อย่างที่เราเคยเสนอไปในหลาย ๆ บทความแล้วว่า ในปัจจุบันนั้นเรื่องราวของแฟชั่น และ รองเท้าบาส นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ค่อนข้างจะมีทับซ้อนกันอยู่เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะว่าในปัจจุบันเราก็มันจะเห็นรองเท้าบาสในหลาย ๆ รุ่นยกตัวอย่างเช่น NIKE AIR FORCE 1 ที่ค่อนข้างจะมีลวดลาย และ สีสันอันสวยงาม จนทำให้ทุก ๆ คนมักจะหยิบมันออกไปสวมใส่อยู่เป็นประจำ
ซึ่งหนึ่งในรองเท้าบาสระดับตำนานที่หลาย ๆ คนต่างก็ต้องพูดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นรองเท้ายอดฮิต
อย่าง Nike Air Jordan อย่างแน่นอน แต่ทว่ารองเท้าระดับที่สร้างตำนานให้กับแบรนด์ใหญ่อย่าง Nike เองก็ไม่ได้มีเพียงแค่ Air Jordan เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น มันยังมีอีก เพราะว่ายังมีอีกหลายรุ่นที่ได้สร้างตำนานให้กับ Nike โดยเฉพาะรุ่นที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็รู้จักมันดีอย่าง Nike Air Force 1
แต่ทว่าคุณเชื่อหรือไม่ว่ารองเท้ารุ่นแสนอมตะอย่าง Nike Air Force 1 นั้น มันเกือบที่จะไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนดังเช่นปัจจุบันนี้แล้ว ซึ่งเหตุผลที่เกือบจะทำให้มันไม่ประสบผลสำเร็จนั้นคืออะไร เราไปเริ่มย้อมชนเรื่องราวของรองเท้าสุดอมตะคู่นี้กันเลยดีกว่า
ก่อนที่จะเริ่มต้นเรื่องราวของรองเท้าบาส Nike Air Force 1 เราต้องขอย้อนไปถึงเรื่องราวของช่วงต้นยุคของปี 80 กันก่อน ซึ่งในตอนนั้นวงการบาสเกตบอลนั้น ได้ถูกถือครองสิทธิ์อันเด็ดของโดยแบรนด์ชั้นนำอย่าง Converse ซึ่งทาง Nike เองตอนนั้นก็พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งของตลาดรองเท้าบาสนี้ให้ได้ จนทำให้พวกเขาเริ่มคิดค้นนวัตกรรมเด็ดที่เรียกว่า Air หรือ การแทรกถุงลมไว้ในรองเท้า เพื่อลดแรงกระแทกของผู้สวมใส่ รวมถึงยังเพิ่มความยืนหยุ่นของรวมเท่า เพื่อทำให้คนสวมเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วมากจึ้น
แต่ทว่าในตอนนั้นเทคโนโลยี อย่างง Air ที่ตั้งเป้าจะใส่เข้าไปใน Nike Air Force 1
นั้นถูกจำกัดวงไว้ใช้กับรองเท้าวิ่งอย่าง Nike Air Tailwind เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ Nike จะเข้าสู่การแข่งขันในตลาดรองเท้าบาส พวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะเอานวัตกรรมนี้เข้ามาใส่กับรองเท้าบาสเกตบอลที่เตรียมแผนจะวางจำหน่ายในปี 1982 โดยเขาได้เลือกดีไซน์เอร์อย่าง บรูซ คิลกอร์ มาเป็นผู้ให้กำเนิดรองเท้ารุ่นนี้
แต่ทว่าจริง ๆ แล้วตัวของ บรูซ คิลกอร์ เริ่มต้นชีวิตของนักออกแบบด้วยการออกแบบคอร์ตเทนิสซะเป็นส่วนใหญ่ มันเลยทำให้โจทย์การสร้าง Nike Air Force 1 ที่ได้รับมานี้ค่อนข้างที่จะสร้างความลำบากใจให้เขามากเลยจริง ๆ โดยสิ่งแรกที่เขาเริ่มทำเลยนั่นก็คือ การพาตัวเองเข้าไปรู้จักกับกีฬาอย่างบาสเก็ตบอลให้มากขึ้น โดยเขาได้ไปปรึกษากับคนใกล้ตัวที่มีความใกล้ชิดกับกีฬาบ่า รวมถึงยังมีการแลกเปลี่ยความคิดเห็นกับเหล่านักบาสในระดับมหาวิทยาลัย
โดยตอนนั้นรองเท้าวิ่งของ Nike ส่วนใหญ่จะมีสีดำ หรือ สีที่ฉูดฉาด
มันจึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะสร้างรองเท้าของเขาให้มีความแตกต่างนั่นก็คือ การออกแบบรองเท้าให้มีสีขาวล้วนทั้งหมด ยกเว้นโลโก้ของ Nike ที่เปลี่ยนเป็นสีสันอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแตกต่าง ส่วนทางด้านพื้นรองเท้าเขาได้ตัดสินใจออกแบบให้มันมีลักษณะเหมือนกับรองเท้าวิ่งแทน ส่วนชื่อของรองเท้า Nike Air Force 1 เป็นการตั้งชื่อให้ล้อไปกับเครื่องบินส่วนตัวของประธานธิบดีอเมริกา
หลังจาก Nike Air Force 1 ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1982 รองเท้ารุ่นนี้ก็กลายเป็นรองเท้ารุ่นยอดนิยม แต่ทว่ามันกลับไม่ได้นิยมเพราะเรื่องของดีไซน์ แต่มันกลับนิยมเพราะนวัตกรรม Air ที่ถูกใส่มาในรองเท้านั่นเอง แถมในตอนนั้นรองเท้ารุ่นนี้ก็ได้พรีเซ็นเตอร์เป็นนัก
บาสชื่อดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล คูเปอร์, โมเสส มาโลน, จามาล วิลค์ส, บ็อบบี โจนส์
แต่ถึงจะได้พรีเซ็นเตอร์ชื่อดังขนาดไหนก็ตาม แต่มันกลับกลายเป็นว่า Nike Air Force 1 ยังไม่กลายเป็นตัวเลือกแรกในตลาดรองเท้า เพราะสุดท้ายแล้วเหล่าผู้เล่นก็ยังนึกถึงแต่ Converse อยู่ดี จนทำให้ในที่สุด Nike Air Force 1 ก็ขอยอมแพ้ และ เลิกผลิตไปในปี 1984
แต่ความล้มเหลวของ Nike Air Force 1 ก็ไม่ได้เลวร้ายไปสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันคือสิ่งที่ทำให้ Nike หาแนวทางเจอ และ สามารถสร้างสรรค์รองเท้าฮิตสุดตลอดกาลอย่าง Air Jordan ได้สำเร็จ แต่ทว่าในทาง Nike กลับไม่รู้เลยว่า Nike Air Force 1 ของพวกเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ถนนสายแฟชั่น
เนื่องจากการที่รองเท้าเป็นสีขาวล้นนี่เอง ที่มันได้ทำให้หลาย ๆ คนสามารถทำไปตกแต่งลายตามแต่ใจต้องการได้ เลยทำให้มีหลาย ๆ คน รวมถึงร้านค้าเริ่มเรียกร้องให้ Nike เอารองเท้าบาสตัวนี้กลับมาวางขายอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าตอนแรกทาง Nike จะไม่สนใจเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายก็ทนการเรียกร้องไม่ไหวจนทำให้ในปี 1986 ทาง Nike ก็ตัดสินใจเอารองเท้ารุ่นนี้มาวางจำหน่ายอีกครั้ง แต่ตอนนั้น Nike วางจำหน่าย Nike Air Force 1 เพียงแค่ 1200 คู่ และยังวางจำหน่ายเพียงไม่กี่สีเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ Nike ถึงกับอ้าปากค้างนั่นก็คือ Nike Air Force 1
กลายเป็นสินค้าขายดีตั้งแต่วันแรก ถึงขนาดที่ว่ามีคนมาต่อคิวซื้อรองเท้ารุ่นนี้ตามร้านค้าต่าง ๆ ตั้งแต่ที่ร้านยังเปิดเสียอีก และ แน่นอนว่ามันถูกขายหมดเกลี้ยงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นแบบนี้ทาง Nike ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า สถานะของมันเปลี่ยนจากรองเท้าบาส กลายเป็นรองเท้าแฟชั่นโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ทาง Nike จึงได้ตัดสินใจวางแผนกลยุทธ์ของรองเท่ารุ่นนี้ใหม่ โดยการออกรองเท้ารุ่นนี้ทุก ๆ 1 เดือน และเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ
ซึ่งแผนการตลาดนี้ได้ส่งผลให้ Nike Air Force 1 โด่งดังไปถึงขีดสุด เพราะมันไม่เคยมีรองเท้าไหนในโลกที่สามารถเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ แต่ยังคงความสวยงามและ ความคลาสสิคแบบสุด ๆ ได้ตลอดเวลา จนทำให้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ Nike Air Force 1 ก็สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้อย่างภาคภูมิ
มาถึงตรงนี้มันคงมีหลาย ๆ เริ่มตั้งคำถามแล้วว่า เพราะอะไรกัน ทำไมรองเท้ารุ่นนี้ถึงไม่มีวันตาย ซึ่งก็ได้มีหลายคน ๆ ต่างออกมาวิเคราะห์ว่า จุดเด่นของ Nike Air Force 1 นั้นมีค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของรองเท้าที่สามารถเติมแต่งสีตามจินตนการลงไปได้ ทำให้แบรนด์แฟชั่น รวมถึง แบรนด์อื่น ๆ สามารถนำไป คอลแลบได้ง่าย แถมยังสามารถเติมจินตนาการอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ลงไปได้อย่างครบถ้วน
แต่ถึงว่าจะมีหลากแบรนด์ที่พยายามเติมแต่งสีสันรองเท้าให้มีเอกลักษณ์ แต่ทว่ารุ่นที่ขายดีที่สุดของ Nike Air Force 1 นั่นก็คือ รองเท้าสีแบบดั่งเดิมที่เป็นสีขาวล้วนในสมัยที่มันยังทำหน้าที่เป็นรองเท้าบาสนั่นเอง ซึ่งเพราะสีขาวล้วนของมันนี่แหละ ที่ไม่ว่าจะใส่กับเสื้อผ้าชุดไหน มันก็ดูดีไปหมด
ด้วยเหตุผลเหล่านี้นี่เองมันเลยทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรองรองเท้า อย่าง Nike Air Force 1 ถึงได้กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานยอดฮิตตลอดกาลของโลกรองเท้า ซึ่งหากใครยังไม่เคยมีรองเท้ารุ่นนี้สักคู่แล้วละก็ เราขอแนะนำให้คุณลองไปหามันมาสวมดู ไม่แน่คุณอาจจะหลงรักรองเท้านี้จนโงหัวไม่ขึ้นเลยละ dunkswin9
เครดิต : สล็อตเว็บตรง