Klay Thompson กับตำแหน่งนี้มันไม่ได้จริง 

Klay Thompson กับตำแหน่งนี้มันไม่ได้จริง 

หนึ่งในสิ่งที่ทีมกีฬาระดับมืออาชีพมักจะมีแบ่งแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนมากกว่าการเล่นกีฬาแบบเล่นเพื่อเอาสนุกนั่นก็คือตำแหน่งต่าง ๆ ขอตัวผู้เล่น ซึ่งตำแหน่งในการเล่นเหล่านี้มันจะเป็นการบ่งบอกถึงบทบาทของตัวผู้เล่นในเกมนั้นว่าพวกเขาจำเป็นที่ต้องเน้นไปที่รูปแบบการเล่นแบบไหน แต่ทว่ามันก็มีอยู่หลายครั้งที่เรามักจะเห็นว่าทีมมักจะดันเอาผู้เล่นตำแหน่งอื่นมาเสียบตำแหน่งของผู้เล่นเดิม โดยประโยชน์ของการเปลี่ยนตำแหน่งนี้ก็มีค่อนข้างหลากหลาย แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่มีแต่ผลดีอย่างเดียว เพราะมันอาจมีผลเสียตามมาเช่นกัน และหนึ่งในการเปลี่ยนตำแหน่งที่ตอนนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากนั่นก็คือการเปลี่ยนตำแหน่งของเคลย์ ทอมป์สัน  และนั่นเองจึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ Klay Thompson กับตำแหน่งนี้มันไม่ได้จริง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า

การเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างนำไปสู่การเปลี่ยนตำแหน่ง

การเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างนำไปสู่การเปลี่ยนตำแหน่ง

หนึ่งในการเสริมทัพของวอร์ริเออร์ที่ถือได้ว่าเป็นที่ฮือฮาและน่าจับตามองเป็นอย่างมากในฤดูกาล 2023 – 2024 นั่นก็คือการดึงเอาผู้เล่นอย่างคริส พอลเข้ามาร่วมทีม แต่ทว่าการมาของผู้เล่นรายนี้ก็มาพร้อมกับอาการบาดเจ็บของสุดยอดแนวรับของทีมอย่างเดรย์มอนด์ กรีนที่เกิดปัญหาอาการเจ็บข้อเท้าจนทำให้ต้องพักยาวไปแบบเต็ม ๆ 1 เดือน 

และนั่นเองจึงกลายเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้โค้ชของทีมอย่างสตีฟ เคอรร์ ตัดสินใจปรับระบบการเล่นใหม่โดยอันดับแรกนั่นก็คือการเอา คริส พอล ที่เพิ่งเทรดมายืนในตำแหน่งตัวจริง ซึ่งอันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร แต่ที่มันแปลกมาก ๆ นั่นก็คือการที่เขาประกาศว่าจะเอาเคลย์ ทอมป์สัน มายืนในตำแหน่งที่ 4 หรือแทนตำแหน่งของ กรีน นั่นแหละ

แล้วทำไมตำแหน่งนี้ถึงไม่เหมาะกับ Klay ThompsonKlay Thompson sets career high in 3-pointers in 1st full season since  2-year injury layoff

คือเอาจริง ๆ แล้วตั้งแต่ตัวของทอมป์สันเข้ามาสู่ลีก NBA ตำแหน่งที่เขาได้รับบทบาทมักจะวนเวียนอยู่ที่ตำแหน่ง 2 และ 3 โดยทั้งชีวิตการเล่นของเขาก่อนหน้านี้เคยลงเล่นในตำแหน่ง 4 ยังไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำ แต่ถึงแบบนั้นตัวของสตีฟ เคอร์ก็ยังประกาศกร้าวว่ายังไงก็ตามเขาจะส่งผู้เล่นรายนี้ลงตำแหน่ง 4 เพื่อชดเชยการไม่มีกรีนอยู่ในสนามอย่างแน่นอน

โดยเหตุผลที่เคอร์มั่นใจแบบนั้นก็เพราะว่า เขาเคยเห็นตัวของทอมป์สันเล่นเกมรับกับผู้เล่นที่สามารถโพสต์อัพได้มาก่อน และนั่นเองจึงทำให้เขาปิ๊งไอเดียว่าน่าจะลองส่งเคลย์ ทอมป์สันคนนี้มาเล่นเป็นตัวคุมในจังหวะพิคแอนด์โรล ซึ่งทั้งหมดนี้มันถือว่าแตกต่างจากตำแหน่งเดิมของเขาไปอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว

บางครั้งความมั่นใจผิด ๆ ก็กลายเป็นเรื่องแย่

บางครั้งความมั่นใจผิด ๆ ก็กลายเป็นเรื่องแย่

แม้ว่าเคอร์จะเป็นเฮด โค้ชที่มีฝีมือการคุมทีมร้ายกาจขนาดไหน มันก็ใช่ว่าเขาคนนี้จะไม่เคยพลาด และไอ้การจับเคลย์ ทอมป์สัน เปลี่ยนตำแหน่งนี้เองก็กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เขาทำพลาดเช่นกัน เพราะว่าหลังจากที่เขาได้ทดลองเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นรายนี้ตั้งแต่เกมปรีซีซั่น ตัวของทอมป์สันที่เล่นในตำแหน่ง 4 ก็ไม่สามารถทำได้ดีนัก โดยเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวอร์ริเออร์สถูกเจาะถลุงวงในอย่างกระจุยกระจาย 

นั่นก็เพราะว่าร่างกายของทอมป์สันมีขนาดเล็กเกินไป มันจึงทำให้เขาค่อนข้างที่จะเสียเปรียบหากเมื่อไหร่ก็ตามต้องเจอกับผู้เล่นร่างยักษ์ แต่เกมรับแบบดวล 1 ต่อ 1 ยังไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดเมื่อทอมป์สันถูกโยกมาเล่นตำแหน่งนี้ เพราะว่าการซ้อนวงในก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ตามมาเช่นกัน โดยตัวขอทอมป์สันที่ไม่ได้มีส่วนสูงอะไรขนาดนั้น

ไม่สามารถกระโดดบล็อกในจังหวะสำคัญ ๆ ได้เลย โดยในช่วงปรีซีซั่นค่าเฉลี่ยของเขาถูกแสดงออกมาเป็นตัวเลขเพียงแค่ 0.5 ครั้งเท่านั้น ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเถียงว่าสถิติการบล็อกของทอมป์สันเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ไม่น่าเกลียดเพราะเขาสามารถทำได้มากถึง 29 ครั้ง แต่ถ้าหากเรามาดูกันจริง ๆ สถิติ 29 ที่ทอมป์สันทำเอาไว้ได้นั่นก็คือการบล็อกลูกจากมือ ไม่ใช่การพุ่งขึ้นไปกระโดดบล็อกลูกยิงเลย นอกจากนั้นแล้วสถิติต่าง ๆ ยังบ่งชี้ไปอีกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวของเคลย์ ทอมป์สัน เป็นตัวประกบหลัก ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามนั้นสามารถขึ้นยิงในระยะ 6 ฟุตจากห่วงได้แบบสบาย ๆ ถึง 4.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสถิตินี้เองที่ส่งให้ตัวเคลย์กลายเป็นตัวรับสุดห่วยและจมบ๊วยอยู่อันดับท้าย ๆ ของลีกเลยทีเดียว

การรีบาวด์ก็ยังไม่ดีพอ

การรีบาวด์ก็ยังไม่ดีพอ

อีกหนึ่งในความสำคัญในเกมรับนั่นก็คือการรีบาวด์ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วเขาก็สามารถทำผลงานในส่วนนี้ออกมาได้ไม่แย่เท่าไหร่นัก เพราะเขาสามารถทำค่าเฉลี่ยได้มากถึง 3.1 ครั้งต่อเกม ซึ่งเหตุผลนี้อาจจะทำให้แฟน ๆ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่เมื่อกางสถิติเหล่านั้นมาดูแล้วแฟน ๆ ก็ต้องกุมขมับกลับไปอีกครั้ง เพราะการรีบาวด์ที่เกิดขึ้นของทอมป์สัน มันคือการที่ลูกบอลกระเด้งเข้ามาหาเขา โดยที่เขาไม่ได้กระโดดขึ้นแย่งกับคนอื่น และนั่นเองจึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่องโหว่สำคัญ

พอเราเล่ามาถึงตรงนี้บรรดาเหล่าแฟน ๆ วอร์ริเออร์หลายคนน่าจะแทบทรุดลงกับพื้นร้องไห้เพื่อภาวนาให้กรีนกลับมากันโดยเร็วแล้วใช่ไหมล่ะ แต่เอาจริง ๆ แล้วการที่ตัวของเคลย์ ทอมป์สันโดนมาเล่นตำแหน่งที่ 4 นี้ก็ยังมีผลดีอยู่บ้าง เพราะมันจะทำให้ผู้เล่นคนอื่นอย่างลูนีย์มีอิสระและสามารถที่จะใช้สปีดของเขาในการบุกตะลุยเข้าไปได้ง่ายขึ้น

และนี่ก็คือเรื่องราวของ Klay Thompson กับตำแหน่งนี้มันไม่ได้จริง ที่เราได้เอาฝากทุก ๆ คน ซึ่งเราเชื่อว่าหลังจากการได้เห็นตัวของเคลย์ ทอมป์สันเล่นแล้วหลาย ๆ คนก็คงได้แต่ภาวนาให้กรีนหายเจ็บกลับมาโดยเร็วที่สุด

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG

Tag
3 พื้นฐานในการเริ่มเล่นบาสเกตบอล (1) 10 อันดับ รองเท้าบาสเกตบอล (1) Blake Griffin (1) Cameron Payne (1) Chris Paul (1) Deandre Ayton (1) DeMarcus Cousins (1) Devin Booker (1) Dirk Nowitzki (1) Dwyane Wade (1) Giannis Antetokounmpo (1) Gordon Hayward (1) Jae Crowder (1) James Harden (1) Kevin Durant (1) Kevin Garnett (1) Kyrie Irving (1) Lebron James (2) NBA FINAL 2021 (1) Rajon Rondo (1) Space Jam 2 (1) Stephen Curry (1) Steve Nash (1) Tim Duncan (1) Tracy McGrady (1) กติกาพื้นฐานสำหรับกีฬาบาสเกตบอล (1) การเลือกซื้อลูกบาส (1) ขนาดของสนามบาสเกตบอลและแป้นบาส (1) ข่าวบาสเก็ตบอล (137) คนที่เก่งที่สุดใน NBA (1) ความสำคัญของถุงเท้า (1) ทีมพลังหนุ่มที่พร้อมชนทุกทีมใน NBA Season 2021-2022 (1) นักบาส NBA ที่มีการ ปันน้ำใจกลับสู่สังคม (1) ประวัติของรองเท้าบาส (1) ประวัตินักกีฬาบาสเกตบอล (120) ราคาเสื้อบาสของแท้ (1) ราชาแห่งการ DUNK (1) รายได้ของนักกีฬา NBA ในปี 2022 (1) วิธีการฝึกร่างกายเพื่อเป็นนักกีฬา (1) วิธีเลือกซื้อรองเท้าบาสเกตบอล (1) ส่อแววล่ม!! วิบากกรรมของ LA Lakers ในยุคบิ๊กทรี (1) อัลเลน ไอเวอร์สัน (1) แบบฝึกการป้องกัน (1) ได้เวลาคืนความสุข !! กระทิงดุกลับมาแล้ว (1) ไม่ใช่แค่ 1 แต่ถึง 8 กับความพยายามสู่แชมป์ของ เอลกิน เบย์เลอร์ (2)