แต่ถึงอย่างนั้นในโลกนี้ก็ยังมีนักกีฬาบางประเภทเหมือนกันที่ยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อทีม ในบาสเก็ตบอลเราเรียกนักกีฬาประเภทนี้ว่า “SIXTHMAN” ผู้เล่นหมายเลข 6 ผู้ผลิกกระแสเกม และนี่คือสุดยอดผู้เล่นที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จ Manu Ginobili
“ในทุกการแข่งขันไม่มีนักกีฬาคนไหนอยากลงเล่นเป็นตัวสำรอง”
เพราะนอกจากจะได้ลงเล่นในจำนวนนาทีที่น้อย มันยังไม่โดดเด่นเหมือนกับผู้เล่นตัวจริงอีกต่างหาก
Manu Ginobili คือผู้เล่นที่แฟนบาสทั่วทั้งโลกรักมากที่สุดคนหนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร San Antonio Spurs และถูกยกให้เป็นผู้เล่นต่างชาติที่ดีที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ NBA เคยมีมาอีกด้วย
Manu Ginobili เป็นชาวอาเจนติน่าที่ถูก San Antonio Spurs ดราฟท์เข้ามาในรอบ 2 ในอันดับที่ 57 โดยในช่วงแรกที่ถูกดราฟท์ Manu Ginobili ยังไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าร่วมเล่นกับทีมในทันที เขาถูกปล่อยตัวให้เล่นในลีกส์ของอิตาลีเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปสักพักในยุโรปไปก่อนโดยมีทีมงานสตาร์ฟโค้ชของ San Antonio Spurs คอยช่วยเหลือและส่งรายงานไปให้โค้ช Greg Popovic และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม โค้ช Pop ก็เลยได้เชิญให้ Manu Ginobili มาร่วมเล่นให้กับทีมของเขา
Tim Duncan ตำนานของลีกส์และเป็นผู้เล่นในชุดบิ๊กทรีของ San Antonio Spurs ได้ออกมาเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ในตอนที่เจอกับ Manu Ginobili ครั้งแรกว่า
“ในช่วงแรกที่เขามาอยู่กับทีมโค้ช Pop ไม่ค่อยชอบสไตล์การเล่นส่วนตัวของเขาที่มันหวือหวาที่มันอาจจะทำให้ทีมเสีย Turnover เท่าไหร่ โค้ช Pop ก็เลยเรียก Manu เข้าไปในห้องเพื่อปรับทัศนคติแต่คุยไปคุยมาสุดท้ายโค้ช Pop ก็ยอมใจอ่อนแล้วบอกกับ Manu Ginobili ว่าเดี๋ยวพอจบฤดูกาลเราจะมาดูสถิติกันถ้าวิธีการเล่นของนายมันเวิร์คตัวโค้ช Pop ก็จะยอมปล่อยให้เขาได้เล่นในแบบที่เขาต้องการ แต่ถ้าไม่ Manu Ginobili จะต้องเล่นตามแผนที่เขาวางไว้ ถ้าถามผมผมว่าเขาค่อนข้างห้าวเลยทีเดียวนะ
แต่สุดท้ายก็อย่างที่เราเห็นกันคือวิธีการเล่นของเขามันเวิร์คและเขาก็สามารถพา Spurs คว้าแชมป์มาได้ในฤดูกาล 2003 , 2004 ได้สำเร็จ และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับออลสตาร์ของลีกส์อีกด้วย”
หลังจากนั้นในฤดูกาล 2006-2007 ในช่วงที่ Spurs กำลังขับเคี่ยวแชมป์อยู่นั้น ผู้เล่นชุดสำรองของทีมกลับทำผลงานได้ไม่ดีนักทำให้เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เล่นตัวหลักของทีมอย่าง Tim Duncan, Manu Ginobili และ Tony Parker ออกไปพักผลงานของทีมจะแย่มากๆทำให้หัวหน้าโค้ชของทีมอย่าง โค้ชป๊อปต้องหาทางจัดการกับเรื่องนี้แล้วเขาก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าอยากจะให้ Manu Ginobili เป็นผู้นำของทัพสำรอง แต่ติดอยู่หนึ่งอย่างนั่นก็คือ Manu Ginobili เป็นถึงผู้เล่นในระดับ All-Star การที่จะบอกให้เขายอมลดบทบาทมาเล่นเป็นตัวสำรองมันอาจจะทำให้ San Antonio Spurs เสียเขาไปให้กับทีมอื่นในลีกส์ก็เป็นได้
หลังจากคิดไม่ตกอยู่นานโค้ช Greg Popovic ก็เลยขอให้ทางทีมจัดประชุมลับภายในทีมครั้งใหญ่ ผู้เล่นภายในทีม สตาร์ฟโค้ช บอร์ดบริหารมากันครบ เพื่อพูดคุยเรื่องการที่จะขอให้ Manu Ginobili ผู้เล่นระดับ All-Star คนหนึ่งของลีกส์ ณ.เวลานั้นยอมลดบทบาทของตัวเองลงเพื่อให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้น โดย Tim Duncan เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า
“ทุกคนในห้องเงียบสนิท สถานการณ์มันดูตรึงเครียดไปหมด เขาได้ยินเสียงถอนหายใจ แล้วก็เสียงการสนทนาของเหล่าบอร์ดบริหารว่าจะเอายังไงดีถ้า Manu Ginobili ไม่พอใจแล้วขอย้ายทีมไปพวกเขาจะหาใครมาแทนที่เขาดี บทสนทนานี้วนซ้ำๆอยู่ประมาณ 5-10 นาที และเมื่อ Manu Ginobil เดินเข้ามาในห้องและทักทายกับพวกเขาเสร็จ บรรยากาศภายในห้องก็ยิ่งเงียบและตึงเครียดขึ้นมาอีก หลังจากนั้นบอร์ดบริหารของทีมก็ได้พูดกับ Manu Ginobil ว่าพวกเขามีเรื่องสำคัญมากๆที่อยากจะคุยด้วย โดยทางทีมจะมอบหน้าที่นี้ให้กับโค้ช Greg Popovic เป็นคนอธิบายสถานการณ์ภายในทีมให้ฟัง แล้วโค้ช Pop ก็ได้เล่าสถานการณ์ของทีมให้ฟังว่าเขาอยากจะให้ Manu Ginobili ลงเล่นเพื่อเป็นผู้นำทีมของทัพสำรอง แต่ถ้านายอยากเป็นตัวจริงและไม่อยากลงเล่นในฐานะตัวสำรองของทีม พวกเราก็เคารพในการตัดสินใจของนายแล้วเดี๋ยวทางทีมจะคิดหาวิธีแก้ไขปัญาหานี้เอง นายไม่ต้องกังวลถ้านายไม่อยากเล่นเป็นตัวสำรองก็ไม่เป็น” Tim Duncan ก็ได้เล่าต่อว่า
“หลังจากที่โค้ช Pop อธิบายสถานการณ์ของทีมให้ Manu Ginobili ฟังจบ สีหน้าของโค้ช Pop คือเครียดมากแต่สิ่งที่ Manu Ginobili ทำคือจิบน้ำในแก้ว 1 ครั้งก่อนที่จะบอกกับทุกคนในห้องว่า โอเค ได้เลยครับว่าแต่พวกคุณจัดประชุมอะไรกันซะใหญ่โตเชียว มีเรื่องใหญ่อะไรอย่างนั้นหรอ”
Tim Duncan บอกต่อว่าทันทีที่เขาได้ยินสิ่งที่ Manu Ginobili พูดเขาถึงกลับหัวเราะในทันที ส่วนตัวของโค้ช Popovic ที่เครียดกับเรื่องนี้มาเกือบครึ่งฤดูกาลก็ทำหน้าโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกได้สำเร็จ” และหลังจากที่ Manu Ginobili ยอมบทบาทจากผู้เล่นตัวจริงมาเป็นผู้นำทัพสำรองพวกเขาก็มีผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนที่โค้ชป๊อปได้บอกกับเขาในการประชุมในครั้งนั้น และสามารถพา Spurs คว้าแชมป์ในปี 2007 และ 2014 ในเวลาต่อมาได้สำเร็จ เป็นการคว้าแชมป์ 4 สมัยในรอบ 9 ปีได้สำเร็จ
โดยในภายหลังได้มีผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์เขาในเรื่องนี้ว่าทำไมตัวเขาถึงยอมที่จะลดบทบาทของตัวเองลงเพราะการที่เขาทำแบบนั้นมันก็เท่ากับเขาจะพลาดรางวัลส่วนตัวเช่น การติดทีม NBA All-Star หรือรายได้มูลค่ามหาศาลจากแบรนด์สินค้าต่างๆนอกสนามคำตอบของ Manu Ginobili ที่ตอบนักข่าวก็คือ
“ผมไม่สนใจเรื่องของการมีชื่อเสียงหรือรางวัลส่วนตัวอะไรหรอก สิ่งเดียวที่ผมแคร์ก็คือทำยังไงทีมถึงจะได้รับชัยชนะ ถ้าทีมของพวกเราชนะทุกๆคนในทีมก็จะมีความสุข แล้วอีกอย่างนึงโค้ช Pop เป็นคนที่พาผมมาที่นี่ (หมายถึงเลือกเขาเข้ามาเล่นใน NBA) ถ้าโค้ชบอกว่าผมเหมาะที่จะทำอะไร หรือผมสามารถช่วยทีมให้ดีขึ้นได้ยังไงผมก็พร้อมที่จะทำ”
และนี่คือรางวัลส่วนตัวของ Manu Ginobili ที่สามารถคว้าร่วมกับ San Antonio Spurs สุดยอดทีมในยุค 2000 ก่อนที่เขาจะรีไทน์
- แชมป์ NBA 4 สมัยในปี 2003 2005 2007 และในปี 2014
- ติดทีม NBA All-Star อีก 2 สมัยในปี 2005 และ 2011
- และรางวัลผู้เล่น SIXTH MAN OF THE YEAR ในปี 2008
เครดิตภาพ dunkswin9