ในโลกสมัยนี้สิ่งที่จะสามารถสร้างความบันเทิงให้กับเรานั้นมีอยู่มากมายหลากหลายประเภท ซึ่งการดูหนังดี ๆ สักเรื่องนั้นก็คือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยในการพักผ่อนของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากเป็นเมื่อสมัยก่อน การที่เราจะได้รับชมหนังสักเรื่อง หรือสารคดีดี ๆ อย่าง The Last Dance เราก็จำเป็นที่จะต้องถ่อกันไปถึงโรงหนังเพื่อเลือกดูหนังที่เราชอบ
แต่ทว่าในปัจจุบันด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปดูหนังนอกบ้านกันอีกแล้ว เพราะในปัจจุบันนี้มีระบบที่เรียกว่า สตรีมมิ่ง เข้ามาช่วยให้เราสามารถเลือกหาชมหนังดี ๆ ได้อย่างมากมาย
แต่เพราะระบบที่เริ่มมีการแข่งขันกันสูงขึ้น จึงทำให้สตรีมมิ่งหลายเจ้าเริ่มมีการผลิต content แข่งกัน และ หนึ่งในเจ้าตลาดสตรีมมิ่งที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงมีติดบ้านกันอยู่ในขณะนี้นั่นก็คือ Netflix ซึ่งทาง Netflix เองก็ได้มีการผลิตหนัง หรือ สารคดีเป็นของตัวเองมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ สารคดีอย่างเรื่อง The Last Dance
โดยสารคดีที่ชื่อว่า The Last Dance จะเล่าถึงเรื่องราวของราชาตลอดกาลของวงการบาสเกตบอล NBA อย่าง ไมเคิล จอร์แดน ในสมัยช่วงฤดูกาล 1997 – 1998 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลสุดท้าของเขากับ ชิคาโก บูลส์ นั่นเอง โดยสารคดีนี้ได้เกิดขึ้นโดยชายที่มีชื่อว่า เคลย์ ธอมป์สัน ชายผู้มีศักดิ์เป็นอาแท้ ๆ ของนักบาสชื่อดังแห่ง โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส อย่าง แอนดี้ ธอมป์สัน นั่นเอง
โดยเขาคนนี้เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการบาสเกตบอลมาอย่างยาวนานก่อนที่จะเริ่ม
คิดริเริ่มโปรเจ็ค The Last Dance
และ เขาก็ทราบดีว่าเรื่องราวของทีมอย่า ชิคาโก บูลส์ ในช่วงฤดูกาล 1997 – 1998 ต่อให้มันผ่านไปอีกสัก 10 หรือ 20 ปี เรื่องราวนี้มันก็จะต้องกลายเป็นตำนานเล่าขานอย่างแน่นอน นั่นก็เพราะว่าเขามองเห็นแล้วว่าทีมของเจ้ากระทิงนี้เป็นทีมที่กำลังจะสร้างประวัติศาตร์การคว้าแชมป์ NBA 3 สมัยติดต่อกัน แต่ทว่าในขณะเดียวกันผู้เล่นตัวเก๋าของทีม ก็เริ่มเข้าสู่บั้นปลายของอาชีพแล้ว เขาจึงคิดได้ว่า นี่มันอาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่โลกจะได้เห็นทีมบาสระดับสุดยอดขนาดนี้
และเมื่อความคิดทุกอย่างเกี่ยวกับโปรเจ็ค The Last Dance
ถูกกลั่นกรองมาแล้ว ธอมป์สัน ก็ตัดสินใจที่จะติดต่อไปยัง อดัม ซิลเวอร์ ประธานของ NBA Entertainment ในช่วงเวลานั้น เพื่อขออนุญาตที่จะส่งทีมงานไปตามตคิดชีวิตทีม ชิคาโก บูลส์ ในช่วงฤดูกาล 1997-98 และแน่นอนว่าความคิดนี้ได้ผลตอบรับ ทาง อดัม จึงได้ประสานงานกับทาง บูลส์ แต่ทว่ามันก็ไม่ด้ราบรื่นเหมือนที่คิดเอาไว้หรอกนะ
เพราะว่าตอนนั้นผู้เล่นแทบทุกคนของ ชิคาโก้ บูลส์ คือผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์
ที่ทุกภาพลักษณ์ของเขามีผลต่อจำนวนเงินอันมาหาศาล และ คนที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งนั่นก็คือ ตัวของ จอร์แดน เองนั่นแหละ เพราะเขาเกรงว่าเบื้องหลังด้านไม่ดีของเขาจะถูกบันทึกเก็บเอาไว้ด้วย แต่สุดท้ายตัวของ อดัม ก็ได้เกลี้ยกล่อมจอร์แดนได้สำเร็จ โดยใช้เหตุผลว่า ผลงานนี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ในยุคหลัง ใช้มันสมกับชื่อ The Last Dance
แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับอนุญาต และได้ถ่ายทำจนฟุตเทจดิบนั้นมีความยาวมาถึง 500 ชั่วโมงก็ตาม แต่ทว่า The Last Dance
กลับไม่สามารถถูกนำออกมาฉายได้ เนื่องจากตัวของ จอร์แดนเองยังคงยืนกรานว่า เขาไม่อยากจะทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองเสียดาย จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2016 ไมค์ ทอลลิน โปรดิวเซอร์แห่ง ESPN ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือสิทธิ์ของฟุตเทจดังกล่าวก็ได้รับการติดต่อโดยตรงจาก ไมเคิล จอร์แดน โดยทาง จอร์แดน ได้บอกว่าเขาต้องการฟุตเทจดังกล่ามาทำเป็นสารคดี และนั่นก็เปรียบเสมือนเสียงสวรรค์ที่ทำให้ประตูบานนี้ถูกเปิดออก
The Last Dance
นอกจากการเล่าเรื่องในช่วงเวลาแห่งตำนานของ ชิคาโก บูลส์ ในสารคดีนี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกเล่าออกมานั่นก็คือ เรื่องราวของผู้เล่นในตำนานอย่าง ไมเคิล จอร์แดน นั่นเอง โดยเรื่องราวของเขาจะพูกหเล่าตั้งแต่การไต่เต้าจากนักบาสในมหาวิทยาลัยไปจนถึงการที่เข้าได้ก้าวเข้าสู่การเล่นเป็นผู้เล่น NBA
ซึ่งไอ้ตอนที่เขามาเป็นผู้เล่น NBA แล้วนี่แหละที่ทำให้จอร์แดนกลัวเสียภาพลักษณ์เนื่องจากเขาคนนี้ได้เคยมีความขัดแย้งกัย
เจอร์รี่ เคราส์ ผู้จัดการทั่วไปทีม ชิคาโก บูลส์ นอกจากนั้นในเนื้อหาของสารคดียังมีการเล่าถึงเรื่องส่วนตัวของ จอร์แดน ในมุมที่หลาย ๆ คนไม่เคยรู้ ซึ่งบางมุมมันก็ไม่ค่อยจะดีนัก
หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยดูอาจจะคิดว่ามันจะแค่ไหนกันเชียว งั้นเราขอยกตัวอย่างให้เห็นแบบคร่าว ๆ เลยว่า ในฟุตเทจ The Last Dance
นี้มันจะมีการเล่าถึงเรื่องราวที่ตอนนั้น จอร์แดน ได้เคยซัดหน้าอดีตเพื่อร่วมทีมอย่าง สตีฟ เคอร์ ที่ปัจจุบันเขาคนนี้โค้ชของทีมแห่งประวัติศาสตร์ยุคใหม่อย่าง โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส นั่นเอง
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกนำเสนอในสารดีของ The Last Dance นั่นก็คือ มิตรภาพที่บอกเลยว่าแปลกแต่จริงของ The Magic Trio แห่งชิคาโก้ บูลส์ อย่าง จอร์แดน, สกอตตี พิพเพน, และ เดนนิส รอดแมน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะทราบกันดีกว่า พวกเขาทั้ง 3 คนนี้แม้ว่าจะมีการประสานงานการที่ลงตัวในสนาม แต่ว่าความสัมพันธ์นอกสนามของพวกเขาจัดได้ว่าย่ำแย่
และส่วนสำคัญหลักอันเป็นหัวใจของสารดคีเรื่องนี้นั่นก็คือ ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตรของพวกเขาในปี 1997 – 1998 ซึ่งเรียกได้ว่าแม้จะมีผู้เล่นที่ดีที่สุดแล้วก็ตาม แต่เราก็ต้องยอมรับว่าบรรดาเหล่าสตาร์นั้นค่อนข้างที่จะโรยราไปมาแล้ว มันจึงทำให้เราค่อนข้างที่จะลุ้นและตื่นเต้นไปกับการได้เห็นช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากจบฤดูกาลนี้ เหล่าสตาร์แต่ละคน ต่างก็แยกย้าย เพื่อไปหาเส้นทางเดินใหม่ของตัวเอง
ซึ่งมุมมองต่าง ๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมานี้จะถูกทำออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน ใครที่เป็นคอกีฬาแล้วกำลังเบื่อ ๆ ไม่รู้จะหาอะไรดูอยู่แล้วละก็ The Last Dance คือคำตอบของคุณ dunkswin9
เครดิต : สล็อตแตกง่าย