การครองแชมป์ในแต่ละประเภทกีฬานั้นถือได้ว่าเป็นการแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาเหล่านั้นมีฝีมืออันสุดยอดขนาดไหน ดังนั้นมันจึงไม่แปลกเลยว่าทำไมแต่ละทีมต่างก็ต้องการไล่ล่าคว้าแชมป์มาครองกันขนาดนั้น และหนึ่งในทีมบาสเกตบอล NBA ที่สามารถพิสูจน์ถึงความเป็นยอดฝีมือของพวกเขาได้ในฤดูกาล 2022 – 2023 ที่ผ่านก็คงหนีไม่พ้นทีมอย่างเดนเวอร์ นักเก็ตส์ ซึ่งเพราะความยอดเยี่ยมของพวกเขาเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เราได้นำมาวิเคราะห์กันว่า
เพราะเหตุผลอะไรทำไมพวกเขาถึงสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งสำหรับคนที่เพิ่งเจอบทความนี้เป็นครั้งแรก เราขอแนะนำให้คุณกลับไปย้อนอ่านบทความวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ภายในเว็บไซต์กันก่อน เพื่อดูว่าแต่ละส่วนนั้นมีความสำคัญอย่างไร ส่วนสำหรับใครที่กำลังรอการวิเคราะห์ต่ออยู่แล้วละก็ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะพาทุก ๆ คนไปพบกับ หลักสูตรแชมป์ของเดนเวอร์ นักเก็ตส์ กัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นเอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลย
การหาพื้นที่ว่าง
อย่างที่คุณได้เห็นมาในหลาย ๆ ฤดูกาลคุณก็น่าจะรู้แล้วเซนเตอร์อย่างโยคิชนั้นไม่ได้เพิ่งมาร้อนแรงเอาเพียงแค่ฤดูกาลที่ได้แชมป์เป็นครั้งแรก และนั่นเองจึงทำให้การที่จะสามารถสยบเขาได้นั่นก็คือการรุม แต่เพราะการเข้าไปรุมตัวของโยคิชนี้เองมันจึงทำให้เกิดพื้นที่ว่างขึ้น และตัวของเซนเตอร์รายนี้เองก็ฉลาดพอที่จะวางบอลแม่น ๆ ให้กับผู้เล่นของทีมคนอื่น ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ว่างเพื่อทำเกมบุกได้อย่างไหลลื่น
เกมรับที่ไม่ได้โดนทิ้งให้โดดเดี่ยว
และอย่างที่เราไปบอกไปว่าการมีพื้นที่ว่างในการเล่นนั้นค่อนข้างสำคัญดังนั้นผู้เล่นในเกมรับเองก็คือหนึ่งในส่วนสำคัญในการหาช่องว่างเหล่านั้นเพื่อให้ตัวทำแต้มหลักอย่างโยคิช ซึ่งหน้าที่นี้ตัวของ Caldwell-Pope และ Aaron Gordon ถือทำออกมาได้ดี จนทำให้พื้นที่ในเกมรุกของโยคิชนั้นเปิดกว้าง และเมื่อทั้ง 2 สิ่งนี้สามารถผสานกันได้อย่างลงตัวมันจึงทำให้ทีมค่อนข้างสมดุลมาก ๆ เลยทีเดียว
เกมรุกหลากหลายรูปแบบที่ยากจะต้าน
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ตัวของโยคิชน่ากลัวมาก ๆ นั่นก็คือหากเจอการประกบแบบ 1 – 1 ตัวเขาเองก็สามารถที่จะถอยออกมาทำแต้มในระยะอื่นได้ จึงทำให้เดนเวอร์ค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพในเกมรุกอันหลากหลาย แต่แน่นอนว่าผู้เล่นเพียงคนเดียวก็คงไม่สามารถทำได้ขนาดนี้หรอก เพราะเอาจริง ๆ แล้วเดนเวอร์ยังมีคนที่คอยช่วยทำแต้มอยู่เบื้องหลังโยคิชอีกคน โดยเขาคนนั้นก็คือ Jamal Murray
โดยการจับคู่ของทั้งคู่นี้มันถือได้ว่าเป็นฝันร้ายของทีมที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่หูนรกคู่นี้กันเลยทีเดียว เพราะมันทำให้เกมรับต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเขาจะต้องตั้งเกมรับอย่างไร เนื่องจากหากเขาตั้งใจที่จะเล่นแบบคุมใต้แป้นมันก็จะกลายเป็นฝั่งของ Jamal Murray นี่แหละที่จะรับหน้าที่อาสากด 3 แต้ม แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามทีมฝั่งตรงข้ามเลือกที่จะดันตัวออกมาตามประกอบเมอร์รี่ในวงนอกแล้ว มันก็อาจจะกลายเป็นแมอร์รี่ หรือ โยคิช ก็ได้ที่วิ่งเข้าไปจบสกอร์ที่ใต้แป้นแทน ซึ่งเกมรุกที่หลากหลายเพราะการมีพาร์ทเนอร์คอยช่วยเสริมนี้เองจึงทำให้เดนเวอร์กลายเป็นทีมที่มีอาวุธค่อนข้างครบ แถมเรื่อง 3 แต้มชั่วโมงนี้บอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นโยคิช หรือ เมอร์รี่ ใครก็ได้ทั้งนั้น
การอ่านเกม
และหนึ่งในส่วนหนึ่งที่ทำให้เดนเวอร์สามารถก้าวมาถึงแชมป์ได้นั่นก็คือการอ่านเกม ซึ่งบรรดาเหล่าผู้เล่นไม่ว่าจะเป็น Bruce Brown หรือ Christian Braun ก็เป็นผู้เล่นที่สามารถคัตและอ่านพื้นที่ของเกมได้ค่อนข้างดี แต่ที่เราต้องชมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Aaron Gordon ชายที่เรามองว่าเขาสามารถเล่นเข้าขากับโยคิชได้มากที่สุด
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เดนเวอร์ต้องเจอกับสถานการณ์สุดยากลำบาก เขาคนนี้นี่แหละคืออีกหนึ่งทางออกที่ทุกคนไว้วางใจ และเมื่อเกมรุกที่ยอดเยี่ยมมาบรรจบกับเกมรับอันแข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้เลยกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แข็งแกร่งพอที่จะคว้าแชมป์มาครอง
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของหลักสูตรแชมป์ของเดนเวอร์ นักเก็ตส์ที่เราได้มาวิเคราะห์ให้กับทุก ๆ คนได้รู้กัน ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันต่อว่าในฤดูกาล 2023 – 2024 นั้นพวกเขายังจะสามารถรักษาฟอร์มเหล่านี้เอาไว้จนกลายเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกันได้หรือไม่