หนึ่งในกิจกรรมความบันเทิงของผู้ชายอย่างเรา ๆ เองนั้นก็มีหลายอย่างและแตกต่างกันไปตามความชื่นชอบของแต่ละคน ซึ่งแม้ว่าบางคนจะชื่นชอบการดูบาสมากแค่ไหนก็ตามบางทีการออกไปเล่นกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบดูนั้นก็ไม่ใช่ทางเลือกแรกเสมอไป และเมื่อการไปออกกำลังกายอย่างการเล่นบาสไม่ใช่ทางเลือกแรก อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถใช้ในการช่วยผ่อนคลายได้เช่นกันนั่นก็คือการรับชมความบันเทิงต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับบาส โดยเมื่อไม่นานมานี้ทาง สื่อสตรีมมิ่งชื่อดังก็ได้มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับบาสเข้ามาใหม่ โดยเรื่องนั้นมีชื่อเรื่องว่า HUSTLE
โดยภาพยนตร์เรื่อง HUSTLE นั้นถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ประเภทบาสเกตบอล
ที่ได้รวบรวมเอาบรรดาเหล่านักบาส NBA มาไว้ในเรื่องมากที่สุด รวมถึงยังมีการแข่งขันที่ดูตื่นเต้นเร้าใจ และ ค่อนข้างที่จะสมจริงเอามาก ๆ เลยทีเดียว แต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเบื้องหลังของภาพยนตร์ HUSTLE นี้มันเกิดขึ้นมาจาก 2 พรสวรรค์ ของคน 2 คนนั่นก็คือ เลบรอน เจมส์ และ อดัม แซนด์เลอร์
ซึ่งการเจอกันของทั้ง อดัม แซนด์เลอร์ และ เลบรอน เจมส์ นั้นเอาจริงมันก็ได้มีควาแปลกหรือน่าตกใจอะไรมากนัก เนื่องจากทั้ง 2 คนเองก็มีความดังอยู่ในระดับโลก แต่สิ่งที่มันน่าสนใจกว่านั่นก็เรื่องราวความหลังของทั้งสองคนที่มันได้ผสมผสานกันจนเกิดภาพยนตร์เรื่อง HUSTLE นี้ขึ้นมานั่นเองแหละ
โดยก่อนหน้าที่จะมีเรื่อง HUSTLE นั้นเราต้องยอมรับกันว่าตัวของ อดัม แซนด์เลอร์
นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ค่อนข้างจะมีฝีมือด้านการแสดงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แถมเขาคนนี้ยังเคยให้สัมภาษณ์อีกด้วยว่าเขานั้นชอบเล่นบาสเกตบอลมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขาได้เล่นกับชุมชนชาวยิวที่เขาอาศัยอยู่ และเพราะการซ้อมบาสทุกวันนี้เองที่ทำให้ แซนด์เลอร์ กลายเป็นตัวแทนระดับมัธยม แต่ถึงแม้ว่าตัวของ แซนด์เลอร์ จะมีทักษะทีดี แต่เขากลับมีจุดอ่อนอันสำคัญนั่นก็คือ ความเชื่องช้า ซึ่งเขาพยายามพัฒนามันแล้วพัฒนามักอีก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถที่จะก้าวข้ามกำแพงนั้นได้
แต่ระหว่างที่เขากำลังพยายามก้าวข้ามกำแพงนั้น เขาก็ได้พบกับอีกหนึ่งพรสวรรค์ของเขานั่นก็คือการสร้างเสียงฮา โดยตัวของ อดัม แซนด์เบอร์ ได้กลายเป็นตัวโจ๊กของโรงเรียนในด้านการแสดงออก รวมถึงคำพูดของเขาที่สามารถเรียกเสียงฮากันได้แบบต่อเนื่องเป็นชุดจนทำให้ครอบครัวของเขาเริ่มผลักดันด้านนี้ และ ทำให้ตัวของ แซนเลอร์ ได้เข้าเรียนด้านการแสดงที่ Lee Strasberg Theatre & Film Institute หลังจากจบมัธยมปลาย และหลังจากเรียนจบเขาก้สร้างผลงานต่าง ๆ มากมายในฐานะนักแสดงภาพตร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วผลงานที่เขาสร้างชื่อไว้ในวงการ Hollywood จะไม่ใช่หนังดราม่าเข้มข้นเหมือนดังเรื่อง HUSTLE ที่เราเห็นกันอยู่ในตอนนี้
ซึ่งหลังจากที่ตัวของ แซนด์เลอร์ สร้างสรรค์คผลงานฮา ๆ ออกมาให้เหล่าแฟน ๆ
ได้หัวเรากันอย่างไม่เคยขาด เมื่อายุมากขึ้นเขาก็เริ่มที่ผันตัวมาอยู่เบื้องหลังมากขึ้น และการมาอยู่เบื้องหลังนี้เองที่ทำให้เขาเริ่มคิดถึงสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักแสดงนั่นก็คือ บาสเกตบอล ซึ่งแม้ว่าตัวของ แซนด์เลอร์ จะทิ้งความฝันในการเล่นบาสของเขาไป แต่เขาคนนี้ก็ยงัคงติดตามข่าวสารของวงการบาส NBA มาโดนตลอด โดยเราจะเห็นได้จากหลาย ๆ ครั้งที่เขาได้เข้าไปชมเกมในสนาม และ เมื่อเขาคนนี้ได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับ Netflix เป็นจำนวน 3 เรื่องด้วยค่าตัวกว่า 350 ล้านดอลล่าร์ แซนเลอร์จึงเอาความตั้งใจในสมัยอดีตของเขา ที่อยากจะนำเสนอเกี่ยวกับบาสเกตบอล NBA ออกมาสร้างเป็นหนังเรื่อง HUSTLE
แต่ปัญหาในการจะสร้างเรื่องให้ HUSTLE สมจริงได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าตัวแซนเลอร์เองก็ต้องวการคอนเน็กชั่นเป็นอย่างมาสำหรับการเอาบรรดาเหล่าตัวจริงในสนาม NBA มาลงจอ เนื่องจากเขานั้นค่อนข้างที่จะมีงบประมาณจำกัดนั่นเอง
โดยทุนในการสร้างของ HUSTLE นั้นมีเพียงแค่ประมาณ 21 ล้านเท่านั้น จึงทำให้มันแทบไม่มีโอกาสเลยที่จะดึงเอาเหล่าสตาร์ NBA ระดับหัวแถว รวมถึงผู้เล่นในตำนานอีกหลาย ๆ คนมาลงจอได้ แซนเลอร์จึงต้องคิดหาวิธีการในการใช้คอนเนคชั่นของใครสักคนที่มีอิทธิพลมากกพอ รวมถึงใคร ๆ ก็อยากจะร่วมงาน และ คนที่สามารถตอบโจทย์ของ แซนเลอร์ ได้ดีที่สุดในครั้งนี้ก็คือ ชายที่ชื่อว่า เลบรอน เจมส์
โดยถ้าจะให้เทียบความคล้ายระหว่าตัวของ แซนด์เลอร์ และ เลบรอน นั้นมันก็คือืพวกเขานั้นเก่งในสิ่งที่เขารู้ว่าตัวเองชำนาญ แต่พวกเขาเองก็มีความฝันอีกแบบนอกจากที่ตัวเองชำนาญ และ พวกเขาก็ยังไม่เคยที่จะไปตามฝันอีกทางได้สำเร็จสักที โดยตัวของแซนเลอร์เองก็มีควาฝันที่จะเป็นนักบาสแต่ก็ทำได้ไม่ดีพอ ส่วนทางด้าน เลบอรน เจมส์ เองก็มีความฝันที่อยากจะก้าวข้ามจากเป็นนักกีฬาไปเป็นคนในวงการ Hollywood แต่ทว่าทุกครั้งที่เขาก้าวผ่านไป เขาก็ได้รับกระแสวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีกลับมาเสมอ ดังนั้นการพบเจอกันของ อดัม แซนเลอร์ และ เลบอรน เจมส์ ในหนังเรื่อง HUSTLE นั้นจึงถึงได้ว่าเป็นการพบกันของชาย 2 คนที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายกัน และ ส่งผลให้มันค่อย ๆ หลอมรวมจนออกมาเป็นหนังเรื่อง HUSTLE ได้อย่างลงตัว
แต่ว่าเส้นทางของภาพยนตร์ HUSTLE ที่เรากล่าวถึงนั้นมันเป็นเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ซิ่งเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปเอาไว้เดี๋ยวเรามาติดตามกันต่อใน บทความหน้า dunkswin9