายังทำไม่เป็นเลย แต่แล้วโชคชะตาของเขาก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อ ชายที่ชื่อว่า คริสโตเฟอร์ ปอนด์ โค้ชบาสชาวอเมริกันที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ไปพบเขาเข้าคนตอนอายุ 15 ปี
และเพียบแว๊บแรกที่ ปอนด์เห็น เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าไอ้เจ้าหนูคนนี้ได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ ในอเมริกาสักแห่ง เขาคนนี้จะได้กลายเป็นนักบาสระดับซุปเปอร์สตารือย่างแน่นอน ว่าแล้วเขาก็เลยได้แนะนำให้โค้ชระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อว่า กาย ลูอิส ให้ลองเอาเจ้าหนู ฮาคีม โอลาจูวอน คนนี้ไปฝึกดู
หลังจากนั้นเมื่อเขามีอายุได้ 17 ปีเขาก็ได้ออกเดินทางมาสู่อเมริกา เวทีแห่งบาสเกตบอลที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก ซึ่งสิ่งแรกที่ฮาคีม โอลาจูวอน จะต้องเริ่มทำก่อนลงซ้อมนั่นก็คือ การหารองเท้า เพราะว่าในตอนนั้นเขามีรองเท้าคู่เก่าที่ใช้เล่นในประเทศบ้านเกิด ซึ่งตอนแรกนั้นเขาก็คิดจะหารองเท้ารุ่นเดิมใส่นั่นแหละ แต่ที่อเมริกาแห่งนี้ก็ทำให้เขาได้พบว่า โลกของรองเท้าบาสมันช่างก้าวใหญ่ยิ่งนัก
แน่นนอนว่าร่างกายของ ฮาคีม โอลาจูวอน คือสิ่งที่นักบาสที่ดีเขาควรจะมีกัน
โดยของเพียงแค่เขาเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายนิดหน่อยรับรองว่าชายคนนี้จะต้องกลายเป็นผู้เล่นที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้มันกลับไม่ได้เหมือนที่เขาคิด เพราะว่าบรรด่าเหล่าเด็กอเมริกที่ฝึกบาสเป็นทุนเดิมนั้นแต่ละคนมีฝีมือที่ไม่ธรรมดาเอามาก ๆ
ซึ่งเพราะความเก่งกาจของพวกเขาเหล่านั้นนี่แหละที่กลายเป็นแบบอย่างให้ ฮาคีม แม้ว่าตัวของ ฮาคีม โอลาจูวอน จะต้องพยายามมากกว่าเด็กคนอื่น ๆ ถึง 2 เท่านั้น แต่ในทุก ๆ ครั้งที่เขาได้พัก เขาก็จะหาโอกาสนั่งอยู่ข้างสนามเพื่อศึกษาวิธีการเล่นของคนเก่ง ๆ เอาไว้
จนกระทั่งวันหนึ่งฮาคีม โอลาจูวอน ก็มีโอกาสได้ซ้อมกับผู้เล่นทีม ฮิวส์ตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ได้เข้ามาซ้อมในสนาม และ วันนั้นเขาก็ได้พบกับชายคนหนึ่งในสนามที่ทั้งแข็งแกร่ง และ เทคนิคนี้กว่าคนไหน ๆ จนทำให้เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจแบบสุด ๆ และหลังจากการซ้อมชุดใหญ่เสร็จเขาก็ตรงเข้าไปหาชายที่มีชื่อว่า โมเซส มาโลน
และแน่นอนว่าตัวของ มาโลน ตอบรับคำขอของ ฮาคีม โอลาจูวอน และยอมพี่เป็นพี่เลี้ยงให้กับเขา แต่ทว่าสิ่งที่เขาสอนกลับไม่ใช่เทคนิค หรือว่าการฝึกซ้อมสุดเข้มงวด แต่มันเป็นการใส่ทัศนคติต่าง ๆ ของการเป็นผู้ชนะในสนามใส่หัวของเจ้าเด็กวัยรุ่นคนนี้ และความใกล้ชิดสนิทสนมนี้เองที่ทำให้ทั้งทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนซี้ต่างวัย และ มาโลน ยังมีอิทธิพลต่อการเล่นของ ฮาคีม เป็นอย่างมาก จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวเข้าสู่ NBA ในปี 1984 ในฐานะดราฟอันดับ 1 โดยทีมที่ดราฟท์เขาไปก็ไม่ใช่คนอื่นไกล นั่นก็คือทีมอย่าง ฮิวส์ตัน ร็อคเก็ตส์
แต่มันก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่สุดท้ายแล้วตัวของ ฮาคีม โอลาจูวอน ไม่ได้มีเล่นพร้อมกับอาจารย์ของเขา เพราะว่าตัวของ มาโลน นั้นได้ย้ายไปอยู่กับ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส เสียก่อน แต่ถึงแบบนั้นเองตัวของ ฮาคีม ก็ตอบแทนความไว้ใจของทีมด้วยการช่วยไล่บดขยี้เหล่าคู่แข่ง พร้อมกับได้คู่หูคนใหม่อย่าง ราล์ฟ แซมพ์สัน ที่มีส่วนสูง 224 เซนติเมตร จนทำให้การประกบคู่กันของเขาทั้งคู่ ถูกเรีกยว่า “หอคอยคู่แห่ง NBA”
แต่ถึงว่าสถิติของเขานั้นตอนนั้นจะยอดเยี่ยมขนาดไหนก็ตามทีแต่มันก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ฮาคีม โอลาจูวอน คนนี้กลับไม่ได้ตำแหน่งผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยม เพราะว่าในตอนนั้นดาวรุ่งที่กำลังพุ่งแรงมาแบบสุด ๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะเขาคนนั้นคือ
ไมเคิล จอร์แดน
ซึ่งเพราะฟอร์มการเล่นร้องแรงจนหลาย ๆ คนอยากจะหยุดนี้เองที่ทำให้ ฮาคีม โอลาจูวอนมีช่วงเวลาอันแสนวิเศษเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดฟอร์มการเล่นของเขาก็พีคถึงขีดสุดในช่วงปี 90 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลากับที่อาจารย์ผู้สอนเขามาลงเล่นเป็นฤดูกาลสุดท้ายในระดับอาชีพด้วยวัยถึง 40 ปี
และนี่ก็คือเรื่องราวของนักบาสระดับตำนานอีกหนึ่งคนของวงการ NBA อย่าง ฮาคีม โอลาจูวอน ที่มีวันนี้เพราะพี่ให้อย่างแท้จริง dunkswin9