สำหรับการทำคะแนนของกีฬาบาสเก็ตบอล หลาย ๆ คนคงจะรู้ดีกันว่า การจะได้แต้มนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท โดยประเภทที่หนึ่งก็คือ การได้แต้มจากการยิงลูกจุดโทษจะได้ 1 คะแนน ประเภทที่ 2 ก็คือ การทำแต้มในเส้นกรอบทั้งหมดจะได้2 คะแนน และอย่างที่3 ซึ่งยากสุดนั่นก็คือ การทำแต้มจากเส้นนอกกรอบซึ่งจะได้ 3 คะแนน
และแน่นอนเพราะว่าการทำแต้มจากเส้น 3 คะแนนนั้นเป็นเรื่องอะไรที่ค่อนข้างยาก และ ต้องอาศัยความแม่นเป็นอย่างมาก จึงทำให้ผู้เล่นที่สามารถยิงลูกจากระยะเส้น 3 แต้มบ่อย ๆ นี้จะค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ และหนึ่งในผู้เล่นที่เราเชื่อว่า เขาคนนี้เป็นอีกหนึ่งราชาของการยิ่ง 3 แต้ม ที่ไม่ว่าใครต่างก็ยอมรับในฝีมือของเขานั่นก็คือ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ แห่ง
โกลเดน สเตท วอริเออร์ส
แต่แน่นอนว่ากีฬาบาสนั้นไม่ได้เล่นกันเพียงแค่คนเดียว แต่มันยังมีเพื่อนร่วมทีมที่คอยผลักดัน และ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในนักบาสอีกคนหนึ่งที่กลายเป็นแรงผลักดัน และ เป็นทั้งผู้สนับสนุนให้กับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ ในสนามนั่นก็คือ ชายผู้ที่มีนามว่า เดรย์มอนด์ กรีน
เดรย์มอนด์ กรีน นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักบาสผิวดำที่ค่อนข้างจะมีวาจาที่แข็งกร้าวดุดันตามธรรมเนียมของนักบาสทั่วไป โดยเขาคนนี้มันกจะสถบวาจาอันก้าวร้าวออกมาเป็นประจำ หรือถ้าจะให้เราเรียกพฤติกรรมเหล่านี้แบบเก๋ ๆ หน่อยนั่นก็คือการ
Trash Talk
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมการ Trash Talk ของนักบาสทั่วไปมันก็เหมือนกับเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่มันมีไว้เพื่อข่มขวัญคู่แข่ง และ ยังมีไว้รบกวนสมาธิ จึงทำพฤติกรรมเหล่านี้เองมันก็จำเป็นที่จะต้องมีการฝึกอยู่พอสมควร ทำให้โดยส่วนใหญ่แล้วนักบาสโดยทั่วไปจะถูกฝึกการพูดแบบ Trash Talk นี้ในช่วงบาสระดับมหาวิทยาลัย
แต่ทว่าสำหรับ เดรย์มอนด์ กรีน เขาล้ำกว่านั้นไปอีกขั้นเพราะเขาคนนี้ได้ฝึกการพูดสถบคำหยาบคายเหล่านี้ผ่านจาก เบนนี บาเบอส์ โค้ชบาสเก็ตบอลคนแรกของเขา และยังมีอีกหนึ่งบทบาทนั่นก็คือ ลุงแท้ ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คงช็อค เพราะมันกลับกลายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันที่สอนเรื่องที่ไม่ควรสอนให้กับเด็กวัยแค่นี้ แต่ทว่าสิ่งที่คุณลุงของเขาสอนนั้นมันมีเหตุผลอยู่ โดยทางคุณลุงนั้นได้ให้เหตุผลว่าเดรย์มอนด์ นั้นมีความหลงใหลในกีฬาบาสเก็ตบอลมาตั้งแต่เด็ก และ เขาก็ยังมีความุ่งมั่นมาก ๆ จนทำให้เขาไม่ยอมที่จะเดินออกจากสนาม แม้ว่าจะโดนเด็กที่มีอายุเยอะกว่า รวมถึงบรรดาเหล่าผู้ใหญ่ข่มขู่ และ ไล่ออกจากสนามก็ตามที
ซึ่งวิธีป้องกันตัวที่ดีที่สุดที่ทางคุณลุงเห็น และ คิดว่ามันจะสามารถทำให้เจ้าพวกตัวใหญ่แต่ใจปลาซิวเหล่านี้กลัวได้นั่นก็คือ การให้เจ้าเด็กน้อยคนนี้สถบคำหยาบคายสารพัดกลับไปนั่นเอง และแน่นอนว่าเมื่อเขาได้รับการขัดเกลาด้านวาจามาตั้งแต่เด็กนี้เองที่ทำให้เขาสามารถโชว์สกลิฝีปากของเขาได้อย่างจัดจ้าน
แต่ด้วยความจัดด้านการพูดหยาบที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าฝีมือเท่าไหร่นักนี้เองที่มันเกือบจะทำให้เขาไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยมิชิแกน เหมือนอย่างที่เขาตั้งใจไว้ เนื่องจากเขานั้นเคยถูกไล่ออกจากสนามจากการที่พูดไม่ยอมหยุดตลอดทั้งเกม อีกทั้งหลาย ๆ คนยังมองว่าเขาคนนี้มีทัศนคติที่ค่อนข้างย่ำแย่
แต่สิ่งที่มันได้พิสูจน์ว่าเขาคนนี้มันไม่ได้ดีแต่ปากนั่นก็คือ ผลงานในสนามของเขา เพราะว่า เดรย์มอน สามารถทำแต้มได้เฉลี่ยถึง 8.5 แต้ม และ 5.3 รีบาวด์ต่อเกมใน ทัวร์นาเมนต์ระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งผลงานระดับนี้นี่เองที่ทำให้ถึงเวลาที่เขาจะต้องก้าวเท้าเข้าสู่เกมบาสในระดับสูงขึ้นไปอีกขั้น นั่นก็คือ เกมในลีกบาสเก็ตบอล NBA นั่นเอง
โดยในปี 2012 เขาคนนี้ถูกดราฟเข้ามาเป็นลำดับที่ 35 ในรอบที่ 2 โดยทีมสังกัดในปัจจุบัน
ของเขาอย่าง โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาดูดราฟมาเป็นลำดับที่ 35 นั่นก็คือ ในช่วงมหาวิทยาลัยนั้นเขามีน้ำหนักที่เกินกว่าเกณฑ์มาตลอด 4 ปี แถมความสูงก็ยัง ไม่ถึง 200 เมตรซึ่งในลีกนั้นมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะเตี้ยเกินไป
แต่ถึงมันจะมีคำสบประมาทเขามากมายจากเรื่องนี้ก็ตามที่ เดรย์มอน ก็ไม่ได้สะทกสะท้านใด ๆ และได้เริ่มต้นเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์กับรรดาเหล่าเพื่อนร่วมทีมในทันที
และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้เล่นโรเตชั่นในฤดูกาลแรก แต่ด้วยความตั้งใจจริง และ ฝีมือของเขาก็ได้กลายเป็นที่ประจักษ์จนได้ เพราะเขาคนนี้สามารถยึดตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงมาได้ในฤดูกาล 2013 – 2014 พร้อมกับการทำงานเฉลี่ย 6.2 แต้ม และ ทำไป 5.0 รีบาวด์ต่อเกมเลยทีเดียว
แต่มันก็ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับในตัวเขาไปเสียหมด เพราะว่า รุ่นพี่ของเขาที่ค่อนข้างจะไม่พอใจกับพฤติกรรมของเจ้าเด็กสุดห่ามคนนี้นั่นก็คือ เจอร์เมน โอนีล รุ่นพี่ของเขาภายในทีม โดยทาง เจอร์เมน โอนีล ได้บอกว่าพฤติกรรมที่ชอบต่อว่าคนอื่นรวมถึงเพื่อนร่วมทีมนั่นเอง แต่ถึงแบบนั้นตัวของ โอนีล ก็ยังแสดงความเก๋าเกมด้วยการเตือน เดรย์มอน ตรง ๆ และทาง เดรย์มอน เองก็ยินดีน้อมรับคำสอนนี้ของรุ่นพี่ไว้เป็นอย่างดี
ซึ่งการปรับปรุงตัวในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้เขาเริ่มแบกความหวังของทีมเอาไว้บนบ่ามากขึ้น
จนกลายเป็นผู้ที่พาต้นสังกัดชนะรวดถึง 16 เกม แถมเขายังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองด้วยการทำคนเดียว 31 แต้มในเกมที่พบกับชิคาโก้ บูลส์
และในที่สุด โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่คว้าตำแหน่งแชมป์ NBA มาครองได้สำเร็จ ซึ่งในฤดูกาลนั้นตัวของ เดรย์มอน ได้มีโอกาสติด ผู้เล่นทีมออล-ดีเฟนซีฟ อีกด้วย แต่หากเรามองกัให้ลึก ๆ ลงไปแล้วสิ่งที่ได้มากกว่าคำว่าแชมป์นั่นก็คือ การเคารพจากบรรดาผู้คนรอบข้างของเขานั่นเอง
ซึ่งหลังจากคว้าแชมป์ในครั้งนั้น โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ก็ยังคงเดินหน้าโกยความสำเร็จเข้าสู่สโมสรอย่างไม่มีหยุด เพราะพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ NBA ได้ถึง 2 สมัยติดกันในฤดูกาล 2017 และ 2018 แถมการคว้าแชมป์ในปี 2018 ยังส่งผลให้
เดรย์มอน คว้ารางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมไปครองได้อีกด้วย
ซึ่งเพราะวาจาอันเกรี้ยวกราดที่กล้าวิจารณ์ผลงานของเพื่อนร่วมทีมแบบตรง ๆ รวมไปถึงการทำผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ฝีปากนี้เอง มันจึงทำให้เขากลายเป็นหนังในผู้ทรงอิทธิพลมาก ๆ ของทีม และ ในทุก ๆ คำพูดของเขาก็ยังสามารถที่จะสร้างแรงใจเป็นอย่างมากให้กับเพื่อนร่วมทีม จนทำให้เขาคนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งคนของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ที่สำคัญไม่แพ้ใครหน้าไหนเลยทีเดียว dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง