ได้เวลามาเรียนรู้กับอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ของทีมแกร่งใน NBA กันอีกครั้งและสำหรับครั้งนี้เราจะมาเล่าถึงเรื่องราวของอีกหนึ่งทีมดังที่มีเต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นตั้งแต่ช่วงเวลาที่พวกเขาได้ก่อนตั้งทีมขึ้นมาอย่าง Brooklyn Nets ซึ่งในครั้งที่แล้วเราได้เล่าไปถึงเรื่องราวของการพลิกวิกฤตจากที่ที่เป็นม้านอกสายตาของใครหลาย ๆ คน จนกลายมาเป็นหนึ่งในทีมที่หน้าจับตามองทีมหนึ่งของ NBA
จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ Brooklyn Nets ในช่วงเวลาสุดอาถรรพ์ในปี 2003 – 2010 ซึ่งจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นอันสุดร้อนแรงของพวกเขาเอาไว้ได้หรือไม่เราต้องมาตามลุ้นกันในบทความนี้
ส่วนสำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านความพยายามของพวกเขาตั้งแต่แรกเริ่ม เราแนะนำให้คุณย้อนกลับไปอ่านเนื้อหาในบทความเก่า ๆ ภายในเว็บไซต์ของเรากันก่อน ซึ่งคุณจะได้รู้ทันทีเลยว่า กว่าที่ Brooklyn Nets จะแข็งแกร่งเหมือนทุกวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ส่วนถ้าใครเคยอ่านกันไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะดูการระเบิดฟอร์มสุดเทพของทีมแกร่งอย่าง Brooklyn Nets กันต่อแล้ว
เหมืนอจะแผ่ว แต่ Brooklyn Nets ก็กลับมาได้

ฟอร์มแกร่งของ Brooklyn Nets ก็ไม่สามารถที่จะคงสภาพเอาไว้ได้ในนานเพราะในฤดูกาล 2003 – 2004 ฟอร์มของพวกเขาก็เริ่มไม่ค่อยดีนักจนทำให้ในที่สุดเฮดโค้ชอย่าง Byron Scott ถูกไล่ออก และทีมก็ได้ตั้งผู้ช่วยอย่าง Lawrence Frank ขึ้นมารับช่วงต่อในการทำทีม ซึ่งการมารับช่วงต่อของ Lawrence Frank นี้เองที่ได้กลับมาพลิกฟื้น Brooklyn Nets ให้กลับมาคืนฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง โดยพวกเขาสามารถทำสถิติเอาชนะต่อเนื่องได้ถึง 13 เกมรวด ส่งผลให้สามารถคว้าแชมป์ Division ได้ติดต่อกันเป็นหนที่สาม แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเมื่อพวกเขาเข้าไปสู่รอบ Playoff พวกเขาก็ต้องแพ้ให้กับทีมอย่าง Pistons ในรอบสอง แถมในนัดนั้นผู้เล่นคนสำคัญอย่าง Jason Kidd ยังได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและปิดเทอมยาวไปอีกด้วย
ต่อมาในปี 2004 Brooklyn Nets ได้มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมอีกครั้ง และครั้งนี้ผู้ที่เข้ามาเป็นเจ้าของก็คือ Bruce Ratner โดยเขาได้ทำการปล่อยผู้เล่นที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเวลาอย่าง Kerry Kittles
ไปให้กับ Clippers และได้ส่ง Kenyon Martin ไปให้ Nuggets
การจับคู่กันของ Kidd-Carter

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้พวกเขาเริ่มต้นในฤดูกาล 2004 – 2005 ได้ไม่ดีนัก เนื่องจากในช่วงที่ Jason Kidd บาดเจ็บอยู่นั้น ภาระทั้งหมดจะต้องมาตกอยู่ที่ Jefferson แทบทั้งหมด จึงทำให้ช่วงนั้นพวกเขานั้นทำสถิติได้สุดย่ำแย่นั่นก็คือ 2- 11 เท่านั้น แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เมื่อ Brooklyn Nets ได้ตัดสินใจสุดบ้าคลั่งนั่นก็คือ การเทรดผู้เล่นอย่าง Alonzo Mourning, Eric Williams, Aaron Williams ออกไป พร้อมด้วยการแถมสิทธิ์การ Draft ไปให้ทีมอย่าง Raptors โดยทั้งหมดนี้เพื่อแลกกับผู้เล่นอันดับ 1 ของทีมอย่าง Vince Carter เข้ามา
และการมาของ Carter นั้นส่งผลให้ Brooklyn Nets ได้เข้าสู่ยุค Big 3 นั่นก็คือการเล่นของ 3 ผสานอย่าง Kidd, Carter และ Jefferson แต่ก็น่าเสียดายที่ Big 3 ของทีมกลับเล่นร่วมกันได้ไม่นานนักเนื่องจากตัวของ Jefferson ดันเจ็บจนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ถึงอย่างไรก็ตามคู่หูอย่าง Kidd-Carter ก็สามารถพาทีมเข้าสู่รอบ Playoff ได้สำเร็จแต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องถูกทีมอย่าง Heat เขี่ยตกรอบแรกอยู่ดี
Big 3 ที่เกิดขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาในฤดูกาล 2005 – 2006 จริงเรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลแรกที่ Big 3 ได้โชว์ศักยภาพอย่างแท้จริง จนทำให้ Brooklyn Nets สามารถจบฤดูกาลปกติไปด้วยสถิติ 49 – 33 แถมยังมีสถิติพ่วงแถมมาด้วยนั่นก็คือการทำสถิติการชนะรวด 14 เกมติด รวมถึงยังคว้าแชมป์ Division เป็นหนที่ 4 ในรอบ 5 ปี แถมในครั้งนี้พวกเขายังสามารถผ่าน Playoff รอบแรกไปได้ด้วย แต่สุดท้ายในรอบที่ 2 เขาก็ต้องถูก Heat เจ้าเก่าเป็นฝ่ายที่ส่งพวกเขากลับบ้านอีกครั้ง
หลังจากนั้นในฤดูกาล 2006 – 2007 ตัวของผู้เล่นหลักอย่าง Jefferson ก็ถูกปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอีกครั้ง
ทำให้ต้องพักฟื้นยาวกว่าสองเดือนก่อนที่จะหายกลับมาช่วยทีมได้ในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้ในปีนั้นทีมจบด้วยสถิติ 41 – 41 แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังไปจอดป้ายแค่ Playoff รอบ 2 ตามเดิม
ต่อมาในฤดูกาล 2007 – 2008 Brooklyn Nets ก็เจอกับวิกฤตอีกครั้งเมื่อพวกเขานั้นฟอร์มเริ่มดรอปลง รวมถึงยังมีอาการบาดเจ็บของผู้เล่นรบกวนอยู่ตลอดเวลาทำให้ ในที่สุดทางฝ่ายบริหารของทีมก็ได้เทรดเอาผู้เล่นอย่าง Kidd ไปให้กับ Mavs เพื่อแลกกับผู้เล่น เงินสด และ สิทธิ์ในการดราฟต์ และนั่นเองก็ทำให้เส้นทางของคู่ดูโอ้อย่าง Kidd, Carter ต้องจบลง แถมในฤดูกาลนั้นทีมก็ยังไม่สามารถทะลุเข้าไปรอบ Playoff ได้อีกด้วย
ในที่สุดฤดูกาลสุดเลวร้ายก็มาถึง
ต่อจากนั้น Brooklyn Nets ก็เริ่มถ่ายผู้เล่นแกนหลักของทีมออกไปเรื่อย ๆ โดยในปี 2008 พวกเขาก็เทรดเอา Jefferson ไปให้กับ Bucks และได้เริ่มสร้างทีมที่มีผู้เล่นอายุน้อย ๆ เป็นแกนหลัก ต่อจากนั้นในปี 2009 ทีมก็ได้เทรดเอา Carter และ Ryan Anderson ไปให้กับ Magic ซึ่งการเทรดในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการล้างบางผู้เล่นยุค Big 3 ออกไปโดนปริยาย ซึ่งการตั้งใจจะสร้างทีมใหม่นี้เองที่ทำให้ในฤดูกาล 2009 -2010 นั้นกลายเป็นฤดูกาลสุดเลวร้ายของ Brooklyn Nets เพราะว่าพวกเขาออกสตาร์ทช่วงต้นฤดูกาลด้วยฟอร์มสุดย่ำแย่อย่าง 0 – 18 แถมในฤดูกาลนั้นพวกเขายังจบลงด้วยสถิติอย่าง 12 – 70 และทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ติด Top 5 ของทีมที่แพ้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีก NBA ไป และหลังจากนั้นในปี 2010 ทีมก็ได้ตัดสินใจย้ายฐานที่ตั้งของทีมไปสู่เมือง Brooklyn
แต่ผลงานสุดย่ำแย่นี่เองก็ทำให้ Brooklyn Nets ควรจะได้สิทธิ์ในการดราฟต์อันดับที่ 1 มาครอง ซึ่งพวกเขาก็เล็งดาวรุ่งสุดร้อนแรงอย่าง John Wall เอาไว้ แต่โชคชะตานั้นเล่นตลกเพราะเมื่อผลการจับฉลากสิทธิ์ดราฟต์ออกมา พวกกลับได้สิทธิ์ดราฟต์ในลำดับที่ 3 มันเลยทำให้ Brooklyn Nets จำเป็นที่จะต้องหาผู้เล่นที่สามารถสร้างผลงานให้ทีมได้ทันทีซึ่งแม้ว่าในช่วงนั้นพวกเขามีเงินมากพอที่จะดึงระดับ Top ของลีกอย่าง LeBron James, Dwayne Wade และ Chris Bosh เข้ามาสู่ทีมได้สบาย ๆ แต่ทว่าในปีนั้นกลับกลายเป็นช่วงที่ Heat กำลังให้กำเนิด Super Team อยู่จึงทำให้ผู้เล่นดังกล่าวทั้งหมดนั้นไปกองรวมกันอยู่ที่ Heats
แล้วแบบนี้ Brooklyn Nets ในช่วงเวลาสุดอาถรรพ์ในปี 2003 – 2010 จะได้รับการเปลี่ยนแปลงในปีต่อไปหรือไม่ เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟน ๆ ของทีมนี้คุณก็คอยติดตามเรื่องราวของพวกเขากันต่อในเว็บไซต์ของเรากันให้ดี รับรองว่าช่วงเวลานี้จะเต็มไปด้วยอะไรที่น่าสนใจเต็มไปหมดเลยอย่างแน่นอน